ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2987
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

◎ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ ◎

[คัดลอกลิงก์]


เรื่องเล่าชาวสยาม
10 ชม. ·





◎ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ ◎
๑ ใน ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดิน....
" หมากดี ที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลัง วัดนายโรง
ไม้ครู คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบิน วัดหนองโพ
พิสมร วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้าย วัดโตนดหลวง
ราหู คู่วัดศรีษะ แหวนอักขระ วัดหนองบัว
ลูกแร่ ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน
เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา
ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาแผ้วพานฯ "
คือบทโคลงกลอนที่นักสะสมเครื่องรางของขลังในยุคเก่าก่อนได้กล่าวถึง ๙ เครื่องรางของขลังทรงคุณค่าที่ควรมีไว้คู่กาย อันได้แก่ ๑. หมากทุยหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ๒. เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง ๓. ตะกรุดไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ ๔. มีดหมอ (มีดบิน) หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ๕. ตะกรุดพิสมรหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ู๖. ตะกรุดอุดครั่งหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ๗. ราหูหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง ๘. แหวนอักขระหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ๙. ลูกสะกดเนื้อแร่บางไผ่ หลวงปู่จันทร์ วัดโมลี...ใครที่มีชิ้นใดชิ้นหนึ่งก็ว่าดีแล้ว ยิ่งใครมีครบนี่นับว่าเป็นมงคลมากทีเดียว แต่กว่าจะมาเป็นเครื่องรางของขลังทรงคุณค่าที่ผู้คนนิยมและศรัทธามากเช่นนี้ ประวัติความเป็นมาก็เข้มข้นน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ไม้ครู" หลวงปู่ภู วันอินทร์ ซึ่งถือว่าเป็น "ยอดไม้ครู" อันดับ ๑ ของเมืองไทย หนึ่งในชุดเครื่องรางมงคลสะท้านแผ่นดิน
" ไม้ครู" หลวงปู่ภู วันอินทร์ "
เป็นเครื่องรางของขลังประเภทตะกรุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้นิยมสะสม ไม้ครูที่มีชื่อเสียงโด่งดังมีอยู่ 3 สำนัก ได้แก่ ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กรุงเทพ, ไม้ครู หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม และ ไม้ครู หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี แต่ที่นิยมมากที่สุดเห็นจะเป็น ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ ซึ่งเป็นยอดไม้ครู ที่จัดอยู่ในชุดเครื่องรางมงคล 9 สะท้านแผ่นดิน ตามบทโคลงกลอนข้างต้น
หลวงปู่ภู เป็นพระเถราจารย์ที่ยึดการธุดงค์เป็นกิจวัตรมาโดยตลอด พอออกพรรษาท่านจะออกรุกขมูลมิได้ขาด โดยร่วมธุดงค์ไปกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และหลวงปู่ใหญ่
อมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู อันเลื่องลือ คือ "ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์" ตามตำว่าไว้ ประจุด้านเดียวเรียกไม้พ่อครู ประจุสองด้านเรียวนิ้วพระอิศวร "ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น" การสร้างไม้ครูนั้นเรียกได้ว่าสร้างยากมากๆ ผู้ที่มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงจะสร้างได้สำเร็จ วัสดุที่ใช้สร้างก็สุดแสนจะหายาก เพราะท่านต้องเดินธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เพื่อจะไปหาไม้ไผ่ และจะต้องเป็นไม้ไผ่สีสุกที่ถูกฟ้าผ่าล้ม ปลายชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้นถึงจะใช้ได้ ตามตำราระบุว่า ไม้ไผ่ลำนี้เปรียบประหนึ่งไม้ยันพระวรกายของเท้าเวสสุวรรณ และภายในเจ็ดวันท่านเฝ้ารอโขลงช้างที่จะผ่านมาพบ แล้วกระโดดข้ามกอไผ่นั้นทั้งโขลง ซึ่งก่อนที่ท่านจะตัดไม้ไผ่ลำดังกล่าว ท่านต้องทำพิธีพลีกรรมก่อน
นั่นก็คือ การขอของจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา เพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้มากยิ่งขึ้น เมื่อท่านได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านจะนำมาลงอักขระ แล้วใช้เป็นไม้เท้ายันกายในยามที่ท่านเดินธุดงค์ ขณะที่ท่านเดินธุดงค์และ เมื่อได้พบศพที่ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ก็จะใช้ไม้เท้านั้นจิ้มศพจนกว่าจะครบ ๗ศพ ตลอดระยะเวลาในการเดินธุดงค์ของหลวงปู่นานถึง ๓๐ ปี จากนั้นท่านก็จะนำไม้เท้าอันนี้มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็กๆ เรียกว่าตอก เตรียมไว้สำหรับลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน ถ้าลูกศิษย์คนใดอยากได้ไม้ครูจะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์ และถ้าท่านตอบตกลงทำให้ ผู้นั้นจะต้องจัดเครื่องไหว้ทำพิธี ซึ่งต้องมีบายศรี หัวหมู มะพร้าวอ่อน และอื่นๆ ตามแต่ที่หลวงปู่ท่านจะสั่ง แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ไม้ไผ่ตัดเหลือข้อไว้หนึ่งข้อ หรือไม้ที่เจาะรู จะไม้ ผยุง ไม้ขนุน และอีกหลายอย่าง เมื่อได้ของครบแล้ว ท่านก็จะทำพิธีลงพระนามในไม้ตอกที่ท่านเตรียมไว้
การทำพิธีลงนาม
หลวงปู่ท่านจะมองขึ้นบนฟ้าครั้งละนานๆ เคยมีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดถามท่านว่า "ทำไมหลวงปู่ต้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า" ท่านก็ตอบว่า "รอพระนามจากเบื้องบน" เมื่อได้พระนามจากเบื้องบนแล้ว ท่านก็จะทำการบรรจุไม่ลงพระนาม เข้าไปในไม้ที่เจาะเตรียมไว้ อุดด้วยไม้และลงอักขระทับอีกที เป็นอันเสร็จพิธี นับว่าสร้างยากมากจริงๆ
ข้อพึงระมัดระวัง
เมื่อท่านทำไม้ครูให้ผู้ใดก็ตาม ท่านมักจะกำชับหนักหนาว่า ห้ามเอาไปตีใครเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผู้ถูกตีถึงกับเสียจริต (เป็นบ้า) รักษาไม่หาย
อิทธิฤทธิ์ของไม้เท้าพ่อครู
ใช้ป้องกันตัวเมื่อยามคับขัน ป้องกันโจรผู้ร้าย คุณไสย และภูติผีปีศาจไม่กล้ากล้ำกลาย ซึ่งผู้ที่ถือครองต่างก็เห็นเป็นประจักษ์กันมานักต่อนัก
คาถาปลุกไม้พ่อครู
"โอมปลุกปลุกลุกลุกกูจะปลุกพ่อครู นิ้วเพชรพระอิศวร กระบองยันกายท้าวเวสสุวรรณ ไม้โขลงช้างข้าม ปีศาจพ่อครู โอมปลุกมหากูจะปลุกไม้เท้าพ่อครู หลวงปู่ภูประสิทธิ์ให้กุสวาหะ"
อย่างที่ทราบกันดีว่า เครื่องรางของขลัง เป็นวัตถุมงคลที่ผู้คนนิยมพกติดตัวตามความเชื่อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เสริมพลังใจ และเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต แต่เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากเราจะพกเครื่องรางของขลังกันแล้ว สิ่งที่ไม่ควรลืมอย่างยิ่งคือ "การทำดี" เพราะนั่นคือ เกราะคุ้มภัยชั้นดี ที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อหา







2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-1-22 07:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2015-1-22 07:12
" หมากดี ที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลัง วัดนายโรง

ไม้ครู คู่ ...

ที่อ่านมาทั้งหมด...ไม่มีเลยสักชิ้น... อย่างน้อยๆก็ได้ทราบว่าเครื่องรางในอดีตที่ขึ้นชื่อมีอะไรบางและของเกจิท่านใด....ถ้าจะมีก็คง กะลาแกะ ราหู วัดศรีษะทอง (ตอนนี้อยู่กับน้องชาย )
" หมากดี ที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลัง วัดนายโรง

ไม้ครู คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบิน วัดหนองโพ

พิสมร วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้าย วัดโตนดหลวง

ราหู คู่วัดศรีษะ แหวนอักขระ วัดหนองบัว

ลูกแร่ ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน

เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา

ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาแผ้วพานฯ "




ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้