ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม
»
หลวงปู่ธูป (พระราชธรรมวิจารณ์) วัดแคนางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพ
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2016
ตอบกลับ: 1
หลวงปู่ธูป (พระราชธรรมวิจารณ์) วัดแคนางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพ
[คัดลอกลิงก์]
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54487
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-6-13 03:58
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
หลวงปู่ธูป (พระราชธรรมวิจารณ์) วัดแคนางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพ
ที่มา
http://www.itti-patihan.com/
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54487
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-6-13 04:00
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระราชธรรมวิจารณ์ หรือที่ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหา มักเรียกท่านว่า
หลวงปู่ธูป
วัดแคนางเลิ้ง
ท่านเป็น
พระ
สงฆ์ที่น่าเคารพ แถมท่านยังมีวิทยาคมเข้มขลังอีกด้วย ท่านได้สร้าง
วัตถุมงคล
ไว้หลายอย่าง และสนน ราคาก็ยังไม่สูงมาก
หลวงปู่ธูป
ท่านเกิดที่ตำบลบางหลวงเอียง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2441 โยมบิดาชื่อ เดช โยมมารดาชื่อ ผ่อง ท่านกำพร้าบิดามารดาตอนอายุได้เพียงขวบเศษ ต่อมาท่านจึงได้มาอยู่กับญาติผู้ใหญ่ที่ กทม. คือเจ้าพระยาราชศุภมิตรและท่านผู้หญิงแปลก ระหว่างนี้ท่านก็ได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่ กทม. และได้ศึกษาหนังสือขอม บาลีต่างๆ ที่วัดใกล้บ้านของท่าน
ครั้นถึงปี พ.ศ.2463 ท่านจึงได้อุปสมบทที่วัดสุนทรธรรมทาน (วัดแค) นางเลิ้ง โดยมีท่านเจ้าคุณธรรมวโรดม (จ่าย) สายเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอริยมุนี (หว่าง) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูพุทธบาล (เนตร) เจ้าอาวาสวัดสุนทรธรรมทาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "เขมสิริ" เมื่ออุปสมบทแล้วท่านก็ได้ศึกษาพระธรรม และวิปัสสนากรรมฐาน กับพระครูพุทธบาล ต่อมาท่านก็ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเดิม ท่านก็จำพรรษาอยู่วัดบางนมโค จึงได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและพุทธาคมกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลังจากที่ท่านได้เดินทางกลับมาที่ กทม.แล้ว ท่านก็ยังได้ไปเยี่ยมเยียนและศึกษากับหลวงพ่อปานอยู่เสมอ
ต่อมาท่านก็ได้สนิทสนมกับหลวงพ่อขันธ์ วัดนกกระจาบ จึงได้มีโอกาสได้เรียนวิชาเชือกคาดเอวกับหลวงพ่อขันธ์อีกด้วย หลวงปู่ธูป นอกจากท่านจะได้เรียนกับหลวงพ่อปานและหลวงพ่อขันธ์แล้ว ท่านยังได้เดินทางไปเรียนกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ที่นครปฐมอีก หลวงพ่อแช่มและหลวงปู่ธูปได้เดินทางไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด ต่อมาท่านก็ได้รู้จักกับหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ในคราวที่เดินทางไปที่วัดตาก้องนี้เอง และได้แลกเปลี่ยนวิชากัน
หลวงปู่ธูปท่านเป็นผู้ขยันหมั่นเพียร เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำกิจการใด ท่านก็ทำโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย นำพระภิกษุสามเณรให้ช่วยกันทำกิจกรรมของวัดให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ท่านจึงเป็นกำลังสำคัญของพระครูพุทธบาล ในการช่วยปฏิสังขรณ์พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองจนได้รับตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส
ในปี พ.ศ.2471 ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสุนทรธรรมทาน หลังจากท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ได้พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองดังที่เห็นมาจนทุกวันนี้ ในปีพ.ศ.2477 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูสุนทรธรรมวิจารณ์ ต่อมาในปี พ.ศ.2495 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่พระสุนทรธรรมวิจารณ์ ในปี พ.ศ.2506 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณ ศักดิ์เป็นที่พระราชธรรมวิจารณ์
ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ท่านเริ่มสร้างครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2482 โดยท่านสร้างร่วมกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เป็นพระสมเด็จฐานสามชั้น พระรอด พระนางพญา และพิมพ์นางกวัก พระที่สร้างครั้งนี้เป็นพระเนื้อผง ผสมกับดินปูชนียสถาน และผงใบลาน ลงรักฉาบเนื้อ เนื้อในสีดอกเทา ด้านหลังจะเป็นรอยจารลึกลงไปในเนื้อทุกองค์
เมื่อสร้างเสร็จท่านก็จะแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์และผู้มาแสดงมุทิตาจิต ที่เหลือนอกนั้นนำไปบรรจุที่ใต้ฐานพระประธาน พระชุดนี้ปัจจุบันหาดูได้ยากสักหน่อย นอกจากนี้ท่านได้สร้าง
ตะกรุด
เชือกคาดเอว พระเนื้อผงรุ่นปีพ.ศ.2504 เหรียญปีพ.ศ.2513 และอื่นๆ อีกพอสมควร
หลวงปู่ธูปเป็นที่รักเคารพของชาวบ้านละแวกนั้น อีกทั้งลูกศิษย์ลูกหาอีกมากมาย จนเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2533 ท่านจึงได้มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุได้ 92 ปี พรรษาที่ 70
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...