ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 7874
ตอบกลับ: 27
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ขืนอายอยู่จะอดเอานะลูกเอ๊ย

[คัดลอกลิงก์]
ประสบการณ์ของคุณ worapath

          ถึงคราวที่ต้องพูดถึงขุนแผนชมตลาด ในประสบการณ์ของผมบ้างแล้วครับ
หลังจากที่นำขุนแผนชมตลาดไปเลี่ยมมา ก็นำออกงานทันทีเลย
*

          วันที่ 1 ของการแขวนขุนแผนชมตลาด : เช้าวันจันทร์ ก่อนที่ผมจะขับรถออกจากคอนโด หญิงสาววัยกลางคนเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานคอนโดพี่เค้ามาทักมาชมว่า...
*
          วันนี้หน้าตาผ่องใสจัง

ผมก็ได้แต่อมยิ้ม เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยทักกันเลย พอขับรถมาเห็นปั้มจึงแวะเติมน้ำมันก่อน ถือเป็นเคล็ดเล็กๆน้อยๆ แต่พอเติมเสร็จก็เลยวนรถมาจอดตรงหน้าร้านถ่ายเอกสารในปั้มกะว่าจะลงไปถ่ายเอกสารเผื่อไว้ซักชุด แต่กำลังจะดับเครื่องรู้สึกว่ามีคนมองเราอยู่ก็เลยหันไปดู โอ้แม่เจ้า.. ผมร้องหาพระเยซูเลยทันที


  สิ่งที่ผมเห็นมันไม่แน่ใจว่าเป็นคนหรือนางฟ้ามาจุติในโลกานี้เพราะเธอช่างสวยเหลือเกิน สวยมากจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นเธอนั่งอยู่ในร้านกาแฟคนเดียวเป็นร้านติดกับร้านถ่ายเอกสารนั้นพอดี ผมคิดอยู่นานว่าเธอยิ้มให้ผมหรือว่าเด็กปั้มกันแน่ เลยหันหลังไปดู ปรากฏว่าข้างหลังผมมันไม่มีใครเลยนี่นา คิดอยู่นานว่าจะลงจากรถท่าไหนดีถึงจะดูดี ก็ออกมันไปแบบธรรมดานี่ล่ะนะ ก็เปิดประตู ใจเอ๋ยทำไมมันทั้งตื่นทั้งเต้นอะไรย่างนี้ (นี่เราถือศิลปฏิบัติธรรมอยู่นะ เป็นเสียงฝั่งธรรมมะคอยเตือน แต่อีกฝั่งมารมันก็บอกว่าแค่เช็คเรดติ้งเท่านั้นเอง อย่าเยอะ  ) พอลงจากรถ ผู้หญิงคนนั้นก็ยังมองผมอยู่เหมือนเช่นเดิม ผมไม่กล้าแม้แต่จะยิ้มตอบ มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ช่างเสียมารยาทจริงๆเลยนะเรา พอเดินไปร้านถ่ายเอกสารร้านกลับยังไม่เปิดซะงั้น ไอ้เราอยากจะเข้าไปนั่งดื่มกาแฟก็กลัวจะไปสมัครงานที่นัดไว้ไม่ทัน เลยขึ้นรถไป ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเลือกงานหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อนดีน๊า สายตาก็ไปเหลือบเห็นรูปหลวงปู่ชื่นแผ่นเล็กๆที่อาจารย์ให้มา อารมณ์ที่มีและจิตที่เกิดขึ้นที่คิดไปไหนต่อไหนนั้น มันหดหายไปทันทีเลย ถอยรถแล้วขับออกไปสายตาผู้หญิงคนนั้นคนนั้นก็ยังมองเราอยู่ เฮ้อ...
*

         พอถึงบริษัทที่นัดไว้ก็ไปติดต่อที่เค้าเตอร์ เจอเจ้าหน้าที่หน้าตาน่ารักแบบฮ่องกง ไต้หวันเลย น้องเค้าสอบถามและทักทายด้วยไมตรีที่แสนประทับใจเสียเหลือเกิน ผมก็ได้เอกสารมานั่งกรอกโดยไม่คิดอะไร ขณะเขียนใบสมัครอยู่นานน้องเค้าก็มาถามว่า..


         มีไรให้ช่วยไหมค่ะ

ผมหันไปมองหน้าน้องเค้าเห็นรอยยิ้มแล้วเล่นซะหัวใจละทวยเลย ผมเองก็บอกน้องเค้าว่า

         ไม่เป็นไรครับเขียนใกล้จะเสร็จแล้ว ขอบคุณมากนะครับ...
*

         ยินดีค่ะ  

พอผมกรอกใบสมัครเสร็จฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว น้องคนนั้นถามว่า


        ฝนตกแล้วเดี๋ยวหนูกางร่มเดินไปส่งหน้าปากซอยนะค่ะ..

        ไม่เป็นไรครับผมขับรถมา


ผมเดินออกมากลางสายฝนที่ลงมาอย่างบางเบาเหมือนตัวเองเป็นพระเอกมิวสิควีดีโอพี่เบิร์ด ธงชัย ยังไงอย่างงั้นเลย พอเข้ามาในรถผมด่าตัวเองซะไม่ยั้งเลย ทำไมผมโง่อะไรได้ขนาดนี้น๊า ทำเอาผมอดคิดถึงน้องมัดหมี่ (พี่ชายที่แสนดีของเราเสียจริงๆ  )


        จากนั้นผมก็ขับรถออกมา พี่ยามโบกไม้โบกมือปัดกันใหญ่เลย เราก็งงเลยจอดรถและลดกระจกลง พี่ยามวิ้งมาแล้วยิ้มบอกผมว่าทางนั้นไปไม่ได้ครับทางตัน นี่น้องทั้งสองเล่นผมซะจิตหลุดใจแตกเลยเหรอเนี่ย   พอถึงคอนโด ผมแวะกินก๊วยเตี๋ยวก่อนขึ้นห้อง วันนี้แม่ค้าขายก๊วยเตี๋ยวทักทายเราและยิ้มให้บ่อยจนผิดสังเกตุแฮะ ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้ว่าแม่ค้าคนนั้นมีสามีแล้วถึงแม้แม่ค้าจะน่าตาใช้ได้เลยทีเดียวก็ตามเถอะ

         วันที่ 2 ของการแขวนขุนแผนชมตลาด :

เช้าวันอังคาร ต่อจากวันแรกที่แขวนขุนแผนชมตลาด ผมไปสมัครที่บริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ขึ้นไปติดต่อประชาสัมพันธ์เพื่อขอใบสมัคร เจ้าหน้าที่คนนึงเธอก็ยิ้มแล้วยื่นใบสมัครให้กรอก โต๊ะที่ผมนั้งกรอกนั้นจะเฉียงๆตรงข้ามกับเธอ ระหว่างที่กรอกอยู่นั้นเหมือนรู้สึกว่ามีคนมองแต่ก็ไม่ได้สนใจหันไปดู ซักพักมีผู้หญิงร้องเพลงเบาๆ ซึ่งผมจำเนื้อร้องได้ดีเลยซึ่งมีประโยคหนึ่งว่า ..........   ไม่บอกดีกว่า


  พอผมกรอกเอกสารเสร็จเธอก็ให้ผมไปทำข้อสอบ ซึ่งเธอให้ผมนั่งเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์ พอผมนั่งเสร้จ เธอก็ยืนอยู่ข้างๆผมแบบใกล้มากครับ คือถ้าผมหันหน้าไปทางเธอ จะเกิดเสียงแตรดังสนั่นหวั่นไหวแน่เลยครับ  ผมแทบทำข้อสอบไม่ได้เลยเวลานั้นใจมันสั่นไปหมดเลย   แต่ก็ทำได้คะแนน 81% ถือว่าผ่านครับ เสร็จจากนั้นผมนั่งรอสัมภาษณ์ต่อ แต่โชคผมตอนท้ายๆมักไม่ดีเท่าไหร่มีหญิงสาวในร่างชายมาสัมภาษณ์ผม

จากที่กำลัง HOT !  HOT ! ผมเหี่ยวเลยครับ (ใจนะครับที่เหี่ยว  )

พอผมออกมาจากห้องสัมภาษณ์ผมก็ได้เจอเธอคนนั้นอีกแต่ตอนนี้ผมยิ้มให้พร้อมทั้งยักคิ้วให้เธอไปหนึ่งที


           จะต่อวันที่ 3 ดีไหมเนี่ยเยอะเกินไปกลัวไม่มีใครอ่าน


           แต่ตอนนี้ผมไม่มีขุนแผนชมตลาดแขวนแล้วครับ เพราะคุณ Zonya ได้เอาไปครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์ของเค้าไปแล้ว ทีหลังเห็นทีเวลาบูชาอะไรต้องบูชาเป็นเพ็คคู่แล้วล่ะจะได้ไม่โดนแย่ง บอกได้คำเดียวครับ เซ็ง

           วันที่ 3 ของการแขวนขุนแผนชมตลาด : บ่ายวันพุธ ผมออกไปซื้อส้มตำแถวคอนโด
เป็นร้านประจำที่เคยซื้อเพราะมีรสชาติเหมือนที่บ้านเลยคือนัวสุดๆ
แม่ค้าไถ่ถามตามประสาว่า...


หายไปไหนมาไม่เห็นหน้าเป็นเดือนเลย

ผมก็ตอบแม่ค้าไปว่า...

ไปบวชมา เดือนกว่าๆเลยคิดถึงส้มตำร้านป้ามากเลยครับ

แม่ค้าเลยแซวผมว่า...

อย่างนี้ตอนที่บวชผ้าเหลืองคงร้อนนะสิเพราะสีกาอยู่ทางนี้คงคิดถึงแย่เลย

ผมก็ตอบไปว่า...

ไม่มีอะไรเลยบวชต้องสงบ



พอสิ้นเสียงผมมีเสียงผู้หญิงเบาๆ ออกมาจากโต๊ะเดียวที่มีคนนั่งอยู่ในร้าน เป็นหญิงสาวออฟฟิศ 2 คนนั่งกินส้มตำอยู่ เข้าใจว่าผู้หญิง 2 คนนั้นเค้าคงคุยกันแค่ 2 คนเท่านั้นแหละครับแต่ด้วยร้านที่ไม่มีใครเลยทำให้ร้านค่อนข้างเงียบ (แม่ค้าและผมได้ยินอย่างชัดเจน) ว่า...

มีแฟนแล้วซะงั้น

ผมไม่รู้ว่าคนไหนที่พูด ทั้งสองมีหน้าตาที่ดูดี อายุน่าจะไม่เกิน 30
แม่ค้าก็เลยแซวไปยังหญิงสาวคู่นั้นว่า...


คิดอะไรเยอะกันเชียวอีหนู
สมัยนี้ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 3 เท่าแล้ว
ขืนอายอยู่จะอดเอานะลูกเอ๊ย
อยากรู้จักก็จดเบอร์โทรให้เค้าสิ


ผมมองหญิงคู่นั้นอย่างตั้งใจครับว่าเธอจะกล้าจดไหม แต่ในที่สุดไม่มีใครกล้า เพราะพวกเธอคงอายมาก เพราะต่างคนก็ก้มหน้าแทบจะมุดโต๊ะหนี
แม่ค้าไม่วายยังแซวต่อไปอีกว่า...

หนุ่มน่ะจะเอาเบอร์โทรเค้าไหมล่ะ ป้ามีเบอร์โทรเค้านะ เค้าโทรมาสั่งส้มตำป้าบ่อย


หญิงสาวคนหนึ่งลุกหนีพร้อมปิดหน้าเดินไปหลังร้านเข้าห้องน้ำไปไม่ยอมออกมาเลยจนผมได้ส้มตำแล้วขับรถกลับไป ในใจคิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้แน่เลยที่เป็นเจ้าของเสียงที่ว่า “มีแฟนแล้วซะงั้น “ แน่เลย

หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้ ZONYA ฟังก็โดนแย่งไปครอบครอง เพราะ ZONYA อยากรู้ว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดกับตัวเค้าบ้าง พอ ZONYA แขวนไปได้หนึ่งสัปดาห์เรื่องราวกลับคนละด้านกับผมเลย ทั้งสัปดาห์โดนเจ้านายรับประทานเอาไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่โดน นี่คงเป็นเพราะแย่งคนอื่นเค้า และเอาไปแขวนโดยไม่บอกกล่าวเจ้าของเค้าก่อน  และตอนแขวนขึ้นคอไม่ยอมบริกรรมคาถาบอกกล่าวขุนแผนท่านก่อน คิดจะแขวนก็แขวน

สะใจ จากนั้นมาผมก็แขวนประจำเลยครับก็มีเรื่องราวดีๆกับตัวเองตลอดไม่ว่าจะเป็นแม่ค้าทอนตังค์เกินบ้าง (เราก็คืนเค้าไป) / ฝากเพื่อนซื้อของ ซึ่งเพื่อนคนนี้ขี้เหนียวมากเค้าก็ไม่เอาเงินกับเรา (เค้าบอกว่าซื้อมาฝาก) แขวนไปไหนก็มั๊กมีแต่คนมอง มีคนยิ้มให้อย่างที่ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย
ส่วนตัวแล้วผมตั้งใจบริกรรมคาถาก่อนออกจากบ้านมากครับท่องจำคาถาบทเต็มได้ขึ้นใจ

คงจะเหมือนน้องแชมป์ LightGuardian ที่เคยบอกมั๊งครับ คาถาสั้นเป็นคาถาเมตตาแบบพุทธคุณ ส่วนคาถาบทยาวเป็นคาถามหาเสน่ห์

ลองเข้าไปอ่านคาถาบทเต็มดูก่อนก็ได้ครับว่าคาถาบทเต็มบอกกล่าวหรือขอขุนแผนอะไรบ้าง

แต่ถึงอย่างไรผมก็เชื่อว่าพุทธคุณในองค์ขุนแผนชมตลาดมี 100% อยู่แล้วครับ
สุดยอด
เราจะมีโอกาสแบบนี้กะเค้าไหมน่า
Metha ตอบกลับเมื่อ 2014-9-17 06:04
เราจะมีโอกาสแบบนี้กะเค้าไหมน่า

หนังสือเล่มเก่าที่ยังไม่เคยได้เปิดอ่าน
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-7-29 16:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Metha ตอบกลับเมื่อ 2014-9-17 06:04
เราจะมีโอกาสแบบนี้กะเค้าไหมน่า


หนังสือถึงจะเก่า แต่เนื้อหาช่างสวยงามเสียจริง พี่เมธต้องอ่านจนไม่อยากวางแน่ๆเลย



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-7-29 17:08 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2015-7-29 17:07
หนังสือถึงจะเก่า แต่เนื้อหาช่างสวยงามเสียจริง พี่เมธต้องอ่านจนไม่อยากวางแน่ๆเลย

ให้ความรักเป็นหนังสือ เพียงแค่เธอค่อยๆอ่าน ค้นหาใจของเธอ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้