ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3617
ตอบกลับ: 11
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันงดสูบบุหรี่โลก

[คัดลอกลิงก์]
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันงดสูบบุหรี่โลก                                                                                                                   
                            ที่มา : ทีมงาน toptenthailand
                                                            วันที่ 31 พฤษภาคม ถือว่าเป็นวันที่สำคัญวันหนึ่ง ที่มีการรณรงค์ให้คนไทยงดสูบบุหรี่ ซึ่งก็จะมีบุคคลที่ทำได้บ้างทำไม่ได้บ้าง ทางทีมงาน toptenthailand ขอนำเสนอ 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันงดสูบบุหรี่โลก มาให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ       

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:10 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
10.กฎหมายคุ้มครองสุขภาพประชาชนเรื่องบุหรี่  

                                                                                                                 
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:never-age     
ทั้ง 2 ฉบับ ได้แก่
        1. พระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535
มีสาระสำคัญคือ การประกาศเขตปลอดบุหรี่ โดยแบ่งเขตปลอดบุหรี่ออกเป็น 4 กลุ่มคือ
            - เขตปลอดบุหรี่อย่างแท้จริง เช่น รถยนต์โดยสารประจำทางทั้งที่ปรับอากาศและไม่ปรับอากาศ แท็กซี่ ตู้รถไฟปรับอากาศ ห้องชมมหรสพ
            - เขตปลอดบุหรี่ทั้งหมดเช่น โรงเรียน ห้องสมุด ยกเว้น ห้องส่วนตัว
            - เขตปลอดบุหรี่เกือบทั้งหมด เช่น สถานพยาบาล ศูนย์การค้า สถานที่ราชการ และรัฐวิสาหกิจ หากจะสูบก็ให้สูบเฉพาะเขตสูบบุหรี่
            - เขตปลอดบุหรี่อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของพื้นที่นั้นๆ เช่น ตู้รถไฟโดยสารทั่วไป(ไม่ปรับอากาศ) และร้านขายอาหารทั่วๆ ไป เฉพาะบริเวณที่มีระบบปรับอากาศ แต่ต้องจัดเขตสูบบุหรี่ไม่ให้เกินครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมด
        2. พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ
มีสาระสำคัญคือการห้ามขายบุหรี่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท ห้ามขายสินค้าอื่นและแถมบุหรี่ให้ หรือ ขายบุหรี่แล้วแถมสินค้าอื่นๆ และห้ามการโฆษณาทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม
        การรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ มิใช่จะกระทำแค่วันเดียว แต่ต้องทำอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อสุขภาพและอนามัยที่ดีแก่ตนเองและผู้ใกล้ชิด        

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                9.โทษของการสูบบุหรี่
                           
                                                                                       
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:hfocus  
ปัจจุบัน นี้เรารู้กันอยู่แล้วว่า บุหรี่นั้นมีโทษภัยร้ายแรงทั้งตัวผู้สูบและ บุคคลรอบข้าง วันนี้จึงได้นำข้อมูลที่เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่มาทบทวนกันให้ทราบถึงโทษของบุหรี่ หลักๆ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้งดสูบบุหรี่ หรือเลิกสูบบุหรี่ ดังนี้
บุหรี่ เป็นชื่อเรียกชนิดหนึ่งของ ยาสูบ ซึ่งมีคนนิยมมากที่สุด
ยาสูบ เป็นพืชที่ปลูกได้ในทุกสภาพดินและ อากาศ ส่วนที่สร้างปัญหาทางด้านสุขภาพขอยาสูบคือ “ใบ”
ใบ ยาสูบ มีส่วนประกอบต่างๆ มากกว่า 4,000 ชนิด เมื่อเกิดการเผาไหม้ ทั้งสารเคมีที่มีพิษและ ไม่มีพิษ ซึ่ง ส่วนใหญ่คือสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ความดัน โรคหัวใจ
การสูบบุหรี่ ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศลดลง ฟันเหลือง ตาแดง เล็บเขียว มีกลิ่นปาก       

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                8.บทบาทของกระทรวงสาธารณสุขต่อบุหรี่
                           
                                                                                       
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:npzmoon
เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2548 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เริ่มบังคับใช้กฎเกณฑ์ห้ามตั้งแสดงซองบุหรี่ตามร้านค้าปลีก โดยร้านค้าปลีกใดที่มีบุหรี่จำหน่าย ให้ติดกระดาษขนาด A4 เขียนข้อความไว้ว่า "ที่นี่มีบุหรี่ขาย" เพราะถือเป็นการโฆษณาสินค้าบุหรี่ ณ จุดขาย หากร้านค้าปลีกใดละเมิด จะมีความผิดมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 โครงการหมู่บ้านปลอดบุหรี่       

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                7.โอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งปอด
                           
                                                                                       
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:manager   
โอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งปอดจากการสูบควันนั้นไม่แน่นอน ขึ้นกับลักษณะของการสูบ สารที่สูบ และความถี่ จากสถิติพบว่า คนที่สูบบุหรี่มีโอกาสจะเป็นโรคมะเร็งปอดประมาณ 11-17%  หรือ 10-20 เท่าของคนที่ไม่สูบ  การสูดสารพิษและสารก่อมะเร็งจากควันบุหรี่ เช่น เรดอนและเรเดียม-226 เชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็ง ไร่ยาสูบในสหรัฐอเมริกาจำนวนมากปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี เนื่องจากการใช้ปุ๋ยที่มีปริมาณฟอสเฟตสูง       

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                6.นิโคติน
                           
                                                                                       
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:eciggar
ซึ่งเป็นสารกระตุ้นประสาท ในบุหรี่นั้น มีผลเป็นสารเสพติด และลดการอยากอาหาร ผู้ที่เลิกการสูบบุหรี่มักจะทดแทนอาการอยากบุหรี่ด้วยการกินขนม ซึ่งส่งผลให้หนึ่งในสามของผู้ที่เลิกสูบบุหรี่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นนิโคตินยังอาจเป็นสารพิษ หากเด็กหรือสัตว์รับประทานก้นบุหรี่โดยอุบัติเหตุ       

7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                5.ผลต่อสุขภาพ
                           
                                                                                       
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:vcharkarn   
การสูบบุหรี่และยาสูบอื่น ๆ เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ การสูบบุหรี่เพิ่มโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งปอด (ประมาณ 80-90% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่) นอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุของโรคปอดอื่น ๆ เช่น โรคถุงลมโป่งพอง  หญิงมีครรภ์ที่สูบบุหรี่มีโอกาสแท้งลูกมากขึ้น และเด็กที่คลอดออกมาอาจมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ การสูบบุหรี่ยังเพิ่มโอกาสของอาการหัวใจวาย และโรคมะเร็งประเภทอื่น ๆ อีกด้วย ผู้สูบบุหรี่อาจดูแก่กว่าปกติเนื่องจากควันบุหรี่จะเพิ่มรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนัง เนื่องจากการสูบบุหรี่มีผลเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม ดังนั้นอาจส่งผลให้ผู้สูบมีน้ำหนักลดลง       

8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                4.สารเคมีในบุหรี่
                           
                                                                                       
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:voicetv
ไส้บุหรี่นั้น ทำจากใบยาสูบตากแห้ง นำไปผ่านกระบวนการทางเคมี และมีการเพิ่มสารอื่น ๆ ควันบุหรี่ประกอบด้วยสารเคมีมากกว่า 4,000 ชนิด ซึ่งในจำนวนนั้นมีสารเคมีจำนวนมากที่เป็นสารพิษ สารที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม และสารก่อมะเร็ง สารเคมีที่เป็นองค์ประกอบได้แก่  อะซีโตน ,อะลูมิเนียม ,แอมโมเนีย ,สารหนู ,เบนซีน ,บิวเทน ,แคดเมียม ,คาเฟอีน ,คาร์บอนมอนอกไซด์ ,คาร์บอนไดออกไซด์ ,คลอโรฟอร์ม ,ทองแดง ,ไซยาไนด์/ไฮโดรเจนไซยาไนด์ ,ดีดีที/ดีลดริน ,เอทิลแอลกอฮอล์ ,ฟอร์มัลดีไฮด์ ,ตะกั่ว ,แมกนีเซียม ,มีเทน ,เมทิลแอลกอฮอล์ ,ปรอท ,นิโคตีน ,พอโลเนียม ,ทาร์ ,ไวนิลคลอไรด์ ,โพแทสเซียมไนเตรต       

9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                3.ประวัติของบุหรี่ในประเทศไทย
                           
                                                                                       
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:manager
ใน ประเทศไทยเรานี้เริ่มต้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีหลักฐานจากจดหมายเหตุของ เมอร์ซิเออร์ เดอลาลูแบร์ อัครราชทูตฝรั่งเศส ได้เดินทางมาเมืองไทยสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อ พ.ศ. 2230 เขียนเล่าเรื่องไว้ว่า “คนไทยชอบใช้ยาสูบอย่างฉุนทั้งชายและ หญิง โดยได้ยาสูบมาจากเมืองมะนิลา ในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ และประเทศจีน ครั้นมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการผลิตบุหรี่ขึ้นโดยบริษัทที่มีชาวอังกฤษ เป็นเจ้าของในพ.ศ. 2460 ด้วยวิถีการผลิตด้วยมือ จากนั้นรัชสมัยสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการนำเครื่องจักรเข้ามาผลิต ทำให้การสูบบุหรี่เกิดการแพร่หลายมากขึ้น จนมาถึง พ.ศ. 2482 รัฐบาลได้จัดตั้งโรงงานยาสูบขึ้น โดยใช้ชื่อกิจการมาจากห้างหุ้นส่วนบูรพายาสูบ จำกัด  โดยดำเนินกิจการอุตสาหกรรมยาสูบภายใต้การควบคุมของกรมสรรพสามิต ต่อมาเศรษฐกิจได้พัฒนามากขึ้น จึงมีการรวมกิจการต่างๆ เข้าด้วยกัน และดำเนินการภายใต้ชื่อ โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง มาจนถึงปัจจุบัน       

10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-31 10:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                2.บุหรี่
                           
                                                                                       
                                                           ขอขอบคุณรูปภาพจาก:thaihealth
บุหรี่ มีลักษณะเป็นทรงกระบอกม้วนห่อด้วยกระดาษ ขนาดปกติจะมีความยาวสั้นกว่า 120 มิลลิเมตร และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 มิลลิเมตร) มีใบยาสูบบดหรือซอยบรรจุภายในห่อกระดาษ ปลายด้านหนึ่งเป็นปลายเปิดสำหรับจุดไฟ และอีกด้านหนึ่งจะมีตัวกรอง ไว้สำหรับใช้ปากสูดควัน คำนี้ปกติจะใช้หมายถึงเฉพาะที่บรรจุใบยาสูบภายใน แต่ในบางครั้งก็อาจใช้หมายถึงมวนกระดาษที่บรรจุสมุนไพรอื่น ๆ เช่น กัญชา       

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้