หากใครที่ได้ลองอ่านเรื่องนี้ดูอย่างจริงจังและคิดเรื่องราวต่างๆในเทพนิยายเรื่องนี้
ตามหลักความจริงโดยตัดเอาสิ่งเหนือธรรมชาติและอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ทั้งหลายออกไปแล้ว
อาจจะมองเห็นเหมือนที่ผมเห็นอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือแท้จริงแล้ว
รามเกียรติ์และรามายณะก็คือบันทึกประวัติศาสตร์สงคราม
และการเมืองของชนชาติโบราณสองชนชาติที่มีอยู่จริงในโลก
นั่นคืออารยันและดราวิเดียน
เรื่องรามเกียรติ์นั้นหากจะกล่าวเนื้อหาโดยสรุปแล้วก็คือบันทึกการสงครามระหว่างฝ่ายธรรมและอธรรม
โดยตัวแทนฝ่ายธรรมนั้นก็คือมนุษย์ ลิง และเทวดา ส่วนตัวแทนฝ่ายอธรรมก็คือยักษ์
แต่จะมีใครรู้บ้างว่า มันคือสงครามที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์อันไกลโพ้น
ระหว่างสองเผ่าพันธุ์ นั่นคืออารยัน(อินโด-ยูโรเปียน)และดราวิเดียน(ทมิฬ)
เพียงแต่บันทึกของสงครามนี้ไม่ได้ถูกบันทึกเก็บมาในรูปแบบของเอกสารทั่วไป
แต่กลายมาเป็นบทร้อยกรองอันสละสลวยและมีการแต่งเติมความพิสดารพันลึก
และแทนเรื่องราวหรือผู้คนหลายสิ่งด้วยสัญลักษณ์ต่างๆเช่น เทพ อสูร คนธรรพ์
ซึ่งหากเราลองตีความกันจริงๆแล้ว จะพบอะไรๆหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ในเนื้อหา
และเรื่องราวของรามเกียรติ์มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
ทำไม..????
จึงเชื่อได้แน่นอนว่าการต่อสู้ระหว่างมนุษย์ เทพ ลิงและยักษ์ในรามเกียรติ์คือ...
บันทึกสงครามระหว่างชาวอารยันและดราวิเดียน นั่นเพราะเดิมทีชมพูทวีปโดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้นั้น
เป็นดินแดนที่มีชนเผ่าดราวิเดียนตั้งรกรากอยู่ ชนเผ่าดราวิเดียนนั้นเป็นพวกที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวดำคล้ำ ผมหยิก
ซึ่งจะเห็นได้ว่ายักษ์ในเรื่องรามเกียรติ์กับชนเผ่าดราวิเดียนมีลักษณะไม่แตกต่างกันเลย ในขณะที่ชนเผ่าอารยันนั้น
ไม่ใช่ชนชาติที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้มาแต่แรก แต่เป็นชนชาติที่อพยพมาจากทางตอนเหนือ
พวกนี้มีผิวกายขาว รูปร่างหน้าตาคมสันกว่าพวกดราวิเดียน ซึ่งจะว่าไปก็คือพวกมนุษย์และเทพใน
รามเกียรติ์นั่นเอง
|