|
หลวงพ่อเกลี้ยง และ ประวัติวัดเฉลิมอาสน์ ต.ท่าชุมพล อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เกจิอาจารย์อาคมขลัง วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์มากมาย วัดเฉลิมอาสน์ ในอดีตที่ผ่านมามีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากองค์หนึ่ง คือ หลวงพ่อเกลี้ยง วัตถุมงคลของท่านล้วนเข้มขลังด้วยพลังพุทธคุณ มีประสบการณ์มากมาย เป็นที่ต้องการของบรรดานักเลงพระเป็นอย่างมาก ใครที่มีไว้ครอบครองจะหวงแหนยิ่งนัก.. มารู้ประวัติวัดเฉลิมอาสน์ ท่าชุมพล โพธารามกันก่อนครับ.. ประวัติวัดเฉลิมอาสน์ ท่าชุมพล โพธาราม ราชบุรี.
ข้อมูลที่ 1 วัดเฉลิมอาสน์ตั้งอยู่ฝั่งขวาของลำน้ำแม่กลอง ปัจจุบันอยู่เขตพื้นที่ ต.ท่าชุมพล อ.โพธารามจ.ราชบุรี เดิมพื้นที่เป็นป่าพุทรา มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่เศษ เจ้าของชื่อบุญไม่ทราบนามสกุลได้ถวายที่ดินเป็นที่ธรณีสงฆ์ มีอุโบสถร้างอยู่ 1 หลัง มุงด้วยหญ้าคาฝาขัดแตะไม้ไผ่ ผูกพัทสีมาเสร็จ สืบได้ว่าไม่ปรากฏท่านผู้ใดมาทำการสร้างไว้พระภิกษุ ที่มาจำพรรษา ธุดงค์มาจากที่อื่น ชาวบ้านในละแวกนั้น ได้นิมนต์ให้จำพรรษาต่อมาท่านพระครูธรรมเสนานี (แจ่ม)เจ้าคณะจังหวัดราชบุรีในขณะนั้นอยู่วัดโชคฝั่งซ้ายของแม่น้ำแม่กลองได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ขอให้มีพระไปจำพรรษา เพื่อจะได้ทำบุญจึงได้เห็นความจำเป็นของชาวบ้านจึงได้คัดเลือกพระภิกษุที่มีความสามารถมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เพื่อจะได้ฉลองศรัทธาทายก ทายิกา จึงข้ามแม่น้ำแม่กลองพาพระมาอยู่จำพรรษา 5 รูป ในคณะที่มามีภิกษุ 1 รูปคือ พระภิกษุเกลี้ยง โสภิโต รวมอยู่ด้วย อยูได้ไม่กี่ปี พระที่ส่งมาก็หนีบ้างอยู่จนเหลือแต่พระภิกษุเกลี้ยง ต่อมาท่านพระธรรมเสนานีได้ช่วยสร้างศาลาการเปรียญ 1 หลัง พร้อมทั้งแท่นใส่บาตร และแต่งตั้งพระภิกษุเกลี้ยง เป็นเจ้าอาวาสหลังจากนั้นพระภิกษุเกลี้ยง ได้สร้างกุฎิ หอฉันท์ หอสวดมนต์ ดรงเรียนประชาบาล อุโบสถศาลาการเปรียญ โรงเรียนปริยัติธรรม จนถึงวาระสุดท้ายได้มารณะภาพ ทายกทายิกาได้สร้างรูปหล่อพระภิกษุเกลี้ยงเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ท่านมีส่วนสำคัญในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ รวมถึงอดีตเจ้าอาวาสของวัดเฉลิมอาสน์เช่นเดียวกับศาสนสถาน วิหารพระพุทธรูปปางเลไลย์องค์โต ริมแม่น้ำแม่กลอง
......
ข้อมูลที่ 2 เดิมบริเวณวัดเฉลิมอาสน์เป็นป่าอุดมไปด้วยต้นงิ้ว ต้นพุทราโดยเฉพาะที่น่ากลัวคือด้านเหนือของวัดตรงข้ามตลาดโพธารามเป็นแหลมยื่นไปในแม่น้ำแม่กลอง เป็นแอ่งปะทะของน้ำ มีขยะที่มากับน้ำติดอยู่พอสมควรและมักมีศพของคนและสัตว์ปะปนมาบ่อยครั้งจึงเป็นที่น่าหวาดกลัวของผู้ที่พายเรือผ่านเพราะช่วงนี้สายน้ำจะเชี่ยวมาก มักมีข่าวล่ำลืออยู่เสมอว่าผีดุมาก พระครูธรรมเสนีเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดโชค จึงขอให้หลวงพ่อพระโพธารามคณารักษ์ หลวงพ่อเกลี้ยง ซึ่งอยู่จำพรรษา ณ วัดโชค ไปเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งมีวัดอยู่เดิมชื่อว่า วัดป่างิ้วไม่มีพระสงฆ์อยู่ ใคร ๆ ก็กลัวไม่อยากไปต่อเมื่อหลวงพ่อเดินทางไปดูเห็นสถานที่แล้วมีความรู้สึกว่าตรงนี้น่าเจริญรุ่งเรืองได้ในกาลต่อไปและยังได้พบหลวงพ่อชัยเฉลิมพลซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณอยู่ในอุโบสถมีพุทธลักษณะที่งดงาม จึงได้ตั้งสัจจาธิษฐานขอบารมีของหลวงพ่อชัยเฉลิมพลในการที่จะได้พัฒนาและสร้างวัดให้เจริญรุ่งเรือง จึงได้เริ่มสร้างวัดถาวรวัตถุต่างๆขึ้นที่สำคัญคือ หอสวดมนต์เทด้วยปูนทั้งหลังแม้กระทั้งกระเบื้องมุงหลังคาก็ก่อด้วยปูน เป็นงานที่ช่างน้อยคนจะทำได้แลได้สร้างกุฏิสงฆ์ ศาลาดิน ศาลาการเปรียญ อุโบสถ (ซึ่งเด่นเป็นสง่าและสวยงามมากในลุ่มแม่น้ำแม่กลอง) สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมโรงเรียนประชาบาล เมรุเตาเผาศพ ศาลาท่าน้ำ อื่นๆอีกมากมายและโดยที่วัดมีต้นพุทราเป็นจำนวนมาก จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า "วัดดงพุทรา"ต่อมาเมื่อหลวงพ่อบูรณะวัดจนเรียบร้อยและสวยงามมั่นคงแล้วจึงได้ขอเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "วัดเฉลิมอาจ" ต่อมาเห็นความหมายไม่ชัดเจนจึงได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งว่า "วัดเฉลิมอาสน์"และได้ใช้ชื่อนี้มาจนกระทั้งปัจจุบัน วัดเฉลิมอาสน์ได้มีการพัฒนาทุกด้านโดยเฉพาะหลวงพ่อได้จัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมและบาลีขึ้นโดยได้รับศรัทธาจากครูประยุทธ เวชวงษ์ และครอบครัวได้ให้การอุปถัมภ์และได้เปิดสอนนักธรรมและบาลีควบคู่กันมีเยาวชนสนใจมาขอบรรพชาอุปสมบทมากขึ้นๆ จนกระทั่งปรากฏเป็นสำนักเรียนที่สำคัญของอำเภอโพธารามและจังหวัดราชบุรี มีนักเรียนทั้งนักธรรม และบาลีสอบได้เป็นจำนวนมากจนได้รับยกย่องมีชื่อเสียงโด่งดังมากซึ่งการก่อสร้างถาวรวัตถุและเปิดสำนักเรียนนักธรรมและบาลีนั้นเป็นความยากลำบากมากหลวงพ่อได้รับถวายที่นาที่บริเวณหนองบอนก็ได้ให้ญาติโยมช่วยกันทำนาได้ข่าวมาเลี้ยงพระเณรและยังมีส่วนหนึ่งที่เหลือได้ขายนำเงินมาสร้างวัดอีกด้วยงานก่อสร้างส่วนมากหลวงพ่อออกแบบทำเองทั้งหมดโดยมีญาติโยมและพระเณรเป็นลูกมือคอยช่วยเหลือ จนงานเสร็จเรียนบร้อยบริบูรณ์เป็นความโชคดีของหลวงพ่อที่มีสหายรักมากมาอยู่ด้วย คือ หลวงลุง "พระครูสาธิตสุตการ"ได้รับภาระในส่วนแห่งการศึกษาไปดำเนินการ และได้รับผลดีเป็นอย่างมากเพราะหลวงลุงเอาใจใส่การศึกษา พาพระเณรปลูกกล้วย-มะพร้าวต่อเรือข้ามฝากเพื่อเก็บผลประโยชน์เป็นรายได้มาเลี้ยงพระเณรวัดก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าพระราชทาน เป็นพระราขาคณะ ที่ "พระโพธารามคณารักษ์"เจ้าคณะอำเภอโพธารามเป็นพระราชาคณะรูปแรกกที่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอโพธาราม ผลงานที่หลวงพ่อและหลวงลุงได้ทำและสร้างมาตลอดชีวิตของท่านยังปรากฏอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้โดยเฉพาะในเมตตาธรรมอันยอดยิ่งที่หาผู้เสมอเหมือนได้ยาก
...............
มารู้จักยอดเกจิดังนาม .. .
หลวงพ่อเกลี้ยง(พระโพธารามคณารักษ์) เกจิอาจารย์ ผู้มาก วิชาอาคมขลัง วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์มากมาย
.
หลวงพ่อเกลี้ยง เดิมท่านมีชื่อว่า เกลี้ยง นามสกุล พาทัน เกิดเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่ ปีชวด ตรงกับวันที่ 28 เดือนธันวาคม พ.ศ.2443 ณ บ้านหนองเสือ เลขที่ 26 หมู่ 7 ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม บิดาชื่อ นายหัส มารดาชื่อ นางสี มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน 6 คน ในสมัยท่านมีชีวิต นิสัยของท่านจะเป็นคนที่ชอบพูดตรงๆ พูดในสิ่งที่เป็นการงาน ไม่ชอบพูดเรื่องไร้สาระอย่างเด็ดขาด ใครมีธุระไปหาท่าน เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็จะให้กลับทันที เล่ากันว่า ท่านเป็นผู้รู้กาลอนาคต และเรื่องราวในอดีตชาติเป็นอย่างดี ในสมัยนั้นแม้แต่คนที่อยู่ห่างไกล ก็มักจะเดินทางไปให้ท่านเมตตาช่วยเหลืออยู่เสมอ โจรผู้ร้าย หรือนักเลงอันธพาลที่ชอบปล้นฆ่าทำร้ายผู้อื่น พอเอ่ยชื่อ หลวงพ่อเกลี้ยง แล้วต่างเป็นที่เกรงกลัวกันมาก เพราะท่านเคยดัดนิสัยคนเลว คนพาลมาแล้วมากต่อมาก
เคยมีคนมาขอโชคลาภ ขอหวยกับท่าน ท่านก็มักจะสั่งสอนอยู่เสมอว่า เรื่องหวยเป็นของลวงโลก ผู้ที่จะคิดเล่นทางนี้อย่างเดียวจะเป็นคนหมดตัว คนที่เคยสร้างบุญวาสนาเท่านั้นจึงจะมีโชค จงใช้ความพยายาม ความสามารถในการทำมาหากิน แล้วจะเป็นคนที่ร่ำรวย มีเงินทอง ฐานะมั่นคงขึ้นมาเอง ที่วัดนี้มีรูปหล่อจำลองหลวงพ่อเกลี้ยง ปิดทองคำเปลวเหลืองอร่ามภายในวิหารจัตุรมุขหลวงพ่อเกลี้ยง หรือ พระโพธารามคณารักษ์ สมัยท่านมีชีวิต ท่านได้ร่ำเรียนมนต์คาถาต่างๆ ทางไสยศาสตร์ การปลุกเสก การลงเลขยันต์คงกระพันชาตรี การนั่งทางใน ดูฤกษ์ดูยาม การขับไล่ภูตผีปีศาจ และวิชาแพทย์แผนโบราณ จากพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ในสมัยนั้นหลายองค์ด้วยกัน อาทิเช่น
1. หลวงพ่อคำ วัดหนองเสือ ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
2. หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ตำบลมาบแค อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
3. หลวงพ่อแจ่ม วัดโชค ตำบลโพธาราม จังหวัดราชบุรี
ซึ่งพระเกจิอาจารย์ทั้ง 3 องค์นี้ เกี่ยวข้องเป็นญาติกัน โดย หลวงพ่อเกลี้ยง เป็นหลาน | 
โพสต์ 2015-5-23 16:02
บุ๊คมาร์ก
เจ้าของ
