ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
แนวทางแก้โกรธ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 1639
ตอบกลับ: 0
แนวทางแก้โกรธ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-1-24 12:02
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kit007 เมื่อ 2015-1-24 12:03
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
ความโกรธล่ะ..เอาอะไรมาระงับมัน
พระศาสดาก็ทรงสอนให้สมาทานมั่นในศีล
ถ้าบุคคลใดเคารพในศีลจริงๆ
ถวายชีวิตบูชาต่อศีลจริงๆ
เช่นนี้มันก็ทำลายความโกรธในหัวใจนี้
ให้เบาบางออกไปเรื่อยๆ
เพราะว่าถ้าไปโกรธอยู่อย่างนี้...
ศีลมันจะขาด
ถ้าไม่ขาดเด็ดก็เรียกว่า
ศีลก็เศร้าหมอง
เพราะกลัวศีลจะเศร้าหมองเลย
"อดกลั้น"
เอา
อยากโกรธก็ไม่โกรธ
อยากทะเลาะวิวาทกับใครก็ไม่ทะเลาะ
เพราะกลัวศีลจะเศร้าหมอง กลัวศีลจะขาด
นี่ถ้าเคารพต่อศีลจริงๆนะ
มันก็ทำให้โทสะพยาบาทนี้เบาบางออกไป
และกอปรกับ
"เจริญเมตตากรุณา"
ให้แก่กล้าขึ้นในจิตใจนี้
ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เรื่องเมตตากรุณานี่
อันนี้เป็นธรรมสำหรับสนับสนุนศีลให้บริสุทธิ์ให้มั่นคง
ถ้าหากว่าไม่เจริญเมตตากรุณาธรรมให้เกิดขึ้นอย่างนี้
เดี๋ยวความโกรธมันก็เกิดขึ้นมาอีกแล้ว
บุคคลจะไปข่มใจละมัน
มันก็เพียงแต่ไปซ่อนตัวอยู่เฉยๆนี่แหละ
มันไม่ได้เบาบางออกไปห่างไปจากจิตใจเท่าไรนัก
ครั้นพอเผลอๆมันก็โผล่ขึ้นมาอีก
พอมีเหตุมากระทบกระทั่ง
ทีนี้ถ้าบุคคลมีธรรมะอยู่ในใจ
มีเมตตากรุณาอยู่ในใจเสมอๆไปอย่างนี้
เมตตาธรรมอันนี้แหละบัดนี้
เป็นเกราะป้องกันเวลามีเรื่องมายั่วให้โกรธ
กระทบกระทั่งมาอย่างนี่
มันก็เป็นเรื่องของบุคคลนั่นแหล่ะ
ไม่ใช่เรื่องดินฟ้าอากาศอะไรจะมายั่วให้คนโกรธ
บัดนี้เมื่อเรามีเมตตากรุณาต่อบุคคลอยู่ในใจเสมอๆแล้ว
ทั้งที่เป็นคนดีหรือคนชั่วเราก็ต้องการให้เขาเป็นสุข
ไม่ปรารถนาให้เป็นทุกข์เลยอย่างนี้นะ
เรานึกคิดอย่างนี้เสมอๆไป
พอเมื่อบุคคลเช่นนั้นแหละมาชวนทะเลาะวิวาทเข้าไป
มันก็รู้ตัวได้ทันที..ไม่แล้ว ไม่เอาแล้ว
ทะเลาะวิวาทกันไปก็ไม่ได้ดิบได้ดีอะไร
มีแต่ได้ชั่ว มีแต่เป็นบาปอกุศล
มีแต่เป็นกรรมเป็นเวร
ไม่มีดีสักหน่อยเดียว
หรือว่าทะเลาะกัน เรามีกำลังเหนือกว่าเขา
เราเอาชนะเขาได้อย่างนี้..ก็ชนะได้แต่ร่างกายนั่นแหละ
แต่จะไปเอาชนะใจของเขาไม่ได้เลย
เขาก็ผูกอาฆาตไว้บัดนี้
เขาพยายามเมื่อตนเผลอเมื่อใด
เขาได้ช่องเมื่อไรเขาก็ตอบแทนทันทีเลย
เมื่อเขาเล่นงานกับเรา เราก็เล่นงานกับเขา
เวรต่อเวรแล้วก็ผูกพันกันไปอยู่นั้น
ไม่รู้จักจบจักสิ้น
ก็เป็นเช่นนี้แหละที่บุคคลผู้ไม่มีศีล
ไม่มีเมตตากรุณาอยู่ในใจ
มันก็มีแต่ใจเหี้ยมโหดสามานย์
ไม่ยอมให้อภัยแก่ใครเลยอย่างนี้แล้ว
ผู้นั้นก็ต้องได้สร้างกรรมสร้างเวร
ใส่ตัวเองอยู่ร่ำไปเช่นนั้นแหละ
ขึ้นชื่อว่าความโกรธนี้ ..น้อยหนึ่งมันก็เป็นพิษ
................................................................
ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=49123
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...