หลวงปู่ยิ้ม จนฺทโชติ วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี
หลวงปู่ยิ้ม จนฺทโชติ วัดหนองบัว (วัดอุปลาราม) ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากการบันทึกของพระโสภณสมาจารย์ (เหรียญ สุวรรณโชติ) ซึ่งเป็นศิษย์ก้นกุฏิ และเป็นสมภารรูปต่อจากหลวงปู่ยิ้ม ได้ความว่า หลวงปู่ยิ้ม ท่านเป็นชาววังดัง จ.กาญจนบุรี เกิดปีมะโรง เดือนห้า วันอังคาร พ.ศ. 2387 เป็นบุตร นายยิ่ง นางเปี่ยม บิดามารดาประกอบอาชีพค้าไม้ไผ่ล่องไปขายที่ปากอ่าวแม่กลอง จนเป็นที่รู้จักของชาวแม่กลองเป็นอย่างดี ครั้นได้อายุครบบวช ได้อุปสมบทที่วัดทุ่งสมอ อ.พนมทวน พระอาจารย์กลีบ วัดหนองบัว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แดง วัดเหนือ และ
พระอาจารย์อินทร์ วัดทุ่งสมอ เป็นพระคู่สวด ได้รับฉายาว่า "จนฺทโชติ"
เมื่อบวชแล้วท่านได้เรียนหนังสือขอม บาลี มงคลทีปนี มูลกัจจายน์ พระเจ้า 10 ชาติ สูตรสนธิ จนชำนาญ อีกทั้งยังสามารถท่องปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาที่ 2 ด้วยตัวท่านชอบเกี่ยวกับวิชาความรู้และวิทยาคมจึงได้รับคำแนะนำจากอาจารย์แดงพระคู่สวดว่า ที่จังหวัดสมุทรสงคราม มีพระเกจิอาจารย์เก่งๆ อยู่หลายรูป ท่านได้เดินทางไปหาอาจารย์รูปแรกคือ หลวงพ่อพระปลัดทิม วัดบางลี่น้อย อ.อัมพวา ท่านเป็นอุปัชฌาย์เก่าแก่ของวัดบางช้าง เรียนทางทำน้ำมนต์โภคทรัพย์ อยู่ปากอ่าวแม่กลองได้เรียนวิชาทำธงกันอสุนีบาต (สายฟ้า) และพายุคลื่นลม วิชาหลายลงอักขระทำรูปวงกลม เวลาไปทะเลแล้วขาดน้ำจืดให้เอาหวายโยนลงไปในทะเลแล้วตักน้ำในวงหวายน้ำจะจืดทันที ลูกอมหมากทุยก็เป็นที่เลื่องลือ เพราะท่านได้สำเร็จจินดามนต์ เรียกปลาเรียกเนื้อได้
อีกรูปคือ หลวงพ่อกลัด วัดบางพรม เรียนทางมหาอุตม์ ผ้าเช็ดหน้าทางมหานิยม เชือกคาดเอว เครื่องรางรูปกระดูกงูกันเขี้ยวงา ทางคงกระพันชาตรี หลวงพ่อกลัดรูปนี้สามารถย่นระยะทางได้ และรูปสุดท้ายคือ หลวงพ่อแจ้งวัดประดู่อัมพวา ได้เรียนทางแพทย์แผนโบราณ มีดหมอ ทางมหาประสานเชือกคาดชื่อตะขาบไฟ หรือ ไส้หนุมาน มีตะกรุดคู่อยู่หัวเชือก
"หลวงปู่ยิ้ม" เป็นพระที่ชอบทางรุกขมูลธุดงควัตรออกพรรษา แล้วท่านมักจะเข้าป่าลึกเพื่อหาที่สงบทำสมาธิท่านรู้ภาษาสัตว์ทุกชนิด ชื่อเสียงกิตติศัพท์ของท่านโด่งดังไปทั่วเจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ อาทิ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งโปรดทางวิชาไสยศาสตร์ ได้ไปหาท่านถึง 2 ครั้ง เลื่อมใสและนับถือท่านเป็นอาจารย์ ขอเรียนวิชาจากท่านได้มีดหมอจากท่าน 1 เล่ม ไว้ประจำพระองค์ มีดหมอมีสรรพคุณปราบภูตผีปีศาจ และปราบคนที่อยู่ยงคงกระพัน ถ้าได้ถูกคมมีดของท่านแล้วต้องเป็นอันได้เลือด ไม่ว่าคนนั้นจะเก่งเพียงไร ก็ไม่สามารถคุ้มครองได้
เสด็จในกรมฯ ทรงโปรดเป็นอันมาก ทั้งๆ ที่ว่าท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท มาแล้ว ก็ยังเกรงวิชาของหลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเคยธุดงค์มาจำวัดกับหลวงปู่ยิ้ม ที่วัดหนองบัว และได้แลกเปลี่ยนวิชากันหลวงปู่ยิ้มท่านเป็นพระสมถะไม่หลงวิชาอาคม จำนวนศิษย์ของท่านเท่าที่ปรากฏคือ 1. พระโสภณสมจารย์ (เหรียญ) วัดอุปลาราม (วัดหนองบัว) 2. พระเทพมงคลรังษี (ดี) วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) 3. พรกาญจนวัตรวิบูลย์ (ล่อน) วัดลาดหญ้า 4. พระโสภณสมณกิจ (หัง) วัดเหนือ 5. พระครูวัตตสารโสภณ (ดอกไม้) วัดดอนเจดีย์ 6. พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ 7. พระอธิการ (แช่ม) วัดจุฬามณีอัมพวา) 8. พระครูสกลวิสุทธิ (เหมือน รัตนสุวรรณ) วัตถุมงคลของท่านตลอดจนเครื่องรางของขลังต่างเป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์ อาทิ พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ (อ่าวจุฬา) พิมพ์สังกัจจายน์ใหญ่ พิมพ์สังกัจจายน์เล็ก, พิมพ์แข้งซ้อนใหญ่, พิมพ์แข้งซ้อน, พิมพ์เข่าบ่วง, พิมพ์เข่าบ่วงใหญ่, พิมพ์ขัดเพชร เป็นต้น
หลวงปู่ยิ้มมรณภาพ เมื่ออายุ 66 ปี เมื่อพ.ศ.2453 ท่านเป็นอาจารย์องค์ที่3ของเสด็จนายกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักย์จากการแนะนำของหลวงพ่อเงินบางคลานโดยหลวงปู่ยิ้มท่านเป็นคนมีนิสัย กล้าหาญและจะล่องเรือมาทำมาค้าขายกับชาวแม่กลองเป็นประจำเมื่อถึงอายุบวชท่านได้บวชโดยมีพระอธิการรอดแห่งวัดทุ่งสมอและต่อจากนั้น ก็เดินทางไปเป็นศิษย์ของหลวงปู่พวงแห่งวัดลิงขบและเดินทางไปศึกษาไสยเวทย์ต่อที่แม่กลองซึ่งมีพระอาจารย์ซึ่งทรงกิตติคุณอยู่หลายวัดหลัง จากศึกษาวิชาจนจบแล้วก็เดินทางไปศึกษาต่อที่สำนักเขาอ้อจนสำเร็จและเดินทางไปศึกษาวิชาจากหลวงปู่กลิ่นซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือด้านวิชา กำบังกายหายตัวแหวกน้ำดำดินดุจผู้วิเศษทีเดียวซ้ำยังเป็น อาจารย์ของหลวงปู่ศุข หลวงปู่ปาน หลวงปู่ทา หลวงปู่บุญ หลวงปู่เนียม หลวงปู่ม่วง โดยมีหลวงปู่ยิ้มเป็นศิษย์ก้นกุฏิจนหลวงปู่กลิ่นมรณะภาพเมื่ออายุ117 ปี หลวงปู่ยิ้มจึงขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน
|