ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4125
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระนารายณ์ ปางที่ 4 นรสิงหาวตาร

[คัดลอกลิงก์]
ปางที่ 4 นรสิงหาวตาร (อวตารเป็นครึ่งสิงห์)เพื่อปราบอสูรนาม “หิรัณยกศิปุ” ผู้เป็นน้องชายของ “หิรัณยากษะ”


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-12-10 12:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

“นรสิงหาวตาร (नरसिंह अवतार – NARASIMHA AVATAR)”


อวตารปางที่สี่ของพระนารายณ์ตอนนี้มีชื่อว่า “นรสิงหาวตาร” ซึ่ง เป็นปางแรกที่พระนารายณ์อวตารลงมาในไตรดายุค (त्रेतायुग – TRITA YUGA) ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่ 2 ของโลกเรา อันเป็นยุคที่ความดีของมนุษย์นั้นเริ่มลดลงเหลือ 3 ใน 4 ส่วน

คำว่า “นรสิงหาวตาร” นี้มาจากคำ 3 คำมารวมกัน คือ คำว่า “นร (नर – NARA)” ที่หมายถึง คน บวกกับคำว่า “สิงหะ (सिंह – SIMHA)” ที่หมายถึง สิงโต และคำว่า “อวตาร (अवतार – AVATAR)” ที่แปลว่า การเคลื่อนลงมา อันหมายถึง การเคลื่อนลงมายังโลกของพระนารายณ์ในรูปครึ่งคนครึ่งสิงโต นั่นเอง
เหตุการณ์ในตอนนี้เกิดขึ้นหลังจากหิรัณยากษะ (หิรันตยักษ์) ถูกพระนารายณ์ซึ่งอวตารเป็นหมูป่าสังหารไปแล้วแล้วนั้น พญายักษ์ชื่อว่า “หิรัณยกศิปุ” (हिरण्यาकशिपु – HIRANYAKASHIPU) ผู้เป็นน้องชายฝาแฝดก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ในหมู่อสูรใต้บาดาลแทนพี่ชาย พญายักษ์ผู้นี้มีจิตใจหยาบช้ากว่าพี่ชายยิ่งนัก ได้บำเพ็ญตบะและขอพรจากพระพรหมว่า

- ขออย่าให้ตนเองถูกมนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายฆ่าเอาให้ตายได้
- อย่าให้ตายด้วยอาวุธใด ๆ ในสากลโลก
- อย่าให้ตายในเวลากลางวันหรือกลางคืน
- อย่าให้ตายในบ้านหรือนอกบ้าน


ซึ่งพระพรหมธาดาก็ทรงประสิทธิ์ประสาทพรให้ตามที่ขอทุกประการ ทำให้พญาหิรัณยกศิปุมีความฮึกเหิมไม่เกรงกลัวผู้ใด แม้แต่พระผู้เป็นเจ้า สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ร้อนถึงพระวิษณุต้องทรงอวตารลงมาเป็นนรสิงห์เพื่อปราบหิรัณยกศิปุ นรสิงห์เป็นครึ่งคนครึ่งสิงห์ ได้ปรากฏตัวขึ้นในเวลาสนธยาโดยแตกออกมาจากเสาศิลากลางห้องท้องพระโรงของ หิรัณยกศิปุ ปราดเข้ามาจับตัวหิรัณยกศิปุ ลากออกไปอยู่บริเวณธรณีประตู (คืออยู่ในปราสาทครึ่งตัว อยู่นอกปราสาทครึ่งตัว) และนรสิงห์ผู้นั้นก็ถามพญาอสูรว่า

- ตนเป็นมนุษย์ เทวดา หรือสัตว์ พญายักษ์ตอบว่าไม่ใช่ทั้งมนุษย์ เทวดาและสัตว์
- นรสิงห์ก็ถามต่อไปว่า เวลานี้ร่างของหิรัณยกศิปุอยู่นอกเรือนหรือในเรือน พญายักษ์ตอบว่า ไม่ใช่ทั้งในเรือนและนอกเรือน
- นรสิงห์ถามต่อไปอีกว่า เวลานี้เป็นกลางวันหรือกลางคืน หิรัณยกศิปุตอบว่า มิใช่ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่เป็นเวลาโพล้เพล้
- นรสิงห์จึงชูมือกางกรงเล็บออกมา ถามพญายักษ์ว่า อันนี้คือ อาวุธหรือไม่ พญายักษ์ก็ตอบว่าไม่
- นรสิงห์จึงประกาศว่า พรทั้งหลายของพระพรหมธาดาเป็นอันเสื่อมแล้ว และตัวพญาอสูรก็ตกอยู่ในภาวะอันนอกเหนือจากพรหมประกาศิตทุกประการแล้ว

กล่าวจบนรสิงห์ก็จัดการสังหารพญาอสูรด้วยการใช้กรงเล็บฉีกกระชากอกของพญาอสูรจนถึงท้องจนขาดใจตาย

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้