สัมเร็จลุน แขวงจำปาสัก

Sornpraram

สัมเร็จลุนเป็นพระมหาเถระที่โด่งดังทางด้านฤทธิเดชในเขตแขวงจำปาสัก มีเกจิอาจารย์ชื่อดังของไทยหลายท่านศึกษาแนวทางการปฏิบัติธรรม เคยพำนักจำพรรษาร่วม หลวงปู่สำเร็จลุนเกิดที่บ้านหนองไฮท่า ตำบลเวินไซ เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก หลวงปู่สำเร็จลุนเกิดปีฉลู พ.ศ.2396 ท้าวลุนเมื่อครั้นเป็นเด็กน้อยไฝ่ไปทางบวช พ่อแม่จึงนำไปฝากให้บวชเป็นสามเณรที่บ้านหนองไฮท่านั่นเอง อยู่ต่อมาข่าวว่าพระอาจารย์วัดบ้านนาโหล่งเป็นพระกัมปัฏฐานที่มีชื่อเสียง เคร่งครัดพระธรรมวินัย โดยเฉพาะชื่อเสียงด้านฌานอภิญญา ก่อนท่านมรณภาพท่านได้สั่งลูกศิษย์ไว้ว่า หากมรณภาพไม่ต้องผลัดเปลี่ยนผ้าครอง ไม่ต้องอาบน้ำศพ เอาศพทั้งชุดพระใส่โลง เมื่อท่านนาโหล่งมรณภาพก็จัดการศพตามที่ท่านได้สั่งไว้ทุกประการ แต่อนุญาตให้ใครประสงค์จะดูก็ดูได้

สามเณรลุนไปงานศพนั้นด้วยก็อยากขึ้นดู ขออนุญาตพระเถระขึ้นดูซึ่งตามปกติไม่อนุญาตเพราะอายุยังน้อยแต่แปลกตรงที่ไม่ห้ามสำเร็จลุน เมื่อสามเณรลุนพิจารณาสังขารพระอาจารย์นาโหล่งเหลือบไปเห็นหนังสือใบลานผูกเล็กๆหนีบไว้ที่ใต้รักแร้ เหมือนพระอาจารย์นาโหล่งตั้งใจมอบให้สามเณรลุน ดลใจให้เห็นและหยิบเอา สามเณรลุนยกมือไหว้แล้วรีบดึงเอาหนังสือใบลานนั้นออกจากรักแร้เก็บไว้ในจีวรโดยไม่มีใครเห็น หลังจากงานศพเสร็จแล้วสามเณรก็หายไปไร้ร่องรอยไม่มีใครรู้ว่าสามเณรลุนหายไปอยู่ที่ไหน
มีเรื่องเล่าว่าหนังสือใบลานที่สามเณรลุนดึงออกจากพระอาจารย์นาโหล่งเป็นสมบัติตกทอดจากพระครูหลวงโพนเสม็ดหรือพระยาครูขี้หอมอริยะสงฆ์สองฝั่งโขง  ผู้บูรณะต่อเติมองค์พระธาตุพนมองค์ที่โค่นล้มเมื่อปี พ.ศ.2518 สามเณรลุนหายตัวไปเกือบ 2 ปี ไม่มีใครทราบกลับมาที่วัดหนองไฮท่า ถึงเวลาบวชเป็นพระพอดี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุลุนอยู่ที่บ้านเวินไซ พระภิกษุลุนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนจำนวนมาก ชาวบ้านจึงได้ทำน้ำพุทธาภิเษก สรงน้ำให้ท่านเป็นสำเร็จลุน
หลวงปู่สำเร็จลุนเป็นพระมหาเถระที่โด่งดังทางฤทธิ์ มีเรื่องเล่าว่าสำเร็จลุนสามารถไปบิณฑบาตรที่กรุงเทพกลับมาฉันท์ที่วัดเวินไซ เอาเท้าเหยียบเรือฝรั่งเศสที่บรรทุกคนได้พันคนเกือบล่ม ถ้าไม่ยกเท้าออกมีหวังเรือล่ม แปลงร่างคนเป็นสัตว์ได้ ล่องหนหายตัวได้ โปรดได้ทั้งคน เทวดาและพวกลับแล เสกเป่าให้ผู้คนหายป่วยได้ อภินิหารนี้สำเร็จลุนแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์กับผู้คนทั่วไป วาระสุดท้ายของสำเร็จลุนสิริรวมอายุได้เพียง 60 ปี มรณภาพด้วยความสงบที่วัดบ้านเวินไซในเวลาตีสี่เศษๆของวันพุธที่ 24 ตุลาคม 2466 ตรงกับวันขึ้น 15ค่ำเดือน 11 ปีกุล ธาตุหรือเจดีย์ที่บรรจุอัฐิของหลวงปู่สำเร็จลุนตั้งอยู่ที่บ้านเวินไซใหญ่ เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก ส่วนเมรุเผาศพท่านนั้นได้เกิดเป็นต้นโพธิ์ใหญ่ 5 ต้น ระยะหลังได้สร้างวัดขึ้นอีกที่บริเวณต้นโพธิ์ 5ต้น เรียกว่าวัดโพธิ์เวินไซ มาจนถึงทุกวันนี้

ที่มา.http://www.tteen.net/variety/images/20040430093656.gif.

Guinanga

สาธุ

Sornpraram

Guinanga ตอบกลับเมื่อ 2013-7-11 11:57
จริงๆรูปนี้ไม่ใช่รูปสพเร็จลุนท่านครับ เคยมีผู้ค้นค ...

ขอบคุณครับที่ท้วงติง ใครมีรูปท่านบ้างจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง

Guinanga

http://www.ubonpra.com/board/index.php?topic=468.0  

chakpetch

ไม่ทราบว่าเป็นเกจิอาจารย์ท่านใด
แต่ยันต์บนรูปเหมือนยันต์นกถึดทือเลยนะครับ

Sornpraram

Guinanga ตอบกลับเมื่อ 2013-7-11 12:45
http://www.ubonpra.com/board/index.php?topic=468.0

เข้าไปอ่านดูแล้วเหมือนกับว่ายังหาข้อสรุปที่ชัดเจนยังไม่ลงตัวเลยครับ

chakpetch

     ถ้าบอกว่ารูปนี้เป็น ภิกษุณี หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ วัดถ้ำกระบอก
คงจะไม่น่าใช่แน่นอนอะครับ

ลองเทียบกับรูป หลวงพ่อใหญ่ วัดถ้ำกระบอก ภาพนี้ได้ครับ



ซึ่งภาพที่พี่ศรเอามาลง ก็เป็นที่ถกเถียงกันมากว่าใช่สมเด็จลุนจริงหรือเปล่า ??

ผมก็เคยได้ยินอาจารย์เล่าเรื่อง " หลวงปู่ฮิง พบ สมเด็จลุน "
ก็มีความเชื่อว่า ภาพที่พี่ศรนำมาลงมีลักษณะจำเพาะ เหมือนดังที่หลวงปู่ฮิงเคยเล่ามาเลยนะครับ

chakpetch

สองภาพนี้ ก็มีลักษณะที่ใกล้เคียงเหมือนกันนะครับ

ภาพหนึ่งเป็นภาพวาดจากวัดทางฝั่งลาว อีกภาพเป็นรูปที่เเผ่หลายในประเทศไทย
สงสัยต้องให้พี่ธุลีดินไปตามล่าหาความจริงซ่ะแว้ววว อิอิ

kit007

เรื่องเล่า ทดสอบวิชากับหลวงปู่ศุข

สำเร็จลุนเป็นพระผู้ทรงอภิญญาแห่งประเทศลาวเช่นกัน มีเรื่องเล่าว่า มีพระเฒ่าองค์หนึ่งได้เคยเข้าไปทดสอบวิชากับหลวงปู่ศุข พอพระเฒ่าเข้าไปถึง


หลวงปู่ศุขก็เอ่ยถามว่า “ท่านมาจากที่ไหนครับ”

พระเฒ่าเอ่ยตอบมาว่า “ผมมาจากนครเวียงจันทร์ครับ”

หลวงปู่ศุขถามต่อไปว่า “แล้วท่านมีภารกิจอันใดให้ผมรับใช้ครับ”

พระเฒ่าตอบมาว่า “กระผมอยากรู้ว่าสมภารเจ้าแห่งวัดมะขามเฒ่าเก่งจริงดังที่เขาเลื่องลือไหม”

พอหลวงปู่ศุขฟังจบท่านก็หันไปรูดใบมะขามเสกพร้อมตอบไปว่า “ผมขอโทษนะครับ”

หลวงปู่ศุขก็ได้ขว้างใบมะขามออกมา กลายเป็นต่อและแตน บินพุ่งเข้าใส่พระองค์นั้น พระเฒ่าองค์นั้นได้ยกมือขึ้นรับต่อและแตน แทนที่ต่อและแตนจะบินเข้าไปต่อยพระเฒ่า แต่กลับบินเข้าไปอยู่ในมือและกลายเป็นใบมะขามเหมือนเดิม

หลวงปู่ศุขเลยเอ่ยถามพระเฒ่าว่า “ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร โปรดเมตตาต่อข้ากระผมด้วยครับ”

พระเฒ่าตอบด้วยความเคารพเช่นกันว่า “กระผมคือสำเร็จลุนครับ”

หลวงปู่ศุขเลยพนมมือทำความเคารพและกล่าวไปว่า “กระผมได้ยินแต่ชื่อเสียงพึ่งเห็นตัวจริงวันนี้นี่เอง เหมาะสมที่ได้ชื่อว่าสำเร็จลุนจริงๆ”

Credit: http://board.palungjit.com/f4/%E ... 0%B8%81-141242.html

รูปเหมือนสมเด็จลุน

อัฐิธาตุของหลวงปู่สมเด็จลุน

sritoy

กราบสมเด็จลุนครับสาธุ