ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>>> พระศรีราม <<<

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตถตา เมื่อ 2014-12-15 19:42

มองในแง่มุมของงานศิลปะแล้ว นี่เป็นเหรียญที่ออกแบบได้สวยงามมีเสน่ห์มาก ยิ่งผ่านมืออาจารย์สรายุทธด้วยแล้ว ผมไม่ลังเลที่จะบูชาเนื้อชนวนมาเป็นของตัวเอง ก่อนที่ต่อไปจะหาไม่ได้อีก เหรียญที่ครบทั้งศิลป์และนารายณ์คุณ
เมคมันนี่เตรียมไปรับกลับก๊าบ
wee ตอบกลับเมื่อ 2014-12-15 18:37
เปิดให้จองแล้วหรือครับศิษย์พี่

ไม่ต้องจอง บูชาได้เลยค่ะ เนื้อเงินหมดแล้ว เนื้อชนวนเหลือ2องค์สุดท้าย. ส่วนเนื้อสำริดให้ไว!!!
mail ตอบกลับเมื่อ 2014-12-15 15:02
สอบถามอาจารย์  พระรามดีไหม ได้ความว่า จริงๆแล้ว คือ พ ...

พระรามะสัมมาสัมพุทธเจ้า



ปรากฏในเรื่อง อนาคตวงศ์ กล่าวถึงว่า หลังจากที่หมดยุคศาสนาของ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า แผ่นดินถูกทำลาย และได้เกิดแผ่นดินใหม่จนนับไม่ถ้วนแล้ว

จนถึงแผ่นดินใหม่เรียกว่า มัณฑกัปป์มีพระพุทธเจ้า บังเกิดขึ้นมา 2 พระองค์ได้แก่

พระรามะสัมพุทธเจ้า และพระธรรมราชาสัมพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้นต้องบำเพ็ญบารมี อย่างยิ่งยวด

โดยพระรามะสัมพุทเจ้า พระองค์นี้ ครั้งหนึ่งย้อนกลับไปในสมัย พระกัสสปะพุทธเจ้า

พระองค์เกิดในตระกูลพราหมณ์ ชื่อว่า นารทมาณพ วันหนึ่งได้พบกับ พระกัสสปะพุทธเจ้า

เกิดความยินดี เลื่อมใสเป็นอย่างมาก จึงทำการสักการบูชาด้วยการใช้ผ้า 2 ผืนชุบน้ำมันพันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าทั้ง 2 ข้าง และจุดไฟ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ถึงเวลาเช้ามืด ครั้นนารทมาณพดับจิตแล้วได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตและจุดที่ทำการเผาร่างกายนั้นบังเกิดดอกบัวผุดขึ้น


ครั้งนั้น พระกัสสปะพุทธเจ้า จึงตรัสพยากรณ์ว่า มาณพนี้จะได้เป็น...


พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในมัณฑกัปป์นี้ ด้วยอนิสงส์ที่บูชาร่างกายเป็นปรมัตถบารมีนี้จึงทำให้พระองค์มีพระวรกายสูง 80 ศอกและมีพระชนมายุ 9 หมื่นปี



เตรียมไปอัญเชิญเนื้อชนวนกลับ เย้ๆๆ
พระศรีราม

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
เนื้อเงินและชนวนหมดแล้วนะครับ ใครยังไม่มีเนื้อสำริดยังพอได้ ให้ไวนะครับ
พระอนาคตวงศ์ กัณฑ์ที่ ๒  



(ภควา “เมตฺเตยฺยสฺส สาสนฺกาเล อติกฺกนฺเต ตสฺส สทฺธมฺมปชฺโชโต อนฺตรธายิ มณฺฑกปฺเป ราโมจ ธมฺมราชา จ เทฺว พุทธา อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ อิมํ สทฺธมฺมเทสนํ กเถสีติ ฯ)

(อนุสนธิพระสัทธรรมเทศนา มีปุพพาปรสืบเนื่องมาโดยลำดับ บัดนี้จะได้วิสัชนาในประวัติกาลแห่งสมเด็จพระสัพพัญญูบรมครูพระพุทธเจ้าสามพระองค์ ทรงพระนามว่า พระราม, พระธรรมราชา, พระธรรมสามี เป็นลำดับต่อไป ดำเนินเนื้อความว่า)




พระรามโพธิสัตย์



  

ภควา สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสเทศนาแก่พระสารีบุตรสืบต่อไปว่า ในกาลเมื่อพระพุทธศาสนา แห่งองค์สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยเสื่อมสูญสิ้นแล้ว อันว่าประทีปแก้ว คือพระสัทธรรมนั้นก็สูญสิ้น ฝูงสัตว์ทั้งหลายก็มืดมัวไม่รู้จักบาปและบุญ คุณและโทษ ประโยชน์และไม่ประโยชน์ ประการใด จนถึงไฟประลัยโลกล้างวินาศฉิบหายสิ้นทั้งแสนโกฏิจักรวาล เพลิงประลัยกัลป์เกิดขึ้นไหม้แผ่นดินภัทรกัปอันนี้ฉิบหายหมดแล้ว สิ้นกาลช้านาน จึงบังเกิดแผ่นดินใหม่ขึ้นมา มีมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายบังเกิดมีมาสำหรับแผ่นดิน ก็มีมาเสียเปล่า กัปป์แผ่นดินที่มีมาในเบื้องหน้านั้นเป็นสุญญกัปนับได้อสงไขยแผ่นดิน

จะได้มีสมเด็จพระพุทธเจ้า ปัจเจกพุทธเจ้า และพระยาจักรผู้ประเสริฐบังเกิดมีมานั้นหามิได้ จึงมีนามว่า สุญญกัปป์ เกิดมีแต่มนุษย์ทั้งหลายหาบุณหาวาสนาบารมีมิได้ ฯ เมื่อแผ่นดินเกิดขึ้นมา สูญเสียจากท่านผู้ทรงพระคุณแล้ว ฉิบหายไปด้วยไฟ ด้วยน้ำ ด้วยลม แล้วเกิดขึ้นใหม่อีกเล่าจนถ้วนอสงไขย แผ่นดินล่วงลับไปนับด้วยอสงไขยแผ่นดินแล้ว ฯ

ในกาลนั้น บังเกิดแผ่นดินขึ้นมาใหม่เรียกชื่อว่า มัณฑกัปป์ พระพุทธเจ้าจักได้บังเกิด ๒ พระองค์ คือ ..


พระรามโพธิสัตว์ ๑ พระเจ้าปเสนทิโกศล ๑




แรกปฐมกัปป์เกิดก็มีอายุยืนได้อสงไขยหนึ่ง แล้วลดน้อยถอยลงมาอยู่เพียง ๙ หมื่นปี ฯ ครั้งนั้นพระรามโพธิสัตว์ จะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระเจ้าปเสนทิโกศล พระองค์มีพระชนม์อายุได้ ๙ หมื่นปี พระสรีรกายสูงประมาณ ๘๐ ศอก ไม้จันทร์เป็นไม้พระศรีมหาโพธิ มีพระรัศมีส่องสว่างไปในอากาศอยู่เป็นนิจจกาล ปรากฏงามเปรียบด้วยรัศมีของพระจันทร์สว่างทั่วโลกธาตุ ด้วยเดชะพระพุทธานุภาพนั้น โลกทั้งปวงบังเกิดมีไม้กัลปพฤกษ์ มหาชนได้อาศัยไม้ทิพย์นั้นประพฤติเลี้ยงชีวิต เป็นบรมสุขทุกเมื่อมิได้ขาด

ครั้งเมื่อพระพุทธศาสนาพระรามโพธิสัตว์สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ฝูงสัตว์ทั้งหลายได้บังเกิดในสวรรค์เป็นอันมาก ดูก่อนสารีบุตร พระรามโพธิสัตว์เจ้าได้บำเพ็ญกองบารมีทั้งหลายมาช้านานเป็นอันมากแล้ว แต่กองบารมีธรรมครั้งหนึ่งนั้น ปรากฏเป็นยอดปรมัตถบารมีอันประเสริฐ เพราะเหตุดังนั้นพระรามสัพพัญญูเจ้า จึงได้พระพุทธสมบัติเห็นปานดังนี้

สมเด็จพระศรีสรรเพ็ชญ์จึงตรัสพระสัทธรรมเทศนาแก่พระสารีบุตรว่า ในเมื่อครั้งพระศาสนาพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระรามองค์นี้เป็นบรมโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ มีนามว่านารทมาณพ วันหนึ่งนารทมาณพได้ทัศนาการเห็นองค์พระพุทธกัสสปสัพพัญญูบรมครูเจ้าครั้งนั้น ก็มีความโสมนัสยินดีปรีดา คิดว่าจะกระทำสักการบูชาแก่พระองค์ให้เห็นศรัทธาของอาตมา มิได้คิดแก่ชีวิตอินทรีย์

คิดแล้วจึงเอาผ้า ๒ ผืนชุบน้ำมัน พันสรีรกายตั้งแต่เศียรเกล้าตลอดปลายเท้าทั้ง ๒ แล้วก็จุดไฟขึ้นบนศีรษะเป็นประทีปกระทำสักการบูชา ถวายแก่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า แล้วตั้งปณิธานความปรารถนาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคเป็นอันงาม อันว่าองค์อวัยวะน้อยใหญ่ในสรีรกายของข้าพระพุทธเจ้า คือเลือดเนื้อเป็นอาทิ กระทำเป็นทานถวายแก่พระองค์ในกาลบัดนี้ ปัจจโย โหตุ จงบังเกิดมีเป็นปัจจัย ให้อุปการคุณอุปถัมภกยกชูข้าพระพุทธเจ้าให้ได้สำเร็จแก่พระสร้อยสรรเพชุดาญาณ ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเถิด

ครั้งนั้นองค์สมเด็จพระพุทธกัสสปเจ้า จึงตรัสพยากรณ์ทำนายนารทมาณพนั้นในท่ามกลางบริษัททั้ง ๔ มีพระพุทธฎีกาว่า ดูก่อนมาณพผู้เจริญ ในเมื่อภัทรกัปนี้ฉิบหายไปแล้ว บังเกิดมีกัปป์ตั้งขึ้นมาใหม่ เป็นสุญญกัปอยู่สิ้นกาลช้านาน นับได้อสงไขยแผ่นดินล่วงไปแล้ว ครั้งนั้นจึงบังเกิดมัณฑกัปป์ ในกาลเบื้องหน้าคือตัวของมาณพนี้จะได้บังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่าพระรามสัพพัญญูในมัณฑกัปป์อันนั้น พระองค์ทรงพยากรณ์ทำนายมาณพดังนี้แล้ว

ครั้นเวลาราตรียังรุ่ง ก็กระทำกายของมาณพเป็นประทีปถวายต่างเครื่องสักการบูชาสมเด็จพระพุทธเจ้าเป็นอันดี ครั้นนารทมาณพดับจิต ก็ได้ไปบังเกิดในดุสิตาสวรรค์เทวโลก ในที่เผาสรีรกายกระทำสักการบูชาแห่งมาณพนั้น ก็บังเกิดดอกบัวผุดขึ้นมา มหาชนเห็นเป็นอัศจรรย์จึงกล่าวสรรเสริญชมว่า จะหามนุษย์ผู้ใดเปรียบเสมอสองหามิได้ นานไปจะได้บังเกิดเป็นสมเด็จพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง มั่นคงนักหนา ฝูงมหาชนก็ชวนกันมากระทำสักการบูชาในที่เผาสรีรกายแห่งมาณพ ฯ

ดูก่อนสำแดงสารีบุตร พระรามโพธสัตว์นั้นนานไปก็จะได้บังเกิดเป็นสมเด็จพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ด้วยผลอานิสงส์ที่ท่านมิได้เอื้อเฟื้อแก่สรีรกายและชีวิตของอาตมา กระทำเป็นมหาบริจาค เจตนาอันใหญ่ยิ่งกว่าบารมีทั้งหลายทั้งปวง เป็นยอดปรมัตถบารมี ด้วยเดชะอานิสงส์ที่บูชาสรีรกายของอาตมานั้น

เมื่อได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า มีสรีรกายสูง ๘๐ ศอก สละชีวิตเป็นทาน เป็นปรมัตถบารมีอันอุดมอุกฤษฏ์นั้น จะมีพระชนมายุได้ ๙ หมื่นปีเป็นกำหนด เวลาราตรียังรุ่งตามประทีปแล้ว คือ สรีรกายของอาตมากระทำสักการบูชานั้น จะบังเกิดพระรัศมีรุ่งเรืองงามสว่างไปทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นนิจจกาล อาจปกปิดเสียซึ่งแสงพระจันทร์และพระอาทิตย์ กระทำให้อัปภาคย์แพ้พระรัศมีของพระองค์ ฯ

สำแดงมาด้วยเรื่องราวพระรามโพธิสัตว์คำรบ ๒ ก็ยุติแต่เพียงนี้ ฯ


กิ่งชนวนที่นำมาหล่อนี่ก็สุดๆแล้วครับ กิ่งหล่อวัตถุมงคลในพิธีชัยมหานาถ กิ่งหล่อพระเจ้าชัยวรมันรุ่น 2 เป็นการรวบรวมของสุดยอดชนวนมวลสารทั้งนั้น มีผสมอยู่ในทุกเนื้อที่จัดสร้างครับ
              หากใครที่ได้ลองอ่านเรื่องนี้ดูอย่างจริงจังและคิดเรื่องราวต่างๆในเทพนิยายเรื่องนี้

ตามหลักความจริงโดยตัดเอาสิ่งเหนือธรรมชาติและอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ทั้งหลายออกไปแล้ว

อาจจะมองเห็นเหมือนที่ผมเห็นอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือแท้จริงแล้ว

รามเกียรติ์และรามายณะก็คือบันทึกประวัติศาสตร์สงคราม

และการเมืองของชนชาติโบราณสองชนชาติที่มีอยู่จริงในโลก

นั่นคืออารยันและดราวิเดียน


  
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้