บัตรเครดิต ใช้ให้เป็นมีแต่ประโยชน์ โทษไม่มี…จริงหรือ?บัตรเครดิตอีกหนึ่งที่พึ่งยามจำเป็น สำหรับคนที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย ไม่ต้องการพกเงินสดเป็นจำนวนมาก ๆ คนเหล่านี้นิยมใช้บัตรเครดิตในการจับจ่ายใช้สอย แต่บางครั้งก็เพลิดเพลินใช้บัตรรูด โดยขาดความยั้งคิดเป็นหนี้อื้อซ่าส์ สิ้นเดือนเหมือนสินใจใบทวงหนี้จากหลายธนาคารเข้ามาหลอกหลอนเยอะแยะมากมาย MThai ข่าวภาคซ่าส์ วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องนี้กันว่า ไอบัตรเครดิตเนี้ย มันมีความจำเป็นมากมายขนาดนั้นเลยหรือ ทำไมเหล่ามนุษย์เงินเดือนถึงนิยมทำกันจัง!
มาทำความรู้จักกันก่อนว่าบัตรเครดิตมันคืออะไร? บัตรเครดิตคือบัตรที่ทำให้คุณสามารถกู้เงินจากสถาบันทางการเงินมาใช้ล่วงหน้าเพื่อซื้อสินค้าเช่น อาหาร เสื้อผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งต้องชำระหนี้ในภายหลัง คุณยังสามารถใช้บัตรเครดิตในการซื้อของออนไลน์ จองเที่ยวบิน จ่ายค่าน้ำมัน และจ่ายค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในขณะที่ผู้ถือบัตรบางท่านก็ใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อสินค้าราคาแพงเท่านั้น เช่นรถยนต์ ทริปเดินทางรอบโลก หรือรายการอื่น ๆ ที่ปกติต้องเก็บออมเป็นเดือน ๆ จึงจะสามารถซื้อได้ แต่เมื่อมีบัตรเครดิต ธนาคารจะให้คุณกู้เงินเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ในทันที บัตรเครดิต
โดยที่คุณสามารถชำระค่าใช้จ่ายได้ในเดือนต่อไป หรือผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนจนกว่ายอดค้างชำระจะเป็นศูนย์ ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องบัตรเครดิตจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดอยู่บ่อยครั้งบนโลกออนไลน์ หลายต่อหลายครั้งจะมีผู้แวะเวียนเข้าไปตั้งกระทู้ในช่องทางต่าง ๆ เพื่อหาหนทางปลดหนี้บัตรเครดิต เนื่องจากในแต่ละเดือนต้องจ่ายค่าบัตร จนเงินเดือนที่ได้รับไม่พอใช้ และสุดท้ายก็ต้องกลับที่เดิม เมื่อเงินเดือนไม่พอใช้กดเงินในบัตรมาใช้ก็ได้ว๊า กลายเป็นหนี้ไม่จบไม่สิ้น! ยืมก่อนผ่อนทีหลัง ไม่ต้องเสียเงินเป็นก้อน ข้อเสียอยู่ตรงไหน? - ข้อดีของคนทีใช้บัตรเครดิต นอกจากเราไม่ต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก
- หากเงินที่มีอยู่ไม่พอใช้ บัตรเครดิตคือที่พึ่งอีกทาง โดยที่เราไม่ต้องไปรบกวนหยิบยืมเพื่อนฝูง หรือคนใกล้ตัวให้ลำบากใจ เพราะบัตรเครดิตนั้นนอกจากจะใช้ผ่อนซื้อสินค้า ยังสามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้อีกด้วย (แต่คุณก็ต้องใช้คืนตามกำหนดนะจ๊ะ หนี้ก็จะไม่พอกพูน ดอกเบี้ยก็จะไม่เยอะ^^)
บัตรเครดิต
- สะดวกในการทำธุรกรรมการเงินผ่าน IT.เช่นซื้อของ online,จองตั๋วเครื่องบิน,จองที่พัก จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
- ธนาคารหรือผู้ให้บริการต่าง ๆ มักให้สิทธิ์ในการผ่อนชำระสินค้า 0% ซึ่งผู้ถือบัตรไม่ต้องเอาเงินก้อนของตัวเองไปซื้อสินค้า ประหนึ่งว่าทางธนาคารเจ้าของบัตรจ่ายเงินให้เราก่อน แล้วเราค่อยผ่อนคืนเขาทีหลังโดยที่ไม่คิดดอกเบี้ย (กรณีที่จ่ายเงินคืนตรงตามที่เขากำหนด)
ข้อเสียและภัยเงียบจากบัตรเครดิต หากคุณคิดจะหนีหนี้! - ข้อเสียตั้งแต่เริ่มมีบัตร บางผู้ประกอบการ หรือบริษัทจะหักค่าธรรมเนียมการจ่ายบิลผ่านบัตรเครดิตเลย
- การจ่ายเงินมันสะดวกก็จริงแต่เปรียบเสมือนคุณกำลังเอาเงินในอนาคตมาใช้ ดังนั้นคุณต้องวางแผนการใช้เงินและกันเงินสดไว้ให้เพียงพอที่จะจ่ายบิลต่าง ๆ ด้วย
- ความเสี่ยงที่พอมีอยู่บ้างในเรื่องของการแฮคข้อมูลผ่านบัตรเครดิต
เมื่อใช้จ่ายเกินตัวหาเงินมาจ่ายไม่ไหว นำไปสู่การหนีหนี้ แต่อย่าคิดว่าทุกอย่างมันจะจบนะ รู้ไหมถ้าเราเบี้ยวหนี้ ชื่อของท่านจะถูกส่งเข้าไปที่เครดิตบูโร
การไม่ชำระหนี้เจ้าหนี้ก็จะทำการฟ้องร้อง หากคุณเป็นหนี้บัตรเครดิตตามกฎหมายจะถือเป็น คดีแพ่ง ส่วนโทษในคดีแพ่งจะมีเพียงการชำระหนี้และชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งการเป็นหนี้บัตรเครดิตมีผลต่อการกู้เงินแบงก์เพื่อซื้อบ้าน เพราะหนี้สินส่วนนี้จะไปแสดงที่ศูนย์ข้อมูลส่วนกลาง ที่เรียกว่า “เครดิตบูโร” หากเครดิตบูโรขึ้นบัญชีดำ ( Blacklist) หมายความว่าประวัติการชำระหนี้ของคุณไม่ดี ไม่ตรงต่อเวลา ผิดนัดจ่ายหนี้กับธนาคารอื่น ๆ หรือไม่จ่ายหนี้เลย พอธนาคารเห็นก็อาจจะอนุมัติยากหน่อย เพราะธนาคารก็ไม่มั่นใจว่าเราจะจ่ายค่างวดให้เขาหรือเปล่า เครดิตบูโรขึ้นบัญชีดำ ( Blacklist)
อีกกรณีหนึ่งหากคุณเป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะเกินไปหมายความว่าไม่ได้ติด Blacklist แต่อาจผ่อนค่างวดรถอยู่ ซึ่งก็แสดงในเครดิตบูโร เมื่อธนาคารทำการประเมินรายได้ของเราแล้วปรากฏว่า แค่ยอดที่ต้องชำระในแต่ละเดือน สำหรับบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดแต่ละใบ ไม่พอที่จะส่งค่างวดสำหรับสินเชื่อบ้านแล้ว แบบนี้ธนาคารก็คงอนุมัติให้สินเชื่อบ้านผ่านยากสักหน่อย แต่ถ้าคำนวณแล้วเงินยังเหลือพอส่งค่างวดบ้านแบบนี้ก็มีโอกาสผ่านก็มี MThai News ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก moneyguru เครดิต เรื่อง ภาพ จาก facebook Mthai News
|