ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1524
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ปัญหาโลกแตกคิดไปทำไม (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

[คัดลอกลิงก์]


ปัญหาโลกแตกคิดไปทำไม

ได้มีภิกษุบ้าง ผู้อื่นบ้าง กราบทูลถามพระพุทธเจ้าในปัญหาเรื่องโลกว่ามีที่สุดหรือไม่ เป็นต้น
พระพุทธเจ้าไม่ตรัสพยากรณ์ เพราะเป็นเรื่องไม่บังเกิดประโยชน์อะไร
ไม่ทำให้ใครซึ่งมาสนใจในเรื่องดังกล่าวเป็นคนดีขึ้นและพ้นจากความทุกข์


แต่พระองค์ได้ตรัสพยากรณ์ปัญหาที่ทุกคนเผชิญอยู่เฉพาะหน้า
ซึ่งอาจจะรู้ อาจจะปฏิบัติให้เป็นคนดี และพ้นทุกข์ได้ทุกๆ คน
คือได้ทรงพยากรณ์ถึง ความจริงในเรื่องทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์
และทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ที่เรียกว่า อริยสัจ ๔

ปัญหาเรื่องโลกอันไม่เป็นประโยชน์ในทางปฏิบัตินั้น
พระพุทธเจ้าไม่ตรัสเลย มีเล่าไว้ในตำนานว่า

ภิกษุรูปหนึ่งซึ่งเคยเป็นพราหมณ์มาก่อน กราบทูลว่า ตนจะสึกถ้าไม่ทรงพยากรณ์ให้ฟัง
พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า พระองค์ไม่ได้ทรงเชิญภิกษุนั้นมาบวช
ทั้งไม่ได้ทรงรับรองว่า เมื่อบวชแล้วจะตรัสเรื่องนี้ ภิกษุนั้นขอมาบวชเอง

ปัญหาเรื่องโลกที่ไม่ตรัสพยากรณ์ดังกล่าวนั้น
ก็ทำนองปัญหาเรื่องกำเนิดโลก หรือถ้าพูดตามความรู้ปัจจุบันก็เช่น
ปัญหาว่าโลกเริ่มหมุนรอบที่หนึ่งตั้งแต่เมื่อไร จะหมุนรอบสุดท้ายและหยุดหมุนเมื่อไร
ถึงใครจะตอบไม่ได้ ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร

สู้มาคิดในด้านเหตุผลเช่นอย่างแบบวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันไม่ได้
และเมื่อพบเหตุผลเช่นนี้แล้ว ก็อาจตอบได้ตามเหตุผล
เช่นตอบว่า เมื่อเหตุต่างๆ พร้อมกันเมื่อไหร่ ผลคือความหมุนของโลกก็เริ่มมีเมื่อนั้น
และเมื่อเหตุเหล่านั้นสลายตัวเมื่อไหร่ ผลดังกล่าวก็หยุดเมื่อนั้น
ฉะนั้น พระธรรมของพระพุทธเจ้าจึงต้องอยู่ทุกกาลเทศะ

ในสมัยที่คนว่าโลกแบน ดวงอาทิตย์เดินรอบโลก และต่อมาคนรู้ว่าโลกกลม
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ จนถึงปัจจุบันนี้ คนกำลังพยายามค้นคว้า ติดต่อ
และเดินทางไปยังโลกพระจันทร์ โลกพระศุกร์ เป็นต้น

หลักธรรมของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะ หลักอริยสัจ ก็คงเป็นความจริงที่ถูกต้อง
ใช้ได้อยู่ทุกสมัยที่ความคิดความรู้ของคนในทางต่างๆ คืบหน้าไป
ทั้งเป็นความจริงของทุกๆ โลกไม่คับแคบอยู่เฉพาะสมัยโน้น
ซึ่งมาถึงสมัยนี้ความรู้ของคนหันหลังให้เสียแล้ว
และไม่คับแคบอยู่เฉพาะโลกนี้เท่านั้น แต่เป็นหลักแห่งสากลโลก

เหตุฉะนี้จึงมีคำแซ่ซ้องพระพุทธเจ้า ทรงเป็น “สัมมาสัมพุทโธ” แปลว่า ผู้ตรัสรู้ชอบเอง
เพราะได้ทรงปฏิบัติค้นพบพระธรรมอย่างถูกต้องขึ้นด้วยพระองค์เอง
และทรงทราบหลักวิชาครูอย่างเอกอุ ทรงวางหลักศาสนาสั่งสอนให้โลกได้ทราบความจริง
ซึ่งเป็นประโยชน์ช่วยคนปฏิบัติให้พันทุกข์ได้ทุกกาลสมัย


: โลกและชีวิตในพุทธธรรม
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


                                                                                       
........................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=42983

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้