ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
เจ้าพ่อหอกลอง
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 15087
ตอบกลับ: 1
เจ้าพ่อหอกลอง
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-1-4 20:40
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
พาไปไหว้ เจ้าพ่อหอกลอง ในเกาะรัตนโกสินทร์
ประวัติเดิม
เจ้าพระยาสีห์สุรศักดิ์ (จัน) ในรัชกาลที่ ๑ เกิดที่กรุงศรีอยุธยา เป็นทหารเอกในพระเจ้ากรุงธนบุรี เป็นพลรบฝ่ายซ้าย ต่อมาได้เลื่อนเป็นพลรบฝ่ายขวา แทนเจ้าพระยาพิชัยดาบหัก ซึ่งถึงแก่กรรม เจ้าพระยาสีห์สุรศักดิ์ได้ติดตามพระเจ้าตากสินมหาราชออกรบ มีความเชี่ยวชาญในทางหอก และชอบให้ทหารตีกลองศึกในเวลาออกรบ ทหารทั้งหลายในสังกัด จึงพร้อมใจกันตั้งชื่อว่า "เจ้าพ่อหอกลอง" ท่านเป็นกำลังสำคัญในการกอบกู้เอกราชของชาติไทย ต่อมาป่วยเป็นโรคลำไส้ สิ้นชีวิตที่พระราชวังเดิม จังหวัดธนบุรี เมื่อ พ.ศ.๒๓๔๑ อายุ ๕๘ ปี
สมัยเมื่อตั้งกรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวง ได้แสดงอภินิหารต่าง ๆ เรื่อยมา เมื่อสร้างศาลาว่าการกลาโหม พ.ศ.๒๔๒๕ ได้สร้างหอกลองขึ้นไว้บนปลายสุดของยอดชั้นที่ ๓ ด้านสะพานช้างโรงสี ต่อมาตึกร้าวจึงรื้อออก เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ แล้วสร้างศาลเจ้าพ่อหอกลองขึ้นใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๒
ศาลเจ้าพ่อหอกลอง
ที่ตั้ง กรมการรักษาดินแดน ริมถนนอัษฎางค์ ทางด้านคลองคูเมืองเดิม เขตพระนคร
กรุงเทพฯ
ประวัติความเป็นมา
สร้างขึ้น พ.ศ. 2509 เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง และไว้เป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงเจ้าพ่อหอกลอง ตามความเชื่อ และความสำคัญที่ผูกพันกับคนไทยมาช้านาน ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ "กลอง" คือ สิ่งที่ใช้ตีบอกเวลา ส่งสัญญาณ และบอกข่าวสารแก่กัน จากวังสูงบ้าน และแพร่ขยายต่อ ๆ กันไปทั่วกรุงฯ มีหลักฐานว่าในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้มีการสร้างหอกลองไว้หน้าวัดพระเชตุพนฯ มีกลองสำคัญประจำอยู่ 3 ใบ คือ กลองย่ำพระสุรสีห์ ไว้ตีบอกเวลา กลองอัคคีพินาศ ไว้ตีเพื่อบอกเหตุไฟ้ไหม้ และกลองพิฆาตไพรี ไว้ตีเมื่อเกิดศึกสงครามหรือข้าศึกบุกมาประชิดพระนคร
ทั้งเสียงและจังหวะการตีกลองทั้งสามใบจะแตกต่างกันทำให้ผู้ฟังรู้ทันทีว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น มีเรื่องเล่าว่าเจ้าหน้าที่ประจำหอกลองคนแรก ได้เสียชีวิตลงในหน้าที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 จึงได้โปรดฯ ให้สร้างศาลไว้ใกล้กับบริเวณหอกลองเพื่อเป็นที่ระลึก
ในสมัยก่อนเมื่อมีงานราชพิธีสำคัญ ๆ ก็จะมีการอัญเชิญเทพเทพารักษ์มาร่วมบูชาอยู่ด้วยเสมอ ต่อมาในสมัยของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ศาลเจ้าพ่อหอกลองทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา พระองค์จึงทรงแก้ไขปรับปรุงศาลเทพารักษ์ เจ้าพ่อหอกลอง เปลี่ยนจากมณฑปมาเป็นพระเกี้ยว
ครั้นต่อมาในรัชการที่ 4 พระองค์ทรงมีประสงค์จะรักษาสภาพศาลนี้ให้คงอยู่ในสภาพดั้งเดิม จึงทรงเปลี่ยนจากพระเกี้ยวมาเป็นมณฑปเช่นเดิม แต่ได้ทรงแก้ไขบางส่วนให้เป็นมณฑปแบบศาลหลักเมืองในสมัยนั้น
เมื่อมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ศาลเจ้าพ่อหอกลองเสียใหม่ และได้ถูกปรับปรุงมาอีกหลายครั้ง จนกระทั่งปี พ.ศ.2498 กรมการที่ดินได้ย้ายมาอยู่ ณ สวนเจ้าเชตุนี้ โดยย้ายมาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สวนเจ้าเชตุในสมัยนั้นก็เป็นที่ตั้งของกองพันทหารอยู่แล้วคือ ร.1 พัน 4 รอ.ในการย้ายกรมการที่ดินมาตั้ง ณ ที่แห่งใหม่นี้ ได้มีการพูดกันว่า สถานที่ที่กรมการรักษาดินแดนย้ายมาตั้งนี้ คือที่ตั้งเดิม ของศาลเทพารักษ์เจ้าพ่อหอกลอง อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ต่อมาในปี พ.ศ.2509 ท่านเจ้ากรมรักษาดินแดน พล.ท.ยุทธ สมบูรณ์ จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.ฟื้น แสงรักษ์ เป็นผู้ดำเนินการในการจัดสร้างศาลเจ้าพ่อหอกลองขึ้น โดยได้สร้างแบบจตุรมุข และมีมณฑปแบบของเดิม ส่วนองค์เจ้าพ่อหอกลองนั้น ไม่ได้อัญเชิญองค์เดิม มาจากศาลหลักเมือง เพราะเกรงว่าจะผิดพระราชประสงค์ขององค์รัชการที่ 5 จึงได้สร้างองค์เจ้าพ่อหอกลองขึ้นมาใหม่ โดยคณาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิวิทยาคมหลายท่าน ช่วยตรวจดูพระรูปลักษณะของเจ้าพ่อหอกลอง พระคณาจารย์ได้เห็นพ้องต้องกันว่า ให้สร้างพระรูปเจ้าพ่อหอกลองเป็นแบบคนโบราณนุ่งผ้ากระโถงผ้าขาวม้าพาดไหล่ซ้าย นั่งขัดสมาธิ มือทั้งสองข้างวางบนเข่า ทั้งซ้ายและขวา องค์หล่อด้วยทองเหลือง หน้าตักกว้าง 29 นิ้ว ประทับนั่งบนแท่นแปดเหลี่ยม
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-1-4 20:41
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นอกจากนั้นยังได้อันเชิญกลองโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา จากวัดสุวรรณดาราราม อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาประดิษฐานไว้ ณ ที่แห่งนี้อีกด้วย กลองใบนี้มีชื่อว่า “กลองหาญชาญชัยศึก” ครั้นเมื่อศาลเจ้าพ่อหอกลองใหม่ได้สร้างเสร็จลง ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศก็พากันมาร่วมเฉลิมฉลองงานที่ได้จัดขึ้นอย่างใหญ่โตมโหฬาร นับตั้งแต่นั้นมา ศาลเจ้าพ่อหอกลองจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีประชาชนเคารพบูชากันมาโดยตลอด ตราบจนทุกวันนี้ และมักจะมีการมาแก้บนกันด้วยว่าว และประทัด หากได้ทุกสิ่งตามที่มาขอกับเจ้าพ่อ จนเป็นศาลที่งามสง่าอย่างที่เห็นในปัจจุบัน รูปเหมือนของเจ้าพ่อหอกลองในศาล มีผู้เลื่อมใสเดินทางมีกราบไหว้อย่างมากมาย ไม่แพ้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ในเกาะรัตนโกสินทร์
หอกลอง
รถประจำทาง : สาย 2 9 12 43 47 60 70 80 86
รถปรับอากาศ : สาย 1 3 6 7 44
เรือโดยสาร : เรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นที่ท่าช้างและท่าเตียน
เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 06.00-20.30 น.
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าธรรมเนียม
ที่จอดรถส่วนบุคคล : บริเวณด้านหน้าศาล
ที่มา:
http://board.postjung.com/840749.html
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...