พระร่วง(พระเจ้าศรีจันทราธิบดี)
พระร่วง
ขอมดำดิน
ขอมดำดิน
อีกสำนวนหนึ่งของตำนานวีรบุรุษในพงศาวดารเหนือ และในนิทานชาวบ้านแถบสุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก ตาก อุตรดิตถ์ ที่นิยมหยิบยกมาเล่าขานทั้งในฐานะผู้นำทางวัฒนธรรม วีรบุรุษผู้มีตัวตนจริงตามประวัติศาสตร์ สัญลักษณ์ของผู้รู้ และความเป็นปราชญ์ ตอนที่หยิบยกมานี้ คัดลอกมาจากหนังสือ “๕๐ นิทานไทย” โดย ธนากิต
อดีตกาลนานนับพันปีเศษล่วงมาแล้ว ณ กรุงอินทปัด อันมีพระเจ้าอุทัยราช เป็นผู้ปกครอง พระองค์มีพระมเหสี ซึ่งเป็นเชื้อสายของพวกนาค จึงมีนามเรียกกันว่า พระนางนาค วันหนึ่งเมื่อพระเจ้าอุทัยราชพาพระมเหสีซึ่งกำลังมีพระครรภ์แก่ใกล้คลอดเสด็จประพาส ณ หาดทราย เมืองอัมราพิรุณบูรณ์ พระมเหสีก็ประสูติโอรสออกมาเป็นฟองไข่ พระเจ้าอุทัยราชไม่ทราบชาติกำเนิดเดิมของพระมเหสี จึงเกรงว่าฟองไข่นี้อาจจะเป็นเสนียดจัญไรและเกิดความอัปมงคลแก่บ้านเมือง จึงให้ทิ้งไป ก่อนที่จะตามเสด็จพระสวามีกลับกรุงอินทปัด พระนางนาคสั่งให้คนสนิทนำฟองไข่ไปฝังทรายไว้
กล่าวถึง กรุงละโว้ ซึ่งในเวลานั้นไม่มีเจ้าเมืองครอบครอง นายคงเครา ซึ่งเป็นนายกองส่งน้ำ ทำหน้าที่รักษาการแทนอยู่ ขณะนั้นเมืองละโว้ขึ้นอยู่ในอำนาจของพวกขอม ต้องส่งส่วยเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทะเลชุบศร เป็นประจำทุก ๓ ปี ขากลับที่คุมไพร่พลขนน้ำไปถวายพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ (พระเจ้าพันธุมสุริยวงศ์ หรือ พระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒) ณ เมืองขอม ขณะขบวนเกวียนของนายคงเคราผ่านเมืองอัมราพิรุณบูรณ์เห็นมีฟองไข่ขนาดใหญ่ผุดขึ้นบนหาดทราย นายคงเคราจึงเก็บเอาไปยังเมืองละโว้ด้วย แล้วหาแม่ไก่ให้มาช่วยฟักตัวละหนึ่งเดือน พอครบสิบเดือนไข่นั้นก็แตกออก ภายในมีเด็กผู้ชายน่าตาน่ารักน่าเอ็นดู นายคงเคราจึงให้ชื่อว่า ร่วงและเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรม
เมื่อโตขึ้นอายุได้ ๑๑ ปี ร่วงจึงรู้ว่าตนมีวาจาสิทธิ์ ด้วยเหตุที่วันหนึ่งได้พายเรือเล่นในทุ่งพรหมมาศ (บางตำราว่าพายเล่นในทะเลชุบศร) พายเรือตามน้ำไปได้สักพักก็คิดจะกลับแต่ต้องพายทวนน้ำ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจึงพูดเปรยๆ ออกมาว่า “ทำไมน้ำไม่ไหลกลับไปทางเรือนเราบ้าง” ทันใดนั้นน้ำในทุ่งพรหมมาศก็เปลี่ยนทิศไหลพาเรือกลับอย่างที่ตนพูด ร่วงได้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่ยอมบอกให้ใครทราบ
อยู่ต่อมานายคงเคราถึงแก่กรรม บรรดาไพร่พลทั้งปวงจึงยกให้นายร่วงเป็นนายกองส่งน้ำแทน ครั้นครบกำหนด นักคุ้มข้าหลวงจากเมืองขอมได้คุมกองเกวียน ๕๐ เล่ม พร้อมไพร่พล ๑,๐๐๐ คน มาบรรทุกน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทะเลชุบศร เพื่อนำไปประกอบพิธี เมื่อมาถึงเมืองละโว้ได้ทราบข่าวนายคงเคราเสียชีวิตแล้ว จึงให้คนไปตามนายร่วงซึ่งทำหน้าที่แทนมาพบ นายร่วงจึงบอกกับนักคุ้มว่าท่านเอาโอ่งเอาไหที่ทำด้วยดินมาใส่น้ำอย่างนี้หนักเปล่าๆ จงช่วยกันสานชะลอมใส่น้ำไปเถิด เราจะสั่งน้ำมิให้ไหลออกมาเอง
นักคุ้มเห็นนายร่วงรับรองแข็งขันว่าสามารถทำได้ ก็สั่งไพร่พลให้ช่วยกันสานชะลอมใส่เกวียนเล่มละ ๒๕ ใบ ซึ่งเมื่อนำชะลอมทุกใบไปตักน้ำตั้งบนเกวียน ปรากฏว่าไม่มีน้ำไหลรั่วออกมาเลยแม้แต่ใบเดียว นักคุ้มรู้สึกเกรงอำนาจวาจาสิทธิ์ของนายร่วงจึงรีบนำขบวนเกวียนเดินทางกลับเมืองขอม ระหว่างทางถึงด่านแห่งหนึ่งนักคุ้มเกิดแคลงใจว่าถูกนายร่วงหลอกให้ขนชะลอมเปล่าไปเมืองตนเอง พอนึกดังนั้นครั้นหันไปมองน้ำในชะลอมก็กลับไหลออกมาให้เห็น นักคุ้มจึงสรรเสริญนายร่วงว่าเก่งกล้าสามารถนัก และให้จารึกเรื่องราวไว้เป็นสำคัญ ณ ที่แห่งนั้นจึงได้ชื่อว่า ด่านพระจารึก
ครั้นเดินทางต่อมาจนถึงเมืองตึกโช ชาวเมืองพอทราบข่าวก็เล่าลือเรื่องที่นักคุ้มนำชะลอมใส่น้ำบรรทุกมา เจ้าเมืองขอมทราบจึงเรียกไปสอบถาม นักคุ้มก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างละเอียด พร้อมทั้งยกชะลอมใบที่ยังมีน้ำขังอยู่เทลงในพะเนียงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่เจ้าเมืองและเหล่าข้าราชบริพารโดยทั่วหน้ากัน เจ้าเมืองขอมตกพระทัยตรัสว่า บัดนี้ผู้มีบุญมาเกิด ณ เมืองละโว้แล้วควรจะรีบยกกองทัพไปจับตัวมาสังหารเสียดีกว่า
นายร่วงรู้ข่าวว่าทหารขอมยกกองทัพมาจับตัวก็หนีออกจากเมืองละโว้ขึ้นไปทางเหนือและได้หลบอยู่ริมวัดแห่งหนึ่ง ณ บ้านบางคลาน เขตเมืองพิจิตร ได้รับความอดอยากถึงกับต้องขออาหารชาวบ้านกิน ผู้ที่มีจิตเมตตาได้นำข้าวและปลาหมอตัวหนึ่งมาให้ นายร่วงกินเนื้อปลาทั้งสองข้างหมดแล้วก็โยนก้างลงไปในสระและสั่งว่า “เจ้าจงมีชีวิตขึ้นมาเถิด” พลันปลาซึ่งไม่มีเนื้อมีแต่ก้างนั้นก็กลับมีชีวิตขึ้นมาแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า ปลาก้าง ต่อมาจึงเดินทางไปถึงเขตแขวงเมืองเชลียง นายร่วงจึงหยุดพักและรู้สึกปวดท้องถ่าย จึงนั่งถ่ายที่ข้างป่า เสร็จแล้วได้หักกิ่งไม้แห้งมาชำระและโยนทิ้ง พร้อมกับสั่งว่า “จงงอกขึ้นมาเถิด” พลันไม้นั้นก็งอกขึ้นมาเป็นต้น ซึ่งมีกลิ่นเหมือนอาจม ชาวบ้านเรียกว่า ไม้ชำระพระร่วง
นายร่วงพเนจรหลบหนีพวกทหารขอมอยู่เป็นเวลาหลายปี จนเมื่ออายุครบบวชจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดในเมืองสุโขทัย ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า พระร่วง นับแต่นั้นมา วันหนึ่งนายทหารขอมซึ่งทราบข่าวได้ติดตามมา ครั้นถึงวัดที่พระร่วงจำพรรษาอยู่ได้ใช้ฤทธิ์ดำดินลอดกำแพงวัดเข้าไป เห็นพระร่วงกำลังกวาดลานวัดอยู่แต่ไม่รู้จักจึงถามว่า “พระร่วงที่มาจากเมืองละโว้อยู่ที่ไหน” พระร่วงจึงสอบถามจนรู้ว่าเป็นนายทหารขอมที่ตามมาจับตนจึงบอกว่า “เจ้าจงอยู่ที่นี่แหละอย่าไปไหนเลย จะไปตามพระร่วงให้” ด้วยฤทธิ์วาจาสิทธิ์ของพระร่วง ร่างของขอมดำดินผู้นั้นก็แข็งกลายเป็นหินติดคาแผ่นดินอยู่ตรงนั้น ต่อมาเมื่อเจ้าเมืองสุโขทัยสวรรคต และชาวเมืองรู้ว่าพระร่วงเป็นผู้มีบุญ จึงพร้อมใจกันขอให้พระร่วงลาสิกขาบท แล้วอัญเชิญขึ้นเป็นเจ้าเมือง นับตั้งแต่พระร่วงครองราชสมบัติปกครองเมืองสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองนับแต่นั้นมา...
|