ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1409
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

"พระสุภูติขอฝน"

[คัดลอกลิงก์]
ประติมากรรมรูปพระสุภูติ สร้างขึ้นในพระราชพิธีพิรุณศาสตร์หรือพิธีขอฝน ทำเป็นรูปพระภิกษุมีกายอ้วนใหญ่ มีผิวสีนิล นั่งขัดสมาธิแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า มือหนึ่งทำกิริยากวักเรียกฝน นิยมสร้างขึ้นเป็นรูปปั้นหรือหล่อ ปรากฏหลักฐานในการพระราชพิธีพิรุณศาสตร์สืบมาแต่ครั้งพระเจ้าบรมโกษฐ์ ในสมัยอยุธยาตอนปลายเป็นอย่างน้อย สืบเนื่องต่อมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ราวต้นรัชกาลที่ ๕ พระราชพิธีนี้จึงเลิกไป
คติการสร้างพระสุภูติในพิธีขอฝน มีที่มาปรากฏอยู่ใน "พระสุภูติเถรคาถา" มีความโดยสังเขปว่า พระสุภูติอุปสมบทเป็นพระภิกษุในวันที่ติดตามอนาถบิณฑิกเศรษฐีมาในการถวายพระเชตวันวิหาร จากนั้นได้ตั้งความเพียรในการศึกษาพระธรรมและกัมมัฏฐาน จนบรรลุอรหัตผลแล้ว ได้จาริกไปยังชนบทต่าง ๆ เพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก ครั้งหนึ่งจาริกถึงกรุงราชคฤห์ พระเจ้าพิมพิสารได้เสด็จไปยังสำนักของพระสุภูติ และอาราธนาให้อยู่ในเมืองนั้น โดยดำริว่าจะสร้างกุฎีถวาย แต่เมื่อเสด็จกลับมาแล้วทรงลืมเสีย พระสุภูติไม่มีกุฎีที่คุ้มบังจึงพำนักอยู่กลางแจ้ง ขณะนั้นเป็นฤดูฝน ด้วยอานุภาพของพระสุภูติ บันดาลให้ฝนไม่ตกลงมาเลย ชาวพระนครจึงพากันไปร้องทุกข์ต่อพระราชา พระเจ้าพิมพิสารทรงระลึกได้ว่า เหตุที่ฝนไม่ตกชะรอยจะเป็นเพราะพระสุภูติประทับอยู่ในที่แจ้ง จึงมีรับสั่งให้สร้างกุฎีมุงด้วยใบไม้ถวาย แล้วนิมนต์พระเถระให้อยู่ในกุฎีนั้น เมื่อพระเถระเข้าสู่พระกุฎีแล้ว ฝนก็ตกลงมาเพียงเล็กน้อย พระสุภูติประสงค์จะบำบัดภัยที่เกิดจากฝนตกแต่น้อย จึงกล่าวพระคาถาขอให้เทพยดาบันดาลให้ฝนตก ฝนก็ตกลงมาเป็นอัศจรรย์ ในพิธีขอฝนจึงได้ใช้ความในพระคาถาดังกล่าว สวดเสกรูปปฏิมาพระสุภูติและสวดในระหว่างพิธี เรียกว่า "คาถาสุภูโต" หรือ "สวดสุภูโต"
นอกจากนี้ประติมากรรมรูปพระสุภูติ ยังอาจมีที่มาจาก "นิทานพระสุภูติ" ซึ่งแต่งขึ้นในชั้นหลังดังมีเนื้อความกล่าวว่า พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดฯ ให้พระสุภูติ นั่งที่กลางแจ้ง เข้าอาโปกสิณเพื่อบันดาลให้ฝนตก ทั้งนี้ต้องกับหลักฐานธรรมเนียมการตั้งรูปพระสุภูติอยู่กลางแจ้งในมณฑลพระราชพิธี
จากประวัติพระสุภูติเถระ กล่าวว่าเป็นผู้มีรูปกายงาม มีผิวดังทอง จึงได้นามว่า "สุภูติ" หากแต่ประติมากรรมรูปพระสุภูติ สร้างขึ้นโดยคติเพื่อความอุดมสมบูรณ์ จึงกำหนดให้มีรูปกายอ้วนใหญ่ หมายถึงความมั่งคั่งบริบูรณ์ และผิวกายสีนิล อันเป็นสีของมหาเมฆตั้งเค้าใหญ่ ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นสิริมงคลในพระราชพิธีพิรุณศาสตร์นั่นเอง
ที่มาของข้อมูล : "พิพิธภัณฑสาร" โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ฉบับที่ ๒ มกราคม – มีนาคม ๒๕๔๘
ภาพประกอบ : ประติมากรรมพระสุภูติ ในพิธีขอฝน ซึ่งจัดแสดงอยู่ภายในอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร


ขอบคุณครับ ผมรับทราบว่า คาถาขอฝนบางบท ผู้ชราเล่าว่า คนภาวนาต้องลงอักขระฝ่ามือและนั่งกลางแจ้ง(ตากแดด) ยกมือที่ลงอัขระชูขึ้นฟ้า จึงจะสำฤทธิ์ผล คงมีความเชื่อจากเรื่องนี้รือเปล่า.....
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้