ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2233
ตอบกลับ: 5
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ การเจริญอนุสสติต่าง ๆ ~

[คัดลอกลิงก์]
ก า ร เ จ ริ ญ อ นุ ส ส ติ ต่ า ง ๆ
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร)

• ธัมมานุสสติ

โดยระลึกว่า ธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้า
งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในเบื้องปลาย
พร้อมด้วยอรรถะ และพยัญชนะ
เพราะเป็นธรรมที่บุคคลพึงเห็นเอง
ไม่กำหนดการโดยการกำหนด

ควรเรียกให้มาดู ท่านจงดูธรรมนี้
ควรน้อมนำเข้าไปในจิตของตน ขงอตนให้มีขึ้น
พึงรู้ว่ามรรคเราเจริญแล้ว ผลเราบรรลุแล้ว
ทำให้แจ้งในนิโรธในนิพพานแล

• สังฆานุสสติ

โดยระลึกว่า พระสงฆ์ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง มีปฏิปทาดีงาม
ควรแก่การกราบไหว้บุคคลแปดจำพวก สี่คู่

คือ โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล
สกทาคามิมรรค สกทามิผล
อนาคามิมรรค อนาคามิผล
อรหัตมรรค อรหัตผล

บุคคลแปดจำพวกสี่คู่นี้
เป็นผู้ควรเป็นผู้ควรรับของอันเขานำมาบูชา
เป็นผู้ควรแก่การสักการะ เป็นผู้ควรซึ่งทำทักษิณาทาน
เป็นผู้ควรกระทำอัญชลีกราบไหว้
เป็นเนื้อนาบุญของชาวโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-14 13:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
• สีลานุสสติ

ระลึกโดยการพิจารณาว่า
ศีลทั้งหลายของเราไม่ขาด ไม่ด่าง ไม่ทะลุ ไม่พร้อย
ผู้รู้สรรเสริญ มีพระพุทธเจ้า เป็นต้น
เมื่อพระโยคาวจรระลึกถึงศีลทั้งหลายของตน
ไม่ขาด ไม่ด่าง ไม่ทะลุ ไม่พร้อย
เมื่อนั้นจิตไม่มีราคะกลุ้มรุม
จิตย่อมเกิดปราโมทย์มีปีติ สงบเป็นสุข ตั้งมั่นเป็นสมาธิ

• จาคานุสสติ

เมื่อจะเจริญจาคานุสสตินั้น
ต้องเป็นผู้มีจิตน้อมไปในจาคะ
คือ การบริจาค มีการแบ่งปันอยู่เป็นนิตย์

โดยเริ่มสมาทานว่า

ตั้งแต่บัดนี้ไป เมื่อผู้รับทานมีอยู่
ถ้าเรายังมิได้ให้ทาน
โดยแม้ข้าวสักคำหนึ่งแล้ว จะไม่บริโภค

แม้ระลึกการบริจาคของตนแล้ว
ใจก็ปราศจากความตระหนี่
ยินดีในการเสียสละ พอใจในการให้

หากผู้ให้หมดอายุแล้ว ย่อมได้อายุทิพย์
และย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-14 13:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
• เทวตานุสสติ

ผู้เจริญเทวตานุสสติ ต้องเป็นผู้มีศรัทธา
ตั้งเทวดาไว้ในฐานแห่งพยาน
ระลึกถึงคุณศรัทธาของตนอย่างนี้ว่า

เทวดาเหล่าจาตุมหาราชิกามีอยู่
เทวดาเหล่าดาวดึงส์มีอยู่
เทวดาเหล่ายามามีอยู่
เทวดาเหล่าดุสิตมีอยู่
เทวดาเหล่านิมมานรดีมีอยู่
เทวดาเหล่าปรินิมิตวัสวัตดีมีอยู่

เทวดาจำพวกพรหมก็มี

เทวดาเหล่านั้นประกอบไปด้วยศรัทธาอย่างใด
จุติในภพนี้แล้วเกิดในภพนั้น
แม้ศรัทธาของเราก็มีอย่างนี้

• มรณานุสสติ

โดยระลึกถึงความตายว่าความตายนี้ย่อมีเพราะสิ้นบุญบ้าง
เพราะสิ้นอายุบ้าง เพราะสิ้นทั้งสองอย่างบ้าง

ความตายย่อมมีแก่บุคคลทั้งหลาย
วัน-คืนล่วงไปชีวิตก็ดับไป อายุก็สิ้นไป

แม้พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก
ราชามหากษัตริย์ก็ยังไม่พ้นจากความตาย แม้แต่ตัวเรา

เมื่อพระโยคาวจรพิจารณาความตายจนได้อารมณ์เต็มที่ถึงที่
จิตย่อมข่มนิวรณธรรมได้
เพราะเกิดขึ้นด้วยกำลังที่ระลึกถึงความตาย
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-14 13:38 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
• อุปสมานุสสติ

โดยการระลึกถึง การระลึกถึงกาย การระลึกถึงจิต
ความดับคือ พระนิพพาน หมายเอาพระนิพพาน

อุปสมานุสสตินี้ ย่อมสำเร็จแก่พระอริยะสาวกเท่านั้น
ถึงกระนั้น ปุถุชนผู้หนักในอุปสมะก็ควรใส่ใจด้วย
เพราะการฟังกายจิตก็สงบ จิตก็เลื่อมใสในอุปสมะได้

• คำภาวนาในห้องอนุสสติ

๑. ธัมมานุสสติ แจ้งเห็นร่างตนเองทั้งข้างนอกข้างใน
๒. สังฆานุสสติ อยู่แก่เสียงทั้งหลาย ไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่าหายใจ (สังโฆ)
๓. สีลานุสสติ แจ้งนั่งสบาย เหมือนต้องลมริ้วๆ (สีโล)
๔. จาคานุสสติ สูงขึ้น ชุ่มชื่นกายเบา (จาโค)
๕. เทวตานุสสสติ เห็นเทวดาสวรรค์ทุกชั้น (สัทธา)
๖. มรณานุสสติ สูญเปล่าสิ้น (มรณัง)
๗. อุปสมานุสสิต เห็นพระนฤพาน (นิโรโธ)

อนุสสติเพื่อประโยชน์แก่การทำจิตให้หมดจด วิสุทธิด้วยอำนาจ อนุสสติ

(ที่มา : หลักปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐาน สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน),
รวบรวม-เรียบเรียงโดย พระครูสังฆรักษ์วีระ ฐานวีโร วัดราชสิทธาราม, พ.ศ. ๒๕๕๐, หน้า ๑๕๑-๑๕๔)
สาธุ ขอบคุณครับ
อนุโมทนาสาธุ ครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้