ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1888
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

'อุเทน' ตอกศาล รธน.เคสยกฟ้องจ้างพรรคเล็ก จี้ทบทวนอำนาจองค์กรอิสระ

[คัดลอกลิงก์]

'อุเทน' ตอกศาล รธน.เคสยกฟ้องจ้างพรรคเล็ก จี้ทบทวนอำนาจองค์กรอิสระ

"อุเทน" ยกเคสศาลยกฟ้อง "ธรรมรักษ์" จ้างพรรคเล็ก สะท้อนการทำหน้าที่ ศาล รธน.สร้างความสับสนมากกว่าไขความจริง จี้ กรธ.ทบทวนอำนาจองค์กรอิสระ ชู ปชต.ต้องมี 3 เสาหลักเท่านั้น ไม่ควรปล่อยให้องค์กรใดบั่นทอนประเทศ...

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวกรณีที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุกอดีตเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และอดีตนักการเมือง จากคดีที่พรรคไทยรักไทยถูกกล่าวหาว่า จ้างวานพรรคเล็กลงสมัครเลือกตั้งเมื่อปี 49 ขณะที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการไปก่อนหน้านี้ว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ต่อเนื่องมาถึงศาลฎีกา มองได้ว่า พยานหลักฐานในคดีนี้ไม่เพียงพอที่จะเอาผิดพรรคไทยรักไทยที่ถูกกล่าวหาว่าจ้างวานพรรคเล็ก แต่กลับมีน้ำหนักให้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยยุบพรรค และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคทั้ง 111 คน ไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ซึ่งสร้างความสับสนอย่างมากให้กับสังคม ต่อการตัดสินของศาลยุติธรรมกับศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงว่า ใครกันแน่เป็นผู้จ้างวานพรรคเล็กให้ลงสมัคร และใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคำให้การของพยานหรือผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด

นายอุเทน กล่าวต่อว่า ตรงนี้ก็มีคำถามไปถึงการทำหน้าที่ของ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญว่าได้พิจารณาบนพื้นฐานข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงไหน หรือให้น้ำหนักกับพยานบุคคลเพียงอย่างเดียว ทำให้เราต้องมาคิดทบทวนกันว่า หากมีการเพิ่มอำนาจให้องค์กรอิสระตามร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แล้วเราจะเชื่อมั่นในความถูกต้องชอบธรรมได้ขององค์กรเหล่านี้ได้แค่ไหนเพียงใด

"อย่าลืมว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นระบบกล่าวหา และให้น้ำหนักกับพยานบุคคล การกล่าวหาพรรคไทยรักไทย จนมีผลให้ถูกยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคนั้น ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นผู้จ้างวานพรรคเล็กเหล่านั้นกันแน่ และอาจมีกระบวนการวางยาสร้างพยานเท็จขึ้นมาจากฝ่ายตรงข้าม หรือผู้ถูกกล่าวหาอาจจะกระทำผิดจริงก็ได้" นายอุเทนกล่าว

นายอุเทน กล่าวต่อว่า จากเรื่องนี้จึงเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญควรอยู่ภายใต้บทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญ หมวด 10 ที่ว่าด้วยเรื่องศาล เพื่อขึ้นตรงและเข้าระบบ 3 ศาล คือ ชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกา ที่มีการยื่นคำร้องต่อสู้เพื่อให้ศาลได้พิจารณาทบทวนตามขั้นตอน ผิดกลับศาลรัฐธรรมนูญที่ถูกวางระบบให้เป็นศาลเดียว ที่ฝ่ายผู้ถูกตัดสินไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ หรือฎีกาได้เลย ซึ่งในความเป็นจริงเมื่อเรามีศาลสถิตย์ยุติธรรมอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องแยกออกเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ที่มักถูกมองว่าเป็นศาลการเมืองแต่อย่างใด

นายอุเทน กล่าวว่า พรรคคนไทยเชื่อใน 3 เสาหลัก คือ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ไม่ควรมีองค์กรใดเป็นอิสระจากเสาหลักของประชาธิปไตยเหล่านั้น อีกทั้งนับแต่ มีการใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ซึ่งมีองค์กรอิสระเป็นต้นมา ก็พบปัญหาจากองค์กรเหล่านี้มากมาย อีกทั้งในขณะที่มีหน้าที่ตรวจสอบผู้อื่น แต่ก็มีการกระทำผิด และถูกกล่าวหาเสียเอง ทั้ง กกต. หรือ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เราต้องตระหนักและไม่ควรหลอกตัวเองว่า ประเทศไทยยังไม่พัฒนาถึงขนาดจะมีองค์กรใดมาทำหน้าที่อย่างอิสระ โดยขาดการถ่วงดุลจากองค์กรอื่นๆ



http://www.thairath.co.th/content/573783



ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้