ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> ขุนแผนน้ำผึ้ง
 <<

[คัดลอกลิงก์]
หลานสาวใส่ปาก กัดกรอบร้าวแต่ไม่โดนองค์พระ สงสัยเห็นเป็นน้ำผึ้งเลยอยากชิมรสหวาน (เห็นรวงผึ้งหลวงทิ้งรังที่โรงเรียนรอฝนหมดจะเก็บไว้ส่ง สำนักพร้อมกระดูกงูจงอาง)
chuchat9999 ตอบกลับเมื่อ 2013-9-17 12:18
หลานสาวใส่ปาก กัดกรอบร้าวแต่ไม่โดนองค์พระ สงสัยเห็น ...

อนุโมทนาครับ
อนุโมทนาด้วยครับ
chuchat9999 ตอบกลับเมื่อ 2013-9-17 12:18
หลานสาวใส่ปาก กัดกรอบร้าวแต่ไม่โดนองค์พระ สงสัยเห็น ...


อนุโมทนา สาธุครับ
"พาหุงมหากา"




ในบทที่ 8 กล่าวไว้ว่า..


ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะ


แปลได้ว่า เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ผกาพรหม ผู้มีทิฏฐิแรงกล้าสำคัญว่าตนเป็นผู้ที่มีความสำคัญที่สุด แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถทำให้ผกาพรหมยอมละทิ้งทิฏฐิมานะ และยอมว่าพระพุทธเจ้าสูงกว่า จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะทิฏฐิมานะของตน


"พรหม" หมายถึงผู้มีนามว่า "ท้าวผกา" มีฤทธิ์และสำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีทิฏฐิที่ถือผิดรัดรึงอยู่อย่างแน่นแฟ้น องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ด้วยวิธีเทศนาญาณ ด้วยเดชะอันนี้


   




พุทธชัยมังคลกถาที่ ๘ ทรงเทศนาญาณ
           
ชนะพกาพรหมผู้มีฤทธิ์

  
            “ทุคฺคาหทิฏฺฐิภุชเคน สุทฏฺฐหตฺถํ
               พฺรหฺมํ วิสุทฺธิชุติมิทฺธิพกาภิธานํ
               ญาณาคเทน วิธินา ชิตวา มุนินฺโท
               ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ



        พระชินสีห์ผู้เป็นจอมมุนีได้ชนะพกาพรหมผู้มีฤทธิ์ สำคัญ
ตนว่าเป็นผู้รุ่งเรือง ด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีอสรพิษคือทิฏฐิที่ตนถือ
ผิดรัดรึงไว้ ด้วยเทศนาญาณวิธี ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคล
นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงบังเกิดมีแก่ท่าน”



         


ทรงโปรดพกาพรหม


      สมัยเมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ใหม่ๆนั้น  พระบรมศาสดา
สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จประทับที่ป่าสุภวัน ในครั้งนั้นพระพุทธ
องค์ทรงทราบปริวิตกของท้าวพกาพรหม ผู้ที่กำลังหลงในห้วง
แห่ง   สัสสตทิฏฐิ คือ มีความเห็นว่าสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้
ล้วนเป็นของเที่ยงแท้ไม่แปรผัน จะสุขทุกข์อย่างไรก็เป็นไปตาม
นั้น หาใช่ผลแห่งการสร้างบาปสร้างบุญหรือเกิดจากผลแห่ง
กรรมของตนแต่อย่างใด อันเป็นความคิดที่ผิดหลักธรรมคำสั่ง
สอนของพระพุทธศาสนาซึ่งสอนว่าการประกอบกรรมดีหรือกรรม
ชั่ว ผลกรรมนั้นย่อมส่งผลให้สุขทุกข์สนองตามโอกาส ฯลฯ








พระพุทธองค์ทรงมีพระเมตตาปรารถนาจะแสดงธรรมวิโมกข์
ประทานสงเคราะห์พกาพรหมให้มีความเห็นที่ถูกต้อง จึง
แสดงปาฏิหาริย์  เสด็จพระพุทธลีลาไปสู่วิมานสถานอันเป็น
ที่อยู่ของพกาพรหม ในครั้งนั้นพกาพรหมให้การต้อนรับด้วย
ความยินดี กราบบังคมทูลให้เสด็จประทับ ณ พระแท่นอัน
วิจิตรตระการ แต่ยังคงยืนยันความคิดของตนว่าถูกต้อง คือ
สิ่งใด ๆ ในโลกนี้ล้วนเกิดจากอำนาจแห่งมหาพรหมเป็นผู้
เสกสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น แม้ผืนดิน แผ่นฟ้า ดวงอาทิตย์
ดวงจันทร์ หรือดวงดาวไม่มีสิ่งใดในจักรวาลนี้ที่มหาพรหม
จะไม่ล่วงรู้หรือซ่อนเร้นไปได้


ได้ท้าประลองฤทธิ์กับพระพุทธเจ้าครั้งแรกท้าวพกาพรหมเป็น
ฝ่ายซ่อนก่อนโดยเนรมิตกายเป็นละอองธุลีละเอียดไปซ่อนเร้น
ในเม็ดทรายใต้ท้องทะเลลึกที่เล็กที่สุด แล้วหลบลงไปซ่อนอยู่
ท่ามกลางก้นเกษียณสมุทรที่ดำมืด แต่ก็ไม่อาจหลบพ้นข่าย
พระญานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้   ถึงกระนั้นก็
ยังไม่ยอมสิ้นฤทธิ์กลับทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์แสดง
ปาฏิหาริย์







ครั้นถึงคราวที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นฝ่าย
ซ่อนบ้าง พระองค์ทรงเนรมิตพระวรกายให้ย่อเล็กลงเท่า
ละอองธุลีเช่นเดียว กัน แต่เสด็จขึ้นไปประทับซ่อนอยู่ในมุ่น
มวยผมบนเศียรของท้าว  พกาพรหม ท้าวผกาพรหมใช้ทิพย์
เนตรมองค้นหาองค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุธเจ้าจนตลอดทั่ว
ทั้งไตรภพ ก็ยังไม่สามารถมองเห็น พระพุทธองค์ได้ จึงยอม
พ่ายแพ้ พระบรมศาสดาจึงตรัสว่าทรงกำลังเดินจงกรมอยู่บน
เศียรของท่านอยู่  แล้วแสดงพระกายให้ปรากฏ


บรรดาพรหมทั้งหลายที่ชุมนุมอยู่ ณ ที่นั้นจึงยอมประนม
กรถวายนมัสการชื่นชมในอิทธิปาฏิหาริย์ที่สูงกว่าเทพยดา
และพรหมทั้งหลาย ยังผลให้พวกพรหมบรรลุโสดาปัตติผล
กราบนอบน้อม
กล่าวสรรเสริญพระรัตนตรัยละเลิกจาก
มิจฉาทิฏฐิอันเคยหลงยึดติดมา   แต่กาลก่อน



     บางตำนานกล่าวว่าเมื่อท้าวพกาพรหมยอมแพ้แล้วจึง
กราบบังคมทูลอัญเชิญให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เสด็จลงมาจากมุ่นมวยผมอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังทรงนิ่งเฉยอยู่
จนเมื่อเหล่าคนธรรพ์พากันประโคมบรรเลงเพลงสาธุการขึ้น

จึงได้เสด็จลงมาจากเศียรของท้าวผกาพรหม ดังนั้นในเวลา
ต่อมาเพลงสาธุการจึงกลายเป็นเพลงทีใช้ประโคมบรรเลงใน
พิธีเพื่ออัญเชิญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะ


         และท้ายสุดผลของการสวดพุทธชัยมงคลคาถาเป็นประจำ
จะส่งผลดีอย่างมากมายทุกด้าน   ดังสุภาษิต



       เอตาปิ พุทฺธชยมงฺคล อฏฺฐคาถา
     โย วาจโน ทินทิเน สรเตมตนฺที

     หิตฺวานเนกวิวิธานิ จุปทฺทวานิ
     โมกขํ สุขํ อธิคเมยฺย นโร สปญฺโญ


               

              แปลยกศัพท์ว่า


โย

นรชนใด

สปญฺโญ

มีปัญญา

มตนฺที

ไม่เกียจคร้าน

วาจโน

สวดก็ดี

สรเต

ระลึกก็ดี

พุทฺธชยมงฺคล
อฏฺฐคาถา

ซึ่งพระพุทธชยมงคล
๘ คาถา

เอตาปิ

แม้เหล่านี้

ทินทิเน

ทุก ๆ วัน

นโร

นรชน

หตฺวาน

ละเสียได้

จุปทฺทวานิ

ซึ่งอุปัทวอันตรายทั้งหลาย

อเนกวิวิธานิ

เป็นอเนกคือมิใช่อย่างเดียว

อธิคเมยฺย

พึงบรรลุ

สุขํ

ซึ่งสุข

โมกฺขํ





คือความพ้น ความ
พ้นซึ่งเป็นสุข ดั่งนี้
  





ข้อมูลจาก...http://www.oknation.net/blog/NVC/2011/01/25/entry-1
เป็นเคล็ดลับในการใช้  พระขุนแผนน้ำผึ้ง  ให้ได้ผลรวดเร็ว  ดังใจหวังคับ
โอ้ ขอบคุณคร้าบ
สาธุครับ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้