|
ในช่วงปัจฉิมวัย ที่หลวงปู่มีอายุ ๙๐ พรรษากว่าแล้ว ยังมีความอดทนเป็นยอด ท่านจะไม่เคยบ่นให้ได้ยินเลยว่า ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ เป็นหวัด นอกจากพระผู้ปฏิบัติจะต้องสังเกตเอง กราบเรียนถามเอง บางครั้งท่านปวดหัวอยู่ตั้ง ๓ เดือน มีพระไปถามขึ้น ท่านจึงยอมบอก
เวลานั่งรถ ท่านกลั้นปัสสาวะครั้งละนาน ๆ เช่น ตั้งแต่กรุงเทพฯ ตลอดถึง เมืองเลย พิษณุโลกตลอดเชียงใหม่ ก็มี...นานเท่านาน ไม่ว่ากี่ชั่วโมง จะไม่ปริปากบ่น จากเมืองเลย – กรุงเทพฯ, เมืองเลย – เชียงใหม่, เชียงใหม่ – พะเยา, พะเยา – เชียงราย, เชียงราย – เชียงใหม่, หาดใหญ่ – ปีนัง, หาดใหญ่ – ภูเก็ต, เมืองเลย – ศรีสะเกษ, เมืองเลย – บ้านแพง, บ้านแพง – นครพนม, นครพนม - มุกดาหาร, กรุงเทพฯ – จันทบุรี ฯลฯ
ท่านนั่งอยู่ท่าเดิม ไม่ขยับเขยื้อน พระเณรผู้ติดตามไม่พาพัก ท่านก็ไม่พัก
ท่านชอบ “ไป” จริง ๆ ยิ่งที่ลำบากทุรกันดาร ท่านยิ่งมักไป จะอุ้ม จะหามไป ท่านก็ไม่ว่า หลวงปู่นั่งรถได้ทุกระบบ แล้วแต่จะจัดถวาย ตั้งแต่ราคาเป็นล้าน ๆ จนถึงรถไถ รถอีแต๋น ท่านก็ยังเคยนั่งมาหลายครั้ง
ทั้ง ๆ ที่ท่านอยู่ในสภาพเคลื่อนไหวธาตุขันธ์ลำบาก ดูเหมือนลำบากมากเท่าใด ท่านก็ยิ่งชอบ ยิ่งสนุก ยิ้มได้บนความลำบากนั้น ถ้าท่านต้องการจะ “ไป” แล้ว ต่อให้ฝนตก ฟ้าร้อง แดดเปรี้ยง พายุกระหน่ำ ท่านก็จะไป และต้องไปให้ได้
ท่านจะอยู่วัดได้ไม่นาน สักวันสองวัน ท่านก็ “ไป” แล้ว พระเณรหนุ่มน้อยยังต้องยอมแพ้ท่าน ต้องเปลี่ยนวาระกันไปกับท่าน
งานนิมนต์ หรืองานพิธีต่าง ๆ ท่านไม่โปรด ท่านชอบไปตามสบายของท่าน ถ้ามีคนมานิมนต์ ท่านมักพูดว่า “ถ้าขัดข้องกะบ่ไป ถ้าบ่ขัดข้องกะไป” หรือ “ถ้าอยู่ดี สบายกะไป” และ “ถ้าเอารถมารับกะไป บ่เอารถมารับ กะบ่ไป” ทำนองนี้
เคยมีคนปรารถนาดี เสนอขอจัดรายการเดินทางถวายให้ท่านโดยละเอียด เช่นว่า นิมนต์อยู่ที่นั่น...เท่านั้นวัน อยู่ที่นี่...เท่านั้นวัน ไปที่นั่น...ที่นี่ วันนี้ วันนั้น...ฯลฯ ก็เคยลำบากมาแล้ว เพราะบทท่านจะไป ท่านไม่ได้นึกถึงงานพิธีหรือกำหนดการอะไร ถ้ากรณีมีคนมาชี้แจงอธิบายเหตุผล ขอนิมนต์ให้อยู่ เพราะญาติโยมศรัทธาจะมาจากที่โน่น ที่นี่ มาทอดผ้าป่า ทอดกฐิน ขอให้หลวงปู่อยู่เป็นประธาน ท่านมักพูดว่า “ผู้อยู่กะรับไป ผู้ไปกะไป” ดังนี้
การไป...การอยู่ของท่าน มิได้กำหนดแน่นอน ว่าจะอยู่ที่นี่ หรือที่นั่น เท่านั้น เท่านี้คืน สุดแท้แต่ท่านจะสะดวกสบาย ไม่ว่าในพรรษา หรือ นอกพรรษา ท่านไปทั้งนั้น แต่ถ้าในพรรษา จะกำหนดไว้ไม่เกิน ๗ วัน ต้องนิมนต์ท่านกลับมาเอาราตรีที่วัดอธิษฐานพรรษาเสียก่อน นอนสักสองคืนแล้วจึงไปต่อ
ไปกันมาก ๆ จนครบทุกที่ที่เคยไป บางครั้งพระเณรเรียนถามว่า “จะไปไหนต่อครับ หลวงปู่” ท่านตอบว่า “จะไปไหนกะไป” หรือ “แล้วแต่หมู่คณะจะพาไป”
ถ้าบางโอกาสถามว่า “จะไปหรือจะอยู่ครับ หลวงปู่” ท่านมักจะตอบว่า “หมู่พาไปกะไป หมู่อยู่กะอยู่”
บางครั้ง เวลาขึ้นนั่งรถแล้ว มีที่สามารถเลือกไปวิเวกได้หลาย ๆ ที่ เรียนถามว่า “จะไปไหนดีครับ หลวงปู่” ท่านตอบว่า “แล้วแต่รถจะพาไป”
ด้วยการไป – การมาแบบปัจจุบันทันด่วนของหลวงปู่ ทำเอาลูกศิษย์ลูกหาผู้ติดตาม ตั้งตัวไม่ติดหลายต่อหลายครั้ง เพราะมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าเป็นส่วนมาก บทท่านจะปุบปับ ใครเร็วก็ทัน ใครช้าก็พลาด และเวลาหลวงปู่ไปเยี่ยมที่บ้าน ลูกศิษย์บางท่านยังไม่ได้กราบ หลวงปู่ไปก่อนก็มี
|
|