ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
เสลี่ยงเจ้านาง 2 คอลัมน์ หลอน โดย นทธี ศศิวิมล
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2349
ตอบกลับ: 2
เสลี่ยงเจ้านาง 2 คอลัมน์ หลอน โดย นทธี ศศิวิมล
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-11-4 05:30
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
เรื่องมันเกิดขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนอยู่ปี 1 แต่พวกเราที่ยังเหลืออยู่ก็ไม่มีใครลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นได้เลยสักคน
อ๋อง ทำอย่างที่ว่าไว้จริงๆ คือขออนุญาตอาจารย์พาเพื่อนๆ อีกแปดคนมาจัดบอร์ดนิทรรศการของรายวิชาหนึ่ง ที่ใต้ตึกคณะในตอนกลางคืนในคืนเดือนดับ ทั้งๆ ที่งานไม่ได้เร่งรีบมากนัก ทุกคนรู้ดีว่าเจตนาของการมาครั้งนี้คืออะไร แม้บางคนจะกล้าๆ กลัวๆ แต่ในที่สุดแล้วความอยากรู้อยากเห็นก็มีมากกว่า ก็เลยพากันมาเป็นโขยงทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง หลายคนพกเครื่องรางของขลังมาด้วย แต่โดนอ๋องเก็บหมด
"เราจะ มาดูผีถ้าพวกแกพกพระมาผีที่ไหนจะกล้าออกมาให้ดู แมนๆ หน่อยสิวะ" อ๋องพูดใส่หน้าเพื่อนทั้งชายและหญิงพลางเก็บพระและเครื่องรางใส่ย่าม เอาไปซ่อนไว้ที่ชั้นบน
กลางดึก อากาศร้อนอบอ้าว เมฆใหญ่เคลื่อนต่ำจนเสียงพูดก้องสะท้อนไปมา เหมือนฝนกำลังจะตก แต่ก็ไม่ตก บรรยากาศในคืนนั้นมีเพียงความเงียบสนิท ไม่มีแม้เสียงแมลงกลางคืน ในคืนเดือนดับ กลุ่มนักศึกษาใหม่อาศัยแสงไฟนีออนใต้ตึกคณะช่วยกันจัดบอร์ดอย่างสงบเสงี่ยม ผิดปกติ เหลียวหน้าแลหลังด้วยอาการหวาด ระแวงเป็นระยะ บางคนเริ่มบ่นว่าไม่น่าหาเรื่องมาเลย
เวลาล่วงเลยไปถึงราว เที่ยงคืนครึ่ง ตอนนี้อากาศที่อบอ้าวเริ่มเย็นลงมาก แต่ยังคงมีความรู้สึกที่ชวนอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ทุกคนรับรู้ได้ถึงบางอย่างที่มีพลังอัดแน่นอยู่ในบรรยากาศที่มองไม่เห็น กลิ่นน้ำปรุงแป้งร่ำและกำยานผสมปนเปโชยมาโดยไม่รู้ที่มา รุนแรงเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อ๋องเริ่มโวยวายว่าใครฉีดน้ำหอม ใครจุดกำยาน แกล้งกันหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีใครทำ เพราะตอนนี้ทุกคนกระชับวงล้อมมาเกาะกันแน่นอยู่ตรงกลางครบแล้ว
ไม่ทันขาดคำนั้น เสียงสะอื้นฮักๆ เหมือนคนหัวใจสลายแว่วมาแต่ไกล
"ใครได้ยินบ้างวะ" อี๊ดกระซิบถามเบาๆ ทุกคนพยักหน้าเงียบกริบ
อ๋องทำหน้าไม่พอใจ "กูว่ารุ่นพี่อำแน่นอนไม่เชื่อพวกมึงคอยดู"
เสียง ร้องไห้สะอึกสะอื้นดังใกล้เข้ามาจนสะท้อนก้องไปทั่วบริเวณ กลุ่มนักศึกษาที่กระจุกเป็นก้อนกลมกันอยู่ใต้ตึกใกล้ลานหอนาฬิกายิ่งเบียด กันเข้าไปอีก
ทันใดนั้น ฟ้าแลบวิ่งเป็นเส้นแตกลายบนก้อนเมฆส่องสว่างจนตาพร่า เสียงฟ้าร้องครืนครันคำรามลั่นกระหึ่ม ไฟฟ้าที่ส่องสว่างให้ความอุ่นใจดับวูบลงพร้อมกันทั้งบริเวณมหาวิทยาลัย
หลายคนหวีดร้องแต่ก็โดนอีกหลายคนรีบเอามือปิดปากไว้ ราวกับกลัวว่าเสียงร้องจะดังไปถึงหูใครบางคนที่กำลังตรงมาทางนี้
หลัง จากนั้นเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาทางหอนาฬิกา เดินเป็นจังหวะพร้อมๆกัน บนถนนมีร่างคล้ายมนุษย์เรืองๆ เดินกันมาเงียบๆ เป็นขบวน กลางขบวนมีเสลี่ยงคานหามลักษณะเหมือนของใช้ของผู้มีชาติตระกูล มีหญิงสาวในเครื่องแต่งกายโบราณงดงาม มวยผมสูง นั่งคู้ตัวร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนนั้น และยิ่งขบวนเคลื่อนมาใกล้เข้า ยิ่งเห็นได้ชัดว่า ผู้ร่วมขบวนที่หามเสลี่ยงมาในชุดนุ่งผ้าผืนเดียวเปลือยท่อนบนทุกคน ล้วนแล้วแต่ไม่มีหัว!
หลายคนกลัวกันจนตัวสั่นบางคนร้องไห้ และเริ่มสวดมนต์ แต่อ๋องเหมือนกลัวจนสติหลุด หรือกลัวเสียหน้า หรืออย่างไรไม่ทราบได้ มันลุกขึ้นตะโกนลั่น "กูไม่กลัวพวกมึงหรอกเว้ย อย่าคิดว่าเป็นรุ่นพี่ จะแกล้งทำอะไรกับกูก็ได้นะ"
"เฮ้ย อ๋องเบาๆ ดิวะ มึงไม่กลัวแต่คนอื่นเขากลัว"
อ๋อง ยิ่งดูโมโหมากขึ้น "กูจะออกไปลากมาให้มึงดูกันเอง ว่าไอ้พวกนี้เป็นคน ไม่ใช่ผี" มันว่าแล้วก็วิ่งออกไปนอกตัวอาคารตรงไปยังขบวนแห่ไร้หัวนั้นอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามของเพื่อนๆ
บางคนจะวิ่งตามออกไป แต่อี๊ดก็ดึงตัวไว้
"อย่าไป เขาบอกไว้ว่า ถ้าอยู่ใต้ชายคาจะปลอดภัย ถ้าออกไป..."
แต่ ตอนนั้น อ๋องวิ่งหายไปในความมืดแล้ว มันวิ่งเข้าไปหาทิศทางของขบวนแห่ ก่อนที่ฟ้าจะแลบสว่างวาบอีกครั้ง ตามด้วยเสียงคำรามดังลั่นจนพื้นสะเทือน และพายุทั้งลมทั้งฝนกระหน่ำลงมาเหมือนฟ้าขาด พัดต้นไม้และป้ายต่างๆ ปลิวว่อน ทำให้พวกเราต้องหนีขึ้นไปหลบพายุบนตึก
หลังจาก เรื่องคืนนั้นก็ไม่มีใครได้เจออ๋องอีกเลย เป็นเรื่องน่าประหลาดยิ่ง ไม่ว่าจะตามหากันด้วยวิธีใด ไม่พบแม้ร่องรอย หรือแม้แต่ศพที่จะมีลักษณะใกล้เคียงกับอ๋อง
หลายปีผ่านไป ยังคงมีคนพูดถึงเรื่องนี้อยู่บ้าง โดยเฉพาะในหมู่นักศึกษาใหม่ๆ ที่ชอบลองของ ว่ากันว่า หลายต่อหลายรุ่นต่อจากรุ่นไอ้อ๋อง มีคนเห็นขบวนเสลี่ยงเจ้านางน้อยที่เต็มไปด้วยทาสไร้หัว เดินผ่านทางเดิมทุกปี
แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือบางคนยืน ยันว่าเห็นร่างคนในชุดนักศึกษาชายไม่มีหัวเลือดแดงฉานไปทั้งเสื้อเดินร่วม อยู่ในขบวนแห่ด้วย พวกเราก็ไม่พยายามจะคิดหรอกว่ามันเกี่ยวกับการหายตัวไปของไอ้อ๋องอย่างไร แต่ให้พิสูจน์อีกคงไม่เอาแล้ว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1446559175
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-6-17 06:33
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
sritoy
sritoy
ออฟไลน์
เครดิต
3631
3
#
โพสต์ 2016-6-17 09:55
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
น่ากลัวครับ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...