ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4097
ตอบกลับ: 6
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ย่องตอด

[คัดลอกลิงก์]

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-12-1 20:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
[size=41.6852px]อ้ายย่องตอดเป็นชาวบ้านด่านสิงหล ถึงจะเป็นลูกเศรษฐีมีเงิน แต่เป็น
[size=41.6852px]ชายขี้อายและโง่เขลาจนซมเซอะ ครั้นพ่อแม่ขอเมียมาให้ครองคู่ อ้ายย่องตอด
[size=41.6852px]ก็ไม่ยอมเข้าหอสู่สมด้วย ยามกลางวันก็อ้างว่าอายเพราะสว่างไป ยามกลางคืนก็อ้างว่ามืดมองไม่เห็น จึงต้องกะสับกระส่ายกระสันเสียวอยู่คนเดียวเสียช้านานวันหนึ่งอ้ายย่องตอดเกิดอารมณ์อยากสมสู่กับเมีย แต่แทนที่จะเล้าโลมให้ยินยอมกลับใช้กำลังเข้าข่มขืน จึงถูกเมียต่อสู้หยิกข่วนทั่วใบหน้า ทั้งจิกถีบถูกลูกตาข้างขวาของอ้ายย่องตอดจนตาบอดต้องกระโดดหนี เมื่อตาขวาบอดด้วยความเสียดายจึงเอาลูกตาใส่ปากกลืนกินเข้าไปเหลือเพียงตาซ้ายข้างเดียว แล้วเกิดความอายผู้คนจึงวิ่งหนีเข้าป่าไปหลบอยู่ที่ถ้ำกลำพัน ได้คบหาเรียนวิชากับปีศาจในถ้ำจนอยู่ยงคงกะพันมีกำลังและฤทธิ์เดชเป็นผีดิบ ออกเที่ยวจับเสือสิงห์ในป่ากินเป็นอาหารจนสัตว์น้อยใหญ่แทบจะหมดป่า

[size=41.6852px]คืนหนึ่งอ้ายย่องตอดออกจากถ้ำด้วยความหิว เห็นหน้าค่ายพักกองทัพเมืองลังกาของนางละเวงวัณฬายังมีกองไฟสว่างอยู่ แต่ไม่เห็นผู้คนเพราะเทวดาศักดิ์สิทธิ์ประจำนางละเวงช่วยปิดบังไว้ เห็นแต่ฝูงม้าลากรถรวมกลุ่มอยู่ อ้ายย่องตอดโดดถลาเข้าฟัดกัดกินฝูงม้าเป็นอาหาร ส่วนที่เหลือก็ลากเอาไปให้ฝูงผีที่ ถ้ำกลำพันแบ่งกันกิน ฝูงม้าลากรถนางละเวงถูกกินจนหมดสิ้น แต่อ้ายย่องตอดยังเดินค้นหาเหยื่อรอบภูเขาเพราะได้กลิ่นมนุษย์ จนมาถึงที่พักนางละเวงบนรถทรง นางละเวงตื่นจากหลับคลับคล้ายเห็นมีคนเข้ามาเมียงมอง จึงกระชับตราพระราหูอาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกาย สะกิดปลุกนางยุพาผกาและนางสุลาลีวันที่อยู่ข้างกาย แต่ก็หลับสนิททั้งสองนาง เพราะมนต์สะกดของอ้ายย่องตอดทำให้ไพร่พลสลบไสลทั้งกองทัพ อ้ายย่องตอดปีนป่ายขึ้นท้ายรถไล่จับนางละเวง นางจึงกวัดแกว่งตราพระราหูป้องกันตัวจนเปล่งเป็นประกายแสง เมื่อจวนเจียนอ้ายย่องตอดเข้าถึงตัว นางจึงฟาดด้วยตราพระราหูเข้าหัวอ้ายย่องตอดล้มสลบประหนึ่งตาย ทำให้มนต์สะกดเสื่อมผู้คนทั้งกองทัพตกใจตื่น เห็นนางละเวงตีผีดิบสลบก็วิ่งกรูกันเข้ามาช่วยรุมจับเอาเชือกมัดร่างอ้ายย่องตอดไว้ ยุพาผกาและ สุลาลีวันเข้ากราบทูลถามเรื่องราว นางละเวงเล่าความตามที่ประสบ ครั้นรุ่งสว่างฟ้าแจ้งจึงพากันเข้าพินิจดูอ้ายย่องตอด เห็นลักษณะเหมือนแขกกุลา มีตาข้างเดียวมีเขี้ยวโง้ง หน้าลายพร้อยเพราะรอยเมียข่วน ผมหยิก คล้ายผีผูก จมูกโด่งโค้งยาว นุ่งใบไม้รุงรังหลังโก่งโกง ปากเหม็นกลิ่นสางดังปากจระเข้

[size=41.6852px]อ่านต่อได้ที่ : [size=41.6852px]http://www.ryt9.com/s/nnd/834282
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-12-1 20:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ณะผู้คนเข้าพูดจาห้อมล้อม อ้ายย่องตอดฟื้นจากสลบกระโดดสลัดเชือก
ผูกมัดไว้หลุดออกจากกาย นางละเวงเข้าตีซ้ำอีกครั้งด้วยตราพระราหูถูกอ้ายย่องตอดล้มดิ้นแทบสิ้นชีวิต พลันเห็นนางละเวงถือตราพระราหู เกิดอัศจรรย์ดังปรากฏร่างพระนารายณ์ผู้ทรงบุญฤทธิ์ จึงรีบก้มลงกราบกรานด้วยความกลัว ให้นางละเวงไล่เรียงซักไซร้ถามประวัติ

อ้ายย่องตอดลิ้นแข็งพูดไม่ค่อยจะชัดเพราะไม่ได้พูดจามาช้านาน แต่ก็ฟัง
ความพอเข้าใจ จึงแจ้งว่าข้าชื่ออ้ายย่องตอด มาอยู่ร่ำเรียนวิชามนต์ขแมร์ร่วมกับ
ฝูงผีที่ถ้ำกลำพัน เป็นศิษย์ท่านเทวาวราฤทธิ์ เที่ยวเสาะหาสูบเลือดสารพัดสัตว์
ชอบกินเนื้อเสือเหลืองเป็นอาหาร มีวิชาอยู่ยงคงกะพันใครฆ่าไม่ตาย สู้อาวุธได้ทุกชนิดยกเว้นตราพระราหู ถูกจับได้ครั้งนี้จะขอสวามิภักดิ์อาสาเป็นผู้ชักรถทรงแทนฝูงม้าที่ถูกตนจับกินหมดสิ้นแล้ว จะเป็นข้านำพาไปทุกหนแห่งแล้วแต่จะบัญชาจนกว่าจะได้ฝูงอาชาใหม่มาทดแทน

นางละเวงวัณฬาฟังความแล้วให้เกิดสังเวชสงสาร แต่อ้ายย่องตอดเป็นผีดิบผิดวิสัยที่จะให้อยู่ด้วย จึงปรึกษายุพาผกาและสุลาลีวันว่า วิสัยอ้ายย่องตอดโหดร้ายและกินเลือด จะพาเข้าไปอยู่ด้วยในเมืองก็กลัวจะไปฆ่าผู้คนกินเป็นอาหาร สองนางเห็นว่า เป็นโอกาสดีที่ครั้งนี้จะได้ผู้มีกำลังมาช่วยสู้ศึก อ้ายย่องตอดจะรับหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งเป็นสามารถ ใครพิฆาตฆ่าก็ไม่ตายแต่แพ้ตราพระราหู จึงอาจบังคับควบคุมมันได้โดยไม่พยศ ขณะนี้กำลังมีศึกประชิดติดเมือง เหมาะที่จะได้อ้ายย่องตอดไว้ต่อสู้ประจัญบานกับศัตรู ทั้งขณะนี้อยู่ในป่าใหญ่ ยามพบศัตรูร้ายที่ไหนก็จะได้อาศัยมันช่วยต่อสู้ป้องกัน หากปล่อยผีไว้ที่ถ้ำเช่นเดิมก็อาจจะไปเบียดเบียนผู้อื่น ขอทรงให้มันนำทางไปที่ถ้ำใหญ่จะได้ปราบปรามผีร้ายอื่นในถ้ำให้หมดสิ้นด้วย

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/834282
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-12-1 20:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
[size=41.6852px]งละเวงวัณฬาเห็นด้วยกับสองนาง ทรงแต่งองค์เสร็จสรรพแล้วจัดทัพให้อ้ายย่องตอดชักรถแทนม้าพาไปถ้ำผี อ้ายย่องตอดสอดตัวเข้าลากรถ พาลิ่วเข้าป่าขึ้นเขาไปอย่างรวดเร็ว ครั้นถึงปากถ้ำกลำพันเห็นแต่พวยควันพุ่งออกจากถ้ำ ด้วยพวกผีต่างแตกตื่นกลัวตราพระราหู อ้ายย่องตอดทรุดตัวลงพลางแจ้งว่า พวกผีป่าเทวดาในถ้ำรู้ว่ามีภัยมาต่างหนีหายไปหมดแล้ว นางละเวงสั่งให้เก็บซากศพเศษเนื้อกระดูกหนังม้าที่พวกผีกินเหลือทิ้งไว้หน้าถ้ำเข้ากองไฟเผาทิ้ง แล้วปรึกษาว่าเหล่าผีรู้ว่าเรามาปราบจึงกลัวหลบหนีไปหมด แต่หากเมื่อเรากลับเข้าเมืองไปแล้ว เกรงว่าพวกมันจะกลับมาทำร้ายผู้คนได้ ยุพาผกาถวายงานว่าอันจะปราบผีให้หมดสิ้นแคว้นสิงหลคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมันเป็นเหล่าผีไม่มีร่างปรากฏให้เห็น จะใช้เหล่าคนเข้าสู้รบด้วยนั้นเป็นการสุดวิสัย ควรจะหาอารักษ์ศักดิ์สิทธิ์มาสถิตเป็นเจ้าถ้ำเพื่อปกครองควบคุมผีน่าจะเหมาะสม นางละเวงวัณฬา จึงให้เกณฑ์ชาวบ้านหาไม้ป่ามาปลูกศาลไว้ปราบผี ประกาศองค์ในฐานะเจ้าธานีผู้ครองแคว้น ขอมอบเขตแดนนี้ไว้ให้เป็นศาลพระกาฬ แล้วทรงเปลื้องภูษารองทรงเป็นมู่ลี่สำหรับเทวดา จัดตั้งเครื่องสังเวยด้วยขนมปังเป็ดคู่และหมูหัน ทั้งธูปเทียนกระแจะจันทร์เป็นบัดพลีสำหรับเทวดาอารักษ์ประจำศาล ถวายกรฟ้อนรำบูชาเทวดา แล้วเสด็จไปหน้าชานชลาศาลให้ไพร่พลล้อมไว้เป็นวงกว้าง ประโคมแตรสังข์ลั่นกลองมโหรีร้องเพลงถวายเทวดา พร้อมเครื่องบวงสรวงหมากเมี่ยงสุราบานเครื่องคาวหวานและมาลัยดอกไม้เครื่องหอม อัญเชิญองค์พระกาฬมาสถิตประจำศาล เพื่อช่วยคุ้มครองอาณาประชาราษฎรทั่วทั้งเกาะลังกา

[size=41.6852px]เสร็จเซ่นสรวงให้สาดสุราถวายทั้งซ้ายขวา จุดเทียนชัยเร่งไพร่พลโห่ลาสักการะ บัดเดี๋ยวพลันเกิดเสียงฟ้าฟาดกึกก้องทั่วบริเวณ มีแสงรุ้งสว่างพุ่งขึ้นกลางศาล เห็นร่างพระกาฬสีกายแดงดั่งครั่ง เข้ารับเครื่องสังเวยเนยนมขนมปัง ดูกริยาหน้าหลังลักษณะเหมือนดังวานร ครั้นเมื่ออิ่มหนำแล้วจึงอำนวยพรให้นางละเวงมีสุขสวัสดี เขตแคว้นแดนป่าทั้งสิ้นนี้ต่อไปจะร่มเย็นเป็นสุข เมื่อครบทุกหนึ่งปีแล้วให้มารำสักการะ พระกาฬจะมาคอยรับเครื่องสังเวยประจำปี แม้นไม่มาให้เป็นประจำจะมีภัยอันตราย สั่งแล้วร่างพระกาฬก็พลันหายวับไปกับตา ภูผาแห่งนี้จึงได้นามว่าศาลเจ้าพระกาฬลังกาเรียกกันมาถึงวันนี้ ส่วนถ้ำกลำพันสิ้นชั่วร้าย ด้วยนางละเวงมารำถวายสักการะทุกปี เขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า เขานางรำประจำปี ถาวรอยู่เป็นที่ตั้งแต่โบราณกาลตราบจนบัดนี้

[size=41.6852px]อ่านต่อได้ที่ : [size=41.6852px]http://www.ryt9.com/s/nnd/834282
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้