โรฮิงยาเผาบ้านเผาเมือง

Sornpraram

"แม่ๆ มีขอทานแก่ๆ เป็นลมอยู่หน้าบ้าน" "รีบเอาข้าวเอาน้ำไปให้สิลูก ให้พารายาดมไปด้วย แล้วไล่ไปซะ ...เดี๋ยวมาตายหน้าบ้านเรา"


เมืองไทยเมืองพุทธยุคหลวงพ่อคูณละสังขาร เขียนพินัยกรรมให้ปฏิบัติต่อร่างของท่านเยี่ยง "วัตถุธรรมดา" แต่มหาวิทยาลัยกลับจะสร้างอ่างแก้วระดมทุน 70 ล้าน ขณะที่เหรียญหลวงพ่อราคาพุ่งมหาศาล


เมืองไทยเมืองพุทธเพิ่ง แห่บริจาคช่วยแผ่นดินไหวเนปาล เพิ่งภูมิใจรัฐบาลปราบแก๊งค้าโรฮิงยา เพิ่งประณามพวกเลวร้ายไร้ศีลธรรม เห็นเพื่อนมนุษย์ตาดำๆ เป็นสินค้า เรียกค่าไถ่ ข่มขืน ฆ่า


ที่ไหนได้ พอนักข่าวหลั่งน้ำตาสงสารเด็ก ผู้หญิง บนเรือผู้อพยพ ที่ถูกผลักให้ลอยแพไม่รู้ชะตากรรม กลับถูกคนไทยรุมประณามว่าชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน "โรฮิงแยม" "ดราม่า" บ้างเรียกร้องให้องค์กรวิชาชีพสื่อสอบ บ้างจะไล่ให้พ้นแผ่นดินไทย


การที่นักข่าวไทยคนหนึ่งแสดงความสงสารเห็นใจโรฮิงยา มันผิดอะไรนักหนา หรือว่า "อีแย้ม"เอ๊ย "อีแยม" มันออฟไซด์ ล้ำหน้า ฉีกหน้ากากมนุษยธรรม ทำให้ความเป็นคนดีของคนไทยเสียหาย ทั้งที่เพิ่งช่วยแผ่นดินไหวเนปาลทั้งที่เพิ่งประณามแก๊งค้ามนุษย์


ถูกละ ปัญหาผู้อพยพโรฮิงยา รัฐบาลไม่สามารถตัดสินใจผลีผลาม ต้องรู้ประมาณ ต้องต่อรองกับประเทศต่างๆ และถ้าจะช่วยก็ควรช่วยเพียงให้ที่พักพิงชั่วคราวอย่างมีเงื่อนไข ไม่ใช่ตั้งศูนย์อพยพ ไม่ใช่รับเป็นประชากรหรือยอมให้เข้ามาทำมาหากินอย่างผิดกฎหมาย อย่างที่จินตนาการกันไป


แต่ประเด็นที่คนไทยถกเถียงกัน ไม่ใช่ "เราสงสารเพื่อนมนุษย์ แต่เราจะช่วยอย่างไรเพราะคงรับภาระหมดไม่ไหว" หากกลายเป็นตีปี๊บ โรฮิงยาคือเผ่าพันธุ์อันตราย ฆ่าพระ ข่มขืนผู้หญิงพุทธ ถ้าช่วยให้รอดตายขึ้นมาอาศัยแผ่นดินไทยก็จะเป็นภัยความมั่นคง "งูเห่า" จะไปสมคบโจรใต้ ISIS ไร้การศึกษา ไม่รู้จักคุมกำเนิด ออกลูกยั้วเยี้ย ฯลฯ


สรุปว่าโรฮิงยาคือเผ่าพันธุ์ที่ "สมควรปล่อยให้ตายในทะเล" ทั้งผู้หญิงและเด็ก อ๊ะอ๊ะ อันนี้ไม่เหมือนฮิตเลอร์เอายิวไป รมแก๊ส เพราะเราไม่ได้ลงมือเอง เราไม่เกี่ยว เป็นความผิดพม่า เป็นความผิดจักรวรรดินิยมอังกฤษ เป็นความผิดบีบีซี (แต่ยิวก็สมควรตาย ว่ามั้ย)


ซ้ำประเด็นที่คนไทยถกเถียงกัน ยังไม่ใช่เรื่องชีวิตมนุษย์ 300-400 คนที่ลอยเท้งเต้งอยู่ตำตา แต่กลับข้ามช็อตไปว่าถ้าช่วยแล้วจะมาอีกเป็นแสนเป็นล้าน ฉะนั้นปล่อยให้ 300-400 คนรวมทั้งผู้หญิงและเด็กตายซะดีกว่า ไอ้พวกที่จะมาใหม่จะได้หลาบจำ


เป็นความผิดของ "โรฮิงแยม" ชัดๆ ที่ทำให้คนไทยต้องคิดมาก จากที่คิดว่าปราบแก๊งค้ามนุษย์ ช่วยให้น้ำให้อาหาร (อย่าให้มาตายหน้าบ้านเรา) เท่านั้นก็มีมนุษยธรรมพอแล้ว


สมบัติ บุญงามอนงค์ เปรียบเทียบว่าโรฮิงยา 58 คือเสื้อแดง 53 อันที่จริงแตกต่างบ้าง เพราะเสื้อแดงที่เห็นว่าโรฮิงยา "สมควรตาย" ก็มีไม่น้อย


แต่ถ้าเปรียบเทียบข้อหา "เผาบ้านเผาเมืองสมควรตาย" หรือที่คนชั้นกลางชาวกรุงโทษว่าคนเสื้อแดงสมคบกับ "ชายชุดดำ" แล้วฆ่ากันเอง ใส่ร้ายทหาร ฯลฯ ก็ไม่ต่างกัน


คือปลุกความเกลียดชังเพื่อปก ป้องผลประโยชน์ตน แล้วรับเอาข้อมูลเลวร้ายทุกอย่างเพื่อยอมรับการเข่นฆ่า โดยยังสามารถหลอกตัวเองว่า เป็นคนดีมีมนุษยธรรม


14 ตุลาก็เผาบ้านเผาเมืองนะครับ พฤษภา 35 มีคนจงใจเผา สน.นางเลิ้งด้วยซ้ำ ข้อสำคัญการ "เผาบ้านเผาเมือง" เกิดหลังจากมีคนตาย ไม่ว่าใครเผาแต่อย่างน้อยคนตายไม่ได้เผา


ไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคนไทยโดยเฉพาะคนชั้นกลางมีอันจะกินจึงมีความสุขภายใต้ระบอบ คสช.ที่กำลังจะครบรอบปี และจะมีความสุขอีกหลายปี เพราะความสุขวิถีไทยโลดแล่นไปตามละครหลังข่าวและโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก


เราคนไทย เราภูมิใจที่เป็นคนดี มีศีลธรรม รักชาติศาสน์กษัตริย์ รักพ่อ รักแม่ รักเด็ก รักสิ่งแวดล้อม รักจักรยาน รักน้องหมา (เตะหมาเป็นความผิดอาญา) รักคู่จิ้นฟินเว่อร์


เราภูมิใจผ้าไทย เราภูมิใจตลาดน้ำ เราภูมิใจคนไทยจะเป็นเจ้าของเอซีมิลาน เราต้องการอะไรก็ไปเข้าชื่อในเว็บ Change.org เราชอบมากเวลามีคนทำผิดให้รุมประณาม เพราะทำให้เราเป็นคนดี เราชอบมาตรา 44 เพราะจับผู้ร้ายให้สังคมพิพากษาทุกวัน เราเห็นด้วยกับการลดความเหลื่อมล้ำ แต่เกษตรกรต้องพึ่งตัวเอง รู้จักขุดบ่อน้ำซะมั่ง 30 บาทรักษาทุกโรคก็ทำให้คนนิสัยเสีย ไม่ดูแลสุขภาพ เหมือนตายในม็อบได้เงิน 7.5 ล้านบาท สร้างนิสัยไม่ดี


ลองนึกภาพเล่นๆ ว่าถ้าคนไทยต้องขึ้นเรืออพยพ แล้วเพื่อนบ้านไม่อยากรับ เขาจะบอกว่าคนไทยเป็นตัวปัญหาอย่างไร

คอลัมน์ ใบตองแห้ง


http://www.khaosod.co.th/index.php

morntanti

ชาวโรฮิงยา คืออีกหนึ่งของการสร้างความเกียจชังจากรัฐบาลทหารพม่าเพื่อที่จะขับไล่หรือกวาดล้างชาวโรฮิงยาให้ออกจากประเทศพม่า.....นี่คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยใช้การสร้างความเกียจชังมานับสิบๆปี...ความเป็นมนุษย์ทำไม่ต้องแยกเผ่าพันธุ์....