ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 22811
ตอบกลับ: 74
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เดินทางเพื่อตามหามวลสารสุดยอดมวลสารตามตำรา "ดิน 7 ป่าช้า"

[คัดลอกลิงก์]
เป็นที่รู้กันว่าหาก "สำนักติคญาโณ" แห่งนี้จะทำวัตถุมงคลรุ่นใดออกมาซักรุ่นแล้วล่ะก็ อาจารย์จะเน้นย้ำหนักหนาว่ามวลสารต้องครบ พิธีต้องดี รูปแบบต้องสวยงานลงตัวและเหมะสม ทุกอย่างต้องทำตามตำราที่ครูรุ่นเก่าก่อนท่านได้ศึกษาและระบุบัญญัติไว้ ทั้งนี้เพื่อให้วัตถุมงคลทุกรุ่นถูกตา ต้องใจ สำคัญที่สุดคือผู้นำไปใช้แล้วได้มีประสบการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป และโน้มน้อมให้มีจิตใจฝักใฝ่ในความดี ยึดมั่นในพระรัตนตรัย อันประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ วัตถุมงคลหลายๆ ชิ้นของสำนักเรากว่าจะผ่านขั้นตอนการคิด ออกแบบ เตรียมมวลสาร จัดทำ และปลุกเสก ใช้เวลากว่าปี สองปี หรือมากกว่านั้น

ดังนั้น มวลสารสำคัญตามตำราโบราณอย่างหนึ่งที่ครูอาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ คือ ดิน 7 ป่าช้า อันว่าจะต้องขอพลีมาจากท่านเจ้าที่ประจำป่าช้านั้นๆ ให้ได้มาอย่างถูกวิธี มิใช้ไปบังคับเอามาอันจะนำไปสู่ความวิบัติบรรลัยสำหรับผู้นำไปใช้บูชาได้ โดยการนี้จะต้องเตรียมเครื่องเซ่นสังเวยเป็น ข้าว ไข่ต้ม พล่ากุ้ง ปลายำ และสุราขาวอย่างดี พร้อมทั้งขันธ์ ๕ บุหรี หมากพลู กับทั้งกล่าวคำอันเชิญเพื่อพลีมาอย่างถูกต้อง

ซึ่งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 ต.ค. 57) เป็นฤกษ์ดีคณะศิษย์พร้อมทั้งกาย ใจ (และวัตถุมงคลของหลวงปู่เต็มคอ) ได้ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปยังป่าช้าวัดดอนที่เลื่องลือเรื่องผีดุมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ และป่าช้าวัดไผ่เงินที่มาของข่าวดังเรื่องศพเด็กทำแท้งนับพันศพเมื่อไม่กี่ปี่ที่ผ่านมา พวกเราออกเดินทางสู่ป่าวัดดอนเป็นแห่งแรก ถึงที่หมายราว บ่าย 2 โมง เราเลือกที่จะจอดรถใต้ทางด่วนและเดินเข้าไปยังป่าช้า ยังไม่ทันได้ถึงที่หมายฝูงหมาจรจัดบริเวณนั้นก็เริ่มเห่าหอนต้อนรับกันเกลียวกราว และผงะหนีวิ่งหลบเราเหมือนเห็นเราเป็นสิ่งผิดปรกติบางอย่าง เมื่อเดินไปถึงบริเวณทางเข้าป่าช้า ซึ่งเป็นสะพานเหล็กขนาดเล็กข้ามคูระบายน้ำขนาดย่อม มองไปโดยรอบก็พบว่าป่าช้าวัดดอนขณะนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนโดยถนนที่ตัดผ่าน ตรงปากทางเข้ามีตำรวจตั้งด่านดักจับรถมอเตอร์ไซอยู่ราว 10 นาย มีรถวิ่งผ่านกันขวักไขว่พอควร แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีดีขณะที่เรารอรถอีกคันซึ่งบรรทุกเครื่องเซ่นมาถึงตำรวจเหล่านั้นก็ปิดด่านกลับไปซะเฉยๆ รถยนต์ที่เคยมีมากก็ลดลงถนัดตาบรรยากาศดูเงียบลงในทันที สัมผัสแรกที่ก้าวเข้าสู่บริเวณป่าช้า รู้สึกราวกับเป็นอีกโลกที่ไม่ใช่สถานที่ที่มนุษย์ควรย่างกรายเข้าไป ทุกคนรู้สึกเวียนหัวและอึดอัดอย่างมากและตรงสะพานทางเข้าก็มีเศษกระดูกแห้งๆ สีขาวตกกระจายอยู่ซึ่งเราไม่ทราบแน่ชัดว่าคือกระดูกของอะไร จนเมื่อรถอีกคันมาถึงพวกเราเร่งรีบจัดเครื่องเซ่นลงในกระธงที่เตรียมไว้และนำไปวางใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมเริ่มกล่าวคำพลีตามที่อาจารย์ได้เตรียมมาให้ บรรยากาศตอนนั้นอับและเย็นแม้จะมีแดดส่องลงมา พวกเราขนลุกตลอดเวลารู้สึกเหมือนความรู้สึกถูกกดดันด้วยบางอย่างที่มองไม่เห็นเมื่อกล่าวคำพลีจบเราเริ่มขุดดิน เริ่มโดยการตีตารางเป็นรุปสี่เหลี่ยมแคบๆ ตรงหน้าที่วางเครื่องเซ่นเมื่อเราเกลี่ยหน้าดินลงไปไม่นานก็ได้พบกับวัตถุบางอย่างยาวประมาณ 6-7 นิ้ว ทำให้เราต้องผงะถอยกันทุกคน และเมื่อให้นักศึกษาแพทที่เดินทางไปด้วยดูใกล้ๆ ก็ยืนยันความคิดของพวกเราได้กระจ่างยิ่งขึ้น สิ่งนั้นคือ "กระดูกมนุษย์" น่าจะเป็นช่วงท่อนแขน อีกทั้งยังมีร่องรอยจางๆ คล้ายอักขระบางอย่างจารเอาไว้ เมื่อเราสังเกตุดูที่ธูปก็ต้องประหลาดใจธูปทุกดอกที่ปักไว้ตอนนี้ดูคล้ายบุหรี่ที่ถูกดูดจนหมดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่มีลมพัดในบริเวณนั้นเลย เรารอจนธูปหมด (ซึ่งใช้เวลาไม่นาน) ก็รีบนำกล่องกุมารปั้นมือที่นำไปด้วยพร้อมทั้งถุงบรรจุดินป่าช้าวัดดอนกลับออกมา ทุกคนมุ่งหน้าไปที่รถโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรกัน และไม่หันกลับไปมองข้างหลังอีกเลย เพื่อมุ่งหน้าสู่วัดไผ่เงินสถานที่ต่อไปของวันนี้

ปล. เมื่อกลับมาถึงสำนักอาจารย์ได้เมตตารดน้ำมนต์ให้ อยู่ดีๆ ก็มีเสียงสุนัขเห่าหอนลอยมาจากที่ไหนไม่ทราบ เสียงเหมือนอยู่ไกลออกไปพอสมควร ฟังดูน่าขนลุกทีเดียวหอนอยู่ประมาณ 3 ครั้งก็เงียบไป

ใครมีประสบการณ์อะไรมาเล่าแลกเปลี่ยนกันต่อได้เลยครับ
ขอบคุณครับทุกท่านที่ไปหามวลสารนะครับ
เป็นประสบการณ์ที่แบบว่า....
สุดยอดมากๆ ขอบพระคุณชาวคณะ ที่อุทิศแรงกายแรงใจให้ครับ
อนุโมทนากะทุกท่านนะครับ
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-10-6 13:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คืนนี้มาเล่าต่อ รูปปลากรอบ ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับทุกท่านที่ไปหามวลสาร....ขออนุโมทนาครับ
รอฟังวัด
ต่อไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้