|
ประวัติและที่มาของขบวนเสด็จพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี
สุรินทร์ คล้ายจินดา (2534 : 6 – 7 และ 12 – 15) ได้กล่าวไว้ในบทการแสดงแสง – เสียง ชุด “มหาเทวปราสาทพนมรุ้ง” เนื่องในโอกาสพิธีเปิดอุทธยานประวัติศาสตร์ปราสาทพนมรุ้ง โดยอำนวยการสร้างและจัดแสดงโดยจังหวัดบุรีรัมย์ กรมศิลปากร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงที่มาของขบวนเสด็จพระนางภูปตินทรลักษมีเทวีไว้ในฉากที่ 2 : อดีตสมัย
บทสนทนาระหว่าง องค์เรนทรทิตย์ กับ หิรัณยะ
คำบรรยาย
“หิรัณยะ บุตรแห่งเรา พวกเราสายเลือดมหิธร มีความเชื่อมั่นยิ่งนักในมหิทธานุภาพแห่ง องค์ศิวะมหาเทพ จึงสร้างเทวาลัยเพื่อบูชาพระองค์ไว้บนยอดเขา หิรัณยะ เจ้าจดจำศิวะราตรีในปีนั้นได้หรือไม่”
- ให้ผู้แสดงจัดขบวนแห่ประทีปโคมไฟ แต่ยังไม่จุดโคมไฟ จัดขบวนในความมืด เมื่อปรากฏร่างองค์อินทราทิตย์ที่สะพานนาคราช
- เมื่อเริ่มคำบรรยาย “เมื่อเจ้าอายุ 7 ขวบ ... จึงจุดประทีปโคมไฟ แล้วเคลื่อนขบวนมายัง หน้าปราสาท
คำบรรยาย
“หิรัณยะ เมื่อเจ้าอายุ 7 ขวบ ศิวะราตรีของปีนั้น พระแม่เจ้าภูปตินทรลักษมีเสด็จมาบวงสรวงองค์ศิวะมหาเทพ แล้วถวายเทพพาหนะ ขบวนแห่เทพพาหนะ ประดับธงทิวหลากสี ผู้คนมากมายระดมประโคมเครื่องเสียงก้องกังวานไปทั้งภูผา กลางแสงเจิดจ้าของดวงตะวัน”
โดยได้กล่าวถึงตัวละคร และอุปกรณ์การแสดงในขบวนเสด็จของพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี ไว้ดังต่อไปนี้
ฉากที่ 2 อดีตสมัย
ตัวละคร
1. พระนางภูปตินทรลักษมี
2. แม่นางสุรภี สาวพรหมจารีย์ผู้รำบวงสรวง
3. ทหารหญิง 16 คน
4. คหบดี 15-20 คน
5. พนักงานแบกเสลี่ยงผลไม้บวงสรวง 12 คน
6. คนรับใช้ 20 คน (ชายหรือหญิงให้เป็นคู่)
7. นางสนม (หรือผู้ติดตามประเภท 2)
8. พราหมณ์ 3 คน (จากแรก 3 และเพิ่มอีก 1 คน)
9. พราหมณ์ 4 คน
10. นักดนตรี 5 คน
อุปกรณ์การแสดง
1. ฉัตรดอกไม้ไหว 4 ฉัตร (ทหารหญิง 4 คน)
2. กลด 2 คัน (ทหารหญิง 2 คน)
3. คบเพลิง 12 อัน (คนรับใช้ 12 คน)
4. เสลี่ยงผลไม้ 3 เสลี่ยง (ทหารชาย 12 คน)
5. พานพนมดอกไม้ 4 พาน (ทหารหญิง 4 คน)
6. ระฆัง (ธิเบต) นำขบวน (พราหมณ์ 1 คน)
7. ผ้าขาวปูลาดพระบาท (ยาว 40 เมตร) พร้อมแท่งเหล็กขนาด 6 หุน ยาวเท่งละ 120 เซนติเมตร 24 แท่ง (ทหารชาย 2 คน)
8. เชิงเทียน (ปักเทียน 5 เล่ม) 2 เชิง (ทหารชาย 2 คน)
9. กระถางธูป (ขนาดปาก 10 นิ้ว) (ทหารชาย 1 คน)
10. โคมช่อ (ช่อละ 6 โคม) 2 ช่อ (ทหารหญิง 2 คน)
11. อาวุธ (ดาบ, หอก, โล่) 4 ชุด (ทหารหญิง 4 คน)
12. โต๊ะหมู่ 1 ชุด
13. ตั่งนั่ง 1 ตัว
14. พัดโบก 2 พัด (จากฉากที่ 3)
15. เทริด (ของนางรำ) พร้อมด้วยพานรอง
16. พวงมาลัยดอกดาวเรือง 1 พวงใหญ่, ดอกมะลิ 1 พวง
การจัดแสดงแสง-เสียง ชุด “มหาเทวปราสาทพนมรุ้ง” ได้บรรยายภาพขบวนเสด็จพระนาง ภูปตินทรลักษมีเทวี ในพิธีพวงสรวงองค์ศิวะมหาเทพ และถวายเทพพาหนะมีความงดงามตระการตา และให้ความรู้สึกย้อนรำลึกถึงภาพเหตุการณ์ในอดีตได้อย่างงดงามน่าประทับใจยิ่ง ในเรื่องราวที่ผ่านระยะเวลานับพันปี โดยสุรินทร์ คล้ายจินดา ได้เขียนบทการแสดงแสง-เสียง เหตุการณ์ซึ่งเป็นที่มาของขบวนเสด็จพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี ในประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษา มีบท การแสดงในหน้า 13-15 ดังต่อไปนี้
คำบรรยาย
“ครั้นรัตติกาลพาความมืดมาห่อคลุมขุนเขา เบื้องบนโน้นกลางห้วงเวหาหาว ดวงดาวระยิบ ระยิบ กระพริบ เต็มแผ่นฟ้า เบื้องล่างนั้นเล่าแสงประทีปในขบวนเสด็จของพระแม่เจ้าก็ดุจเดียวกับ แสงดาวเบื้องบน ลอยเลื่อนเคลื่อนขึ้นมายังเบื้องหน้ามหาเทวลัย
- เสียงครางระฆัง
- เสียงนกกลางคืนร้อง บินข้ามศีรษะ
- เสียงดวงวิญญาณ, เพลง
การแสดง
- ขบวนพระแม่เจ้าฯ เคลื่อนขึ้นมายังหน้าปราสาท
- พราหมณ์ 2 คน (จากฉากที่ 2) พาคนออกมาจัดที่ทางเตรียมรับเครื่องบวงสรวง
- นำหน้าขบวนด้วยพราหมณ์ ครางระฆัง
- ขบวนขึ้นมาถึงหน้าปราสาท พนักงานจัดเครื่องบวงสรวง พระแม่เจ้าฯ กระทำสักการะ แล้วไปประทับที่ตั่ง เครื่องประดับขบวน (ฉัตรดอกไม้ไหว, โคมช่อ, พัดโบก, กลด, คบเพลิง) ยืนประดับฉาก เชิญพานเทริด และพานพวงมาลัยมายังพระแม่เจ้า แม่นางสุรภีนั่งที่มุมหนึ่งแล้วคลานเข้ามากราบพระแม่เจ้าฯ พระแม้เจ้ามอบเทริด พนักงานช่วยจัดเทริดสวมศีรษะแม่นางฯ มอบพวงมาลัยดอกดาวเรือง แม่นางรับก้มกราบ คลานออกมา สักการะถวายพวงมาลัยฯ ดนตรีบรรเลง เริ่มบวงสรวง
คำบรรยาย
“ครานั้นแม่นางสุรภี สาวพรหมจารย์ เป็นผู้ร่ายรำถวายสักการะแด่พระศิวะมหาเทพ นางนั้น มีวงพักตร์งามผ่องใสดุจพระจันทร์วันเพ็ญ เรือนร่างเอวองค์ทรวดทรงทั่วสารพางค์ไม่มีใครเปรียบได้ ลีลาเยื้องย้ายร่างก็ดุจเทพประทานมา ท่านยังจำได้มั้ย ประภูวิษัยวานน”
- การรำบวงสรวง 3 นาที
- เมื่อรำจบ แม่นางสุรภีกราบที่แท่นเครื่องบวงสรวง
- พระแม่เจ้าฯ รับพวงมาลัยดอกมะลิ ลุกขึ้นเดินขึ้นไปบนสะพานนาค พราหมณ์เดินนำโปรยดอกดาวเรือง พระแม่เจ้าฯ ไปหยุดอยู่กลางสะพานนาค แล้วแสดงท่าตามคำบรรยาย
- เพลง
- แสงสีเหลืองที่สะพานนาค, ที่รูปโยคี, ปล่อยควันในปราสาท
คำบรรยาย
“ที่นั่น บนสะพานนาคราชนั้น พราหมณ์โปรยดอกดาวเรืองสีเหลืองสว่างราวกับปูลาดด้วย ทองคำ พระแม่เจ้าประทับยืนอยู่เหนือดอกไม้ เงยพระพักตร์ เพ่งสายพระเนตรไปที่หมาโยคี ยกพระหัตถ์ทั้งสองประคองมาลัยมะลิกระพุ่มพนม พลางย่อพระองค์ลงคุกเข่าพระโอษฐเปล่งพระสุรเสียง โอม นมัศ ศิวายะ”
- เมื่อพระแม่เจ้าทรุดกายลงนั่ง, ผู้แสดงอื่น ๆ หมอบกราบ
- พราหมณ์มาเชิญเสด็จเข้าในปราสาท
- ผู้แสดงอื่น ๆ เข้าที่ประตูด้านข้าง
- เมื่อพระแม่เจ้าเสด็จเข้าไปแล้ว แสงภายนอกปิดมืดลง ให้ผู้แสดงช่วยเก็บอุปกรณ์ เข้าปราสาทไปด้วย
คำบรรยาย
“พราหมณ์ปุโรหิต นำเสด็จผ่านโคปุระ”
- ปล่อยควันในปราสาท
- แสงสีเหลืองฉายที่ปรางค์ประธาน
คำบรรยาย
“ภายในปรางค์ประธาน องค์สุวรรณลิงคัม ประดิษฐานอยู่เหนือพระแท่นโยนิโทรณะ ท่ามกลางหมอกควันของกำยานเผา หอมกรุ่นมาจากมุมทั้งสี่ ในห้องครรภคฤห เครื่องสังเวย ทั้งนม เนย น้ำผึ้ง น้ำจันทร์ ข้าวสาร ข้าวสุก วางอยู่เรียงราย พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เริ่มขึ้นเมื่อโรยดินเทศลงเหนือสุวรรณลิงคัม แล้วราดรดด้วยน้ำบริสุทธิ์จากกุณโฑทองคำ น้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อผ่านดินเทศแล้วไหลไปตามโสมสูตรสู่ภายนอก พิธีบวงสรวงมหาเทพและพระแม่อุมาเทวีสัมฤทธิ์ผล”
- เสียงราดน้ำ
- เสียงสังข์ บัณเฑาะว์ สวดมนต์
- แสงสีน้ำเงินทั้งหมด
- เสียงลมพัด
- เพลงอารมณ์โศกเศร้า (ตุม-มุง)
คำบรรยาย
“ตั้งแต่ศิวะราตรีปีนั้น พระแม่เจ้า จากไป ไม่กลับมาอีก พระแม่เจ้าคงเสด็จส่งศานติ ความสงบนิรันดร”
|
|