ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 11298
ตอบกลับ: 9
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ลูกอม

[คัดลอกลิงก์]


ลูกอมเป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งที่อาจารย์ผู้ชำนาญทางด้านวิทยาคมนิยมสร้างกัน บางครั้งอาจจะมองว่าลูกอมนั้นสร้างได้ง่ายไม่ยุ่งยากอะไรไม่ต้องมีการแกะแม่พิมพ์หรือว่าจ้างโรงงานทำเหมือนสร้างพระเครื่องอีกทั้งวัสดุในการสร้างลูกอมก็สามารถหาได้ง่ายอาจารย์ผู้สร้างเพียงท่านเดียวก็สามารถสร้างลูกอมได้โดยไม่ต้องให้ใครไปช่วย แต่จริงๆแล้วลูกอมก็เป็นเครื่องรางที่สร้างได้ยากเช่นเดียวกับวัตถุมงคลอื่นๆ

    ลูกอมส่วนมากที่เราพบเห็นกันจะสร้างด้วยเนื้อ “ผงวิเศษ” ซึ่งผงวิเศษที่จะนำมาสร้างลูกอม มีอยู่ 5 ชนิดด้วยกันเรียกว่า ผงวิเศษห้าประการ ซึ่งประกอบด้วย  ผงปถมัง,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช,ผงพุทธคุณ

    ขั้นตอนของการสร้างลูกอม จะต้องสร้างผงวิเศษ5ประการนี้ขึ้นมาก่อนโดยผู้สร้างจะทำการสร้างผงวิเศษแต่ละชนิดด้วยการเอา “ดินสอผงวิเศษ”มาเขียนอักขระตามสูตรของการสร้างผงแต่ละชนิดบน “กระดานชนวน” ขณะที่เขียนจะต้องประกอบไปด้วยมือเขียน ตาจ้อง จิตเพ่ง ปากภาวนาไปพร้อมๆกันเมื่อเขียนอักขระเสร็จแล้วก็จะปลุกเสกอักขระนั้นก่อนจากนั้นจึงเอามือลบอักขระเป็นผงเก็บรวบรวมเอาไว้ซึ่งขณะที่ลบผงบนกระดานชนวนนั้นก็จะบริกรรมคาถากำกับเอาไว้ด้วย

     อาจารย์บางท่านเมื่อเขียนผงและปลุกเสกแล้วขณะที่กำลังลบผงอยู่นั้นผงจะร่วงทะลุกระดานชนวนลงสู่ภาชนะที่รองรับอยู่ข้างล่างได้เองอาจารย์ท่านใดที่สามารถลบผงจนผงทะลุกระดานชนวนลงสู่ภาชนะรองรับข้างล่างได้เองนี้เชื่อกันว่าอาจารย์ท่านนั้นสำเร็จวิชา “นะปัดตลอด”

    ในการเขียนและลบผงวิเศษแต่ละครั้งนี้ จะได้ผงอย่างมากก็แค่ครึ่งช้อนกาแฟเท่านั้น ผู้สร้างจะต้องเขียนและลบผงครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นร้อยๆครั้งจึงจะได้ผงเท่ากับจำนวนที่ต้องการในแต่ละอย่างแล้วต้องลบและทำผงให้ได้ผงวิเศษทั้ง5ประการนี้จนครบถ้วนตามตำราซึ่งการที่จะทำผงวิเศษให้ได้ครบทั้ง5อย่างนี้อาจต้องใช้ระยะเวลาเป็นปีๆจึงต้องใช้ความอุตสาหะเป็นอย่างมาก

    แต่อาจารย์บางท่านอาจจะชำนาญหรือเก่งในการทำผงได้เพียงบางอย่างไม่ครบทั้ง5อย่างแต่ถ้าทำผงถูกต้องตามขั้นตอนของตำราในการทำผงวิเศษแต่ละชนิดแล้วผงวิเศษแต่ละชนิดนั้นก็ย่อมมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองซึ่งผงวิเศษแต่ละชนิดจะมีคุณวิเศษไม่เหมือนกันหากทำผงวิเศษได้ครบทั้ง5ชนิดแล้วนำเอามารวมกันย่อมที่จะทำให้ผงวิเศษนั้นมีคุณวิเศษในทุกๆด้านแบบครอบจักรวาล

    นอกจากผงวิเศษแล้วอาจารย์บางท่านยังได้นำเอาพวกวัสดุอาถรรพณ์บางอย่างผสมกับผงวิเศษในการสร้างลูกอมด้วย ซึ่งก็ได้แก่ ตะไคร่ ใบเสมา ตะไคร่พระเจดีย์ ดินโป่ง ดินท่า ดินป่าช้า ดินอุดรูปู ดินเมืองร้าง ดินเหนียวกลางใจท้องนา ว่าน ผงธูป ฯลฯเพื่อเป็นการเพิ่มคุณวิเศษให้กับลูกอมยิ่งขึ้นไปอีก

    เมื่อได้ผงวิเศษตามตำราครบรวมกับวัสดุอาถรรพณ์บางชนิดแล้วต่อไปก็จะนำเอามวลสารเหล่านั้นมาคลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นก็ผสมกับตัวประสานเนื้อหามวลสารที่เป็นของเหลวเช่น “น้ำมันตังอิ๊ว”เพื่อให้เนื้อหามวลสารเกาะยึดตัวแน่นสมัยก่อนอาจารย์บางท่านที่หาน้ำมันตังอิ๊วไม่ได้ก็จะใช้ “น้ำอ้อย”เป็นตัวประสานซึ่งก็มีคุณสมบัติช่วยให้เนื้อหามวลสารเกาะยึดตัวกันแน่นเหมือนกันสมัยก่อนการสร้างพระเนื้อผงเขาก็นิยมใช้น้ำอ้อยเป็นตัวประสานเนื้อ

     เมื่อเอาตัวประสานเนื้อซึ่งเป็นของเหลวผสมกับมวลสารขณะที่เนื้อหามวลสารยังหมาดๆอยู่ก็จะเริ่มทำการปั้นเนื้อหามวลสารนั้นเป็นลูกกลมๆหรือลูกอมนั้นก็จะต้องมีการบริกรรมคาถาปลุกเสกไปตลอดเวลาด้วยเช่นกัน

     เมื่อปั้นเป็นลูกอมเสร็จได้จำนวนตามที่ต้องการแล้วก็จะเอาลูกอมนั้นไปผึ่งลมให้แห้งแล้วเก็บรวมเอาไว้เพื่อรอฤกษ์ในการปลุกเสกต่อไป
     สำหรับขั้นตอนของการปลุกเสกลูกอมนั้นนิยมปลุกเสกในช่วงเข้าพรรษา คือต้องปลุกเสกให้ครบไตรมาสหรือ3เดือนจะขาดวันใดหนึ่งแม้แต่พียงวันเดียวไม่ได้แม้จะป่วยอย่างไรก็ต้องพยายามฝืนปลุกเสกให้ครบทุกวันในพรรษานั้นแล้วการปลุกเสกแต่ละคืนก็ต้องปลุกเสกให้ครบจากกรรมวิธีการสร้างและการปลุกเสกที่เคร่งครัดหลายขั้นตอนนี้จึงทำให้ลูกอมเป็นเครื่องรางที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นิยมกันมากไม่แพ้วัตถุมงคลชนิดอื่นๆ

     ในส่วนของวิธีใช้สำหรับลูกอมนั้นจริงๆแล้วเมื่อมีชื่อเรียกกันว่า “ลูกอม” ลูกอมจึงมีวิธีการใช้โดยการอมไว้ใต้ลิ้นในปากเมื่อเวลาพูดจาก็จะเป็นที่ไพเราะน่าฟังและรักใคร่แก่ผู้ที่ได้ยินหรืออมไว้ใต้ลิ้นตลอดเวลาก็จะเป็นที่รักที่เมตตาแก่ผู้ที่ได้พบเห็นทั่วไปอีกทั้งยังป้องกันอันตรายต่างๆได้ดีอีกด้วย
แต่มาระยะหลังๆนิยมเอาลูกอมไปถักเชือกคาดสะเอวหรือห้อยคอปัจจุบันก็นิยมเอาลูกอมไปเลี่ยมพลาสติกหรือทำตลับพกบูชาติดตัวไม่ค่อยนิยมอมไว้ใต้ลิ้นในปากเหมือนเมื่อก่อนนอกจากลูกอมที่สร้างด้วยเนื้อผงวิเศษแล้วเรายังพบลูกอมที่ทำด้วยวัสดุอย่างอื่นที่แตกต่างออกไปอีกเช่น

      ลูกอมชานหมาก ซึ่งลูกอมชนิดนี้จะนำเอาชานหมากของพระสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติน่าเลื่อมใสหรือแก่กล้าทางวิทยาคมมาสร้างเนื่องจากพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติหรือแก่กล้าวิทยาคมนั้นขณะที่ท่านฉันหมากก็จะอยู่ในอารมณ์ภาวนาอยู่ตลอดเวลา หมากที่ท่านกำลังฉันก็เหมือนกับได้รับการปลุกเสกตลอดไปด้วยเมื่อท่านคายออกมาก็ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์สามารถนำไปใช้ได้เลยเพราะท่านได้ปลุกเสกไว้แล้ว แต่ส่วนมากเมื่อได้ชานหมากแล้วก็นิยมให้ท่านปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งเพื่อเพิ่มความมั่นใจขึ้นไปอีก

นอกจากลูกอมชานหมากแล้วก็ยังมีลูกอมอีกชนิดหนึ่งที่นิยมสร้างกันแพร่หลายคือ

     
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-11-24 12:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ลูกอมเทียน เป็นลูกอมที่ทำมาจากน้ำตาเทียนไขแต่ไม่ใช่น้ำตาเทียนไขที่จุดเพื่อให้แสงสว่างธรรมดาๆเป็นน้ำตาเทียนไขที่ได้มาจากเทียนชัยในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลเทียนวิปัสสนาเทียนทำน้ำมนต์ฯลฯซึ่งน้ำตาเทียนเหล่านี้ถือว่าได้รับการปลุกเสกแล้วพระเกจิอาจารย์บางท่านเมื่อหยดน้ำตาเทียนใส่ขันหรือบาตรที่บรรจุน้ำเพื่อทำน้ำมนต์เมื่อเสร็จพิธีแล้วชาวบ้านก็จะเอาน้ำตาเทียนในขันหรือบาตรมาปั้นเป็นก้อนกลมๆทำเป็นลูกอมกันลูกอมเทียนของพระเกจิอาจารย์บางท่านอาจจะมีผงวิเศษหรือเส้นเกศาของท่านบรรจุเอาไว้ด้วย

      ลูกอมลบถม เป็นลูกอมที่คณาจารย์นิยมสร้างกันมากซึ่งส่วนมากนิยมลง(อักขระเลขยันต์)ถมในแผ่นตะกั่วซึ่งสะดวกสบายกว่าวัสดุชนิดอื่นวิธีลบถมก็คือหล่อตะกั่วให้ละลายแล้วเทในถาดขนมปาดหน้าให้เรียบแล้วจึงนำมาจารลงอักขระเลขยันต์ตามถนัดหรือตามพระยันต์ที่ได้เล่าเรียนมาลงไปภาวนาไปจนเต็มเนื้อที่แล้วก็ใช้ลูกสะบ้าขัดทับลงไปให้เรียบแล้วจึงลงใหม่กระทำอยู่เช่นนี้อาจจะเป็นร้อยเที่ยวพันเที่ยวหรือหมื่นแสนเที่ยวก็ตามทีเห็นว่าลงจงดีแล้วให้ลองเอาใส่กระทะหลอมไฟดูปกติธรรมดาตะกั่วจะละลายหลอมเหลวได้ง่ายแต่ถ้ากระทำได้ที่อิทธิฤทธิ์จะค่อยๆดื้อไฟผลสุดท้ายถ้าดีถึงเกณฑ์สุดจะหลอมไม่ละลายนั่นแหละท่านอาจารย์จะนำเอามากล่อมเป็นลูกกลมๆมีน้ำหนักประมาณ1บาทเรียกว่าลูกอมลบถมแจกบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและเพื่อสะดวกในการร้อยเชือกห้อยแขวนคอหรือคาดเอวท่านจะเจาะรูตรงกลางมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าลูกสะกด
ลูกสะกดเนื้อตะกั่วลบถมของเก่าเคยมีผู้ขุดพบตามกรุหรือเจดีย์เก่าๆสมัยอยุธยามีคราบขุมสนิมจับแดงไปหมดแสดงว่าท่านโบราณาจารย์สมัยโบราณนิยมสร้างกันมาก

      ตะกรุดลูกอมม้วน เป็นก้อนกลมๆมีความกว้างขนาดเท่าใบมะขามยาวประมาณ7นิ้วลงในแผ่นทอง นาค เงิน ตะกั่ว ทองแดง อลูมิเนียมก็เคยพบเมื่อลงแล้วม้วนเข้าเป็นตะกรุดจึงมีลักษณะกลมป้อมร้อยด้วยไหมเจ็ดสีเรียกว่าตะกรุดลูกอม

     เรื่องตะกรุดลูกอมนี้เล่นหายากเหมือนกันเพราะอักขระเลขยันต์ท่านเขียนอยู่ภายในดูก็ไม่เห็นแต่ก็มีจุดที่พอจะพิจารณา ได้อยู่2ประเด็นด้วยกันคือถ้าเป็นตะกรุดของเก่าของแท้ส่วนมากจะม้วนอยู่หลายชั้นดูถี่ยิบทีเดียวเพราะความยาวของตะกรุดอยู่ประมาณ7-8นิ้วพิจารณาดูที่ร้อยเชือกถ้าเป็นของเก่าผ่านการใช้มาแล้วตรงรูจะสึกเป็นแอ่งลึกลงไปหรือไม่ก็ชั้นของตระกรุดลบเลือนเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกันอย่างงั้นละก้อเล่นหาได้สนิทใจตะกรุดลูกอมของแท้(ของเก่า)มีอุปเท่ห์อยู่มากมายใช้ได้รอบตัวเข้าที่อับจนท่านให้กลืนตะกรุดลงไปเลยก็จะเอาตัวรอดได้เมื่อกลืนตะกรุดลูกอมลงไปในคอแล้วตะกรุดจะไม่ถ่ายออกทางทวารหนักแต่จะออกมาทางปากในเวลานอนหลับ

    ลูกอมชนิดทำด้วยใบลาน ใบตาลมีลักษณะกลมป้อมคล้ายตะกรุดลูกอมเหมือนกันท่านคณาจารย์ผู้ชาญฉลาดท่านได้เอาใบลานหรือใบตาลมาลงหัวใจพุทธมนต์ต่างๆลงไปแล้วม้วนเป็นรูปกลมๆตรงกลางมีรูส่วนมากจะถักด้วยเชือกแล้วลงรักปิดทองเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งที่เคยเห็นและนิยมเล่นหาอยู่มากเหมือนกันลูกอมใบลานนี้บางท่านเรียก “ลูกกลอน”ของเก่ามีสร้างหลายอาจารย์ด้วยกัน
http://www.amuletstore.in.th/know_detail.asp?id=62
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-11-24 12:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เปิดตำนาน : ลูกอม
ลูกอมจัดเป็นเครื่องรางประเภทหนึ่งที่โบราณอาจารย์เจ้าท่านได้สร้างสรรค์ปลุกเสกบรรจุพุทธาคมลงไป เพื่อไว้ให้ญาติโยมมีของดีไว้ป้องกันภัยและอันตรายต่าง ๆ ลักษณะของลูกอมนั้นจะมีสัณฐานกลมขนาดจะไม่แน่นอน ส่วนวัสดุมวลสารต่าง ๆ นั้นขึ้นอยู่กับอาจารย์ผู้สร้างเป็นผู้กำหนดขึ้น
ประวัติการกำเนิดของลูกอมนั้นไม่มีหลักฐานที่สามารถชี้ชัดได้แน่นอนว่าเกิดขึ้นในสมัยใด แต่เป็นที่คาดกันว่าลูกอมน่าจะเริ่มสร้างหลังจากมีการสร้างวัตถุมงคลขึ้นช่วงหนึ่ง เหตุผลจากประวัติและหลักฐานที่สืบค้นได้นั้นส่วนใหญ่การสร้างลูกอมนั้นจะเป็นผลพลอยได้จากการสร้างพระเครื่อง เพราะการสร้างพระเครื่องในแต่ละคราวนั้นจะต้องมีการเตรียมผง น้ำประสาน ฯลฯ ซึ่งเป็นวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า แล้วจึงนำแม่พิมพ์ (พิมพ์พระ) มากดเป็นองค์พระ แต่การกดพิมพ์ในแต่ละคราวนั้นส่วนใหญ่จะมีวัตถุดิบเหลือมากบ้างน้อยบ้าง ดังนั้นครูบาอาจารย์ท่านจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเล็ก เพื่อให้วัตถุดิบนั้นหมดในแต่ละคราว ซึ่งจะว่าไปแล้วหากได้การปลุกเสกเหมือนพระเครื่อง พุทธคุณในองค์พระกับในลูกอมนั้นจะไม่มีความแตกต่างกัน
เหตุที่เรียกว่า “ลูกอม” นั้นมีบางตำนานกล่าวว่า สมัยก่อนผู้คนนั้นจะนิยมใช้เครื่องรางมากกว่าพระเครื่อง โดยเฉพาะบรรดาแม่ทัพนายกองและเหล่านักรบ ครูบาอาจารย์ท่านจึงนิยมเขียนลบผงวิเศษผสมตัวประสานต่าง ๆ เช่น น้ำมันตังอิ๊ว กล้วยน้ำว้า น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และวัสดุอาถรรพณ์ เช่น ผงใบลาน งากำจัด ไคลเสมา ชันยาเรือ เพื่อให้มีพุทธคุณดังประสงค์ แล้วจึงปั้น (บางตำราเรียกว่า “นวด”) เป็นลูกกลม ๆ ขนาดเล็ก เพื่อไว้ใช้อมในปากยามที่ต้องอาราธนาและระลึกถึงบารมีของครูบาอาจารย์ เพื่อให้พุทธคุณบังเกิดขึ้นกับตนเอง ดังนั้นจึงนิยมเรียกว่า “ลูกอม” ตั้งแต่นั้นมา พอมาถึงอีกยุคจะไม่นิยมนำลูกกลม ๆ เอาไปอมไว้ในปาก แต่นิยมอารธนาติดตัว เช่น แขวนคอ แขวนเอว แต่ก็ยังนิยมเรียกว่า “ลูกอม” เช่นเดิม
หากจะแบ่งหมวดหมู่ของลูกอมตามเนื้อหาที่จัดสร้างนั้นสามารถแบ่งออกเป็นหมวดใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
เนื้อผง
ส่วนผสมหลักจะเป็นผงวิเศษซึ่งได้จากการเขียนและลบผงตามตำราบังคับ อาทิ ปถมัง อิถิเจ มหาราช ตรีนิสิงเห พุทธคุณ ผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ คละเคล้าพร้อมทั้งนวดให้เนื้อผสมกันดี แล้วจึงปั้นเป็นลูกอมขนาดเล็ก อาทิ หลวงดิ่ง วัดบางวัว หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก แต่ก็มีของครูบาอาจารย์บางรูปที่ท่านได้นำโลหะ เช่น ทองแดง สัมฤทธิ์ ทองเหลือง มาบิดขมวดเป็นปมเกลียวแทงลงไปในเนื้อลูกอม เพื่อให้ลูกอมนั้นมีหูไว้ใช้คล้องคอได้ด้วย อาทิ หลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ (ยุคต้น)
เนื้อดินเผา
ส่วนผสมหลักจะเป็นดินอาถรรพณ์ เช่น ดินรูปู ดินจอมปลวก ฯลฯ นำมากรองคัดแยกจนได้เป็นเนื้อดินที่มีความละเอียดมาก แล้วจึงนำมาผสมกับผงวิเศษและวัสดุอาถรรพณ์ที่เตรียมไว้ จากนั้นจึงนวดให้เคล้ากันปั้นเป็นลูกกลมขนาดเล็กแล้วนำไปเผาให้สุก อย่างของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นั้นท่านจะเขียนกระดาษสาลงอักขระม้วนเป็นแท่งกลม ๆ ขนาดเล็กสอดไว้ภายในลูกอม แม้ว่าลูกอมจะเผาจนสุกแล้วแต่กระดาษสาภายในกลับอยู่ในภาพปกติเป็นที่น่าอัศจรรย์
เนื้อโลหะ
เท่าที่มีการบันทึกจะมีอยู่หลายเนื้อ อาทิ ตะกั่ว เมฆสิทธิ์ เมฆพัด แต่วิธีการสร้างนั้นมีความแตกต่างกัน ลูกอมที่เป็นเนื้อตะกั่วนั้นเกิดจากการลบถม หมายถึงหล่อตะกั่วให้ละลายแล้วเทลงในภาชนะเรียบแบบ เช่น ถาดขนม แล้วปาดหน้าให้เรียบ พอเย็นและแข็งตัวแล้วจึงนำมาลงอักขระยันต์ ปลุกเสกภาวนาจนได้แล้วนำลูกสะบ้าขัดทับไปให้เรียบแล้วจึงลงใหม่ ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมั่นใจแล้วนำไปทดสอบหลอมในเบ้าที่เตรียมไว้ ว่ากันว่าหากการลบถมนั้นทำได้จนถึงที่สุดแล้วแม้นำเข้าเตาหลอมแผ่นยันต์นั้นก็จะไม่ละลายแต่อย่างใด หลังจากนั้นจะนำมากล่อมเป็นลูกกลม ๆ นับได้ว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์เช่นกัน ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็จะเป็นของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย เนื้อและวรรณะของลูกอมของท่านจะเหมือนพระเครื่องของท่าน เพราะสร้างจากสูตรเดียวกัน ส่วนเนื้อเมฆสิทธิ์และเมฆพัตนั้นสร้างขึ้นจากการเล่นแร่แปรธาตุ โดยมีปรอทเป็นมวลสารหลัก จากนั้นจะเสกซัดแร่ต่าง ๆ ที่กำกับด้วยคาถาอาคมให้แร่ทั้งหลายแปรเปลี่ยนวรรณะและทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ลูกอมเนื้อเมฆพัตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดจะเป็นของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย หากเป็นเนื้อเมฆสิทธิ์ ก็จะเป็นของหลวงทับ วัดอนงค์ (ท่านเป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ไม่กี่รูปที่สามารถสร้างได้)  ว่ากันว่าลูกอมที่เป็นเนื้อโลหะนี้มีพุทธคุณในตัว (สำเร็จ) ตั้งแต่การจัดสร้าง
เนื้อชานหมาก
จะเป็นเนื้อชานหมากที่ครูบาอาจารย์ท่านฉันแล้วคายออกมา ก็สามารถใช้ได้เลยไม่ต้องปลุกเสกเพิ่มแต่อย่างใด เพราะพุทธคุณนั้นเพียบพร้อมในตัว อาทิ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เหตุเพราะบารมีธรรมของครูบาอาจารย์เหล่านี้ว่ากันว่าท่านสำเร็จพระอรหันต์ตั้งแต่ยังไม่ละสังขาร
เนื้อน้ำตาเทียนชัย
ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านจะนำน้ำตาเทียนชัยในงานพิธีพุทธาภิเษกสำคัญ ๆ มาปั้นเป็นลูกอม เพราะถือว่าเป็นของดีในตัวอยู่แล้ว เท่าที่พบส่วนใหญ่ครูบาอาจารย์ท่านจะมวลสารเพิ่มเติมเข้าไปในก่อนปั้นเป็นลูกอม เช่น เกศา ผงวิเศษ เกสรดอกไม้ ที่มีชื่อเสียงและหายากจะเป็นของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
เนื้อสีผึ้ง
ขั้นตอนการจัดทำจะคล้าย ๆ เนื้อน้ำตาเทียนชัย แต่ต่างกันที่ตัวสีผึ้งที่จะนำมาจัดสร้างนั้น ส่วนใหญ่ครูบาอาจารย์ท่านจะหุงขึ้นใหม่ตามตำรา พอเย็นตัวลงจึงนำมาผสมกับมวลสารที่เตรียมไว้ก่อนปั้นเป็นลูกอม ที่หายากและโด่งดังก็จะเป็นของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
จากตำนานของลูกอมข้างต้นนี้ ยังมีความสัมพันธ์โดยตรงกับเครื่องรางอีกหลายชนิด เช่น ลูกสะกด ตะกรุดลูกอม ลูกอมกลอง ดังต่อไปนี้
ลูกสะกด
เนื่องด้วยลูกอมจะมีลักษณะสัณฐานกลมกลึง แต่เนื่องด้วยครูบาอาจารย์ท่านต้องการให้เกิดความสะดวกกับลูกศิษย์ลูกหาในการอาราธนา จึงสร้างลูกอมโดยเจาะช่องตรงกลางไว้ให้เป็นรูสำหรับร้อยเชือกเพื่อแขวนคอหรือแขวนเอว  ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เสาะแสวงหากันมากคือ ลูกสะกดวัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) จัดสร้างไว้หลายเนื้อเช่น ชิน เงิน เมฆสิทธิ์
ตะกรุดลูกอม
ขั้นตอนการจัดสร้างครูบาอาจารย์จะเตรียมแผ่นโลหะเช่น เงิน นาค ทองคำ ทองแดง ซึ่งมีหน้ากว้างไม่มาก (ประมาณใบมะขาม) แต่มีความยาวพอประมาณ มาลงอักขระยันต์ตามตำรา แล้วกลึงเข้าหากันเป็นตะกรุดจากนั้นจะร้อยด้วยเชือกหรือไหมเจ็ดสีเข้าที่แกนกลาง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดก็เป็นของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว แต่ท่านก็สืบทอดตำราการสร้างให้กับศิษย์หลายรูปอาทิ หลวงพ่อดี วัดเหนือ หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ วิชานี้ตกทอดมาถึงหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ก็เป็นอันสิ้นสุด
ลูกอมกลอง
จะมีความแตกต่างจากลูกอมประเภทอื่น เพราะวัสดุการสร้างนั้นจะเป็นการนำเอาใบลานหรือใบตาลที่มีลักษณะถูกต้องตามตำรา นำมาลงอักขระยันต์ หัวใจพุทธมนต์ต่าง ๆ แล้วกลึงเป็นลูกกลม ๆ เว้นช่องว่างไว้ตรงกลางเพื่อถักเชือกร้อยเข้าไปแล้วลงรักปิดทอง แต่เนื่องจากมีครูบาอาจารย์สร้างไว้น้อย จึงไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลาย และอีกเหตุหนึ่งน่าจะเป็นที่วัสดุที่จัดสร้างนั้นชำรุดเสียหายได้ง่ายทำให้พบน้อยลงเรื่อย ๆ เท่าที่เคยพบก็จะมีของหลวงพ่อเทียม วัดลาดหลุมแก้ว
ส่วนวิธีการเลือกใช้ลูกอมแต่ละประเภทนั้น ก็ให้เลือกที่เราศรัทธาหรือทราบเกียรติคุณของครูบาอาจารย์ท่านเป็นอย่างดี จะช่วยให้เราเข้าถึงพลังพุทธคุณที่อยู่ภายในลูกอมได้รวดเร็วขึ้น อีกประการหนึ่งที่ขอฝากกันไว้ก็คือและควรจะกระทำอย่างเคร่งครัดก็คือ ลูกอมแต่ละชนิดแต่ละสำนัก จะมีเคล็ดการใช้ หมายถึง การอาราธนา พระคาถา ข้อห้าม ข้อพึงระวัง ฯลฯ ที่เราควรศึกษาให้กระจ่าง ชัดเจน ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นการอาราธนานั้นจะไม่ประสิทธิเมตามที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ บางอย่างบางกรณีหากประมาทพลั้งเผลอนั้นลูกอมอาจะเสื่อมได้เช่นกัน ซึ่งคงไม่สามารถจะนำกลับไปให้ครูบาอาจารย์ท่านปลุกเสกใหม่ให้ได้ เพราะส่วนใหญ่ท่านจะมรณภาพไปนานแล้วครับ..
http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=261

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-11-24 12:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อัพโหลด 2013-12-4 12:39
ดาวน์โหลด (143.59 KB)




อาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่า
เทียนทั้ง ๔ สี
แทนองค์พระพรหมทั้ง ๔ องค์
ที่คุ้มครอง ดูแล สำนักติคญาโณ
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-11-24 12:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=817954&storeNo=6954
ลูกอมเจ็ดพญาช้างสารหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว
ขอบคุณครับ
ว้าวววว เนื้อหาดีๆ ขอบคุนครับ
เปนคนชอบลูกอมซะด้วยซิ
nobnob ตอบกลับเมื่อ 2014-11-24 23:18
ว้าวววว เนื้อหาดีๆ ขอบคุนครับ
เปนคนชอบลูกอมซะด้วยซิ  ...

งั้นเอาหนุมานมา
ถ้าจำไม่ผิดผมมี ....ลูกอมหนุมานครองเมือง  หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม

majoy ตอบกลับเมื่อ 2014-11-25 06:31
งั้นเอาหนุมานมา

ไม่....มี.....ทาง.....
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้