ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 11680
ตอบกลับ: 11
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม ~

[คัดลอกลิงก์]

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร

วัดประชาชุมพลพัฒนาราม
ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี



ชาติภูมิ
พระคุณเจ้าหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร  ท่านมีชาติกำเนิดในสกุล “ลุนราศรี”  ท่านกำเนิดเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๐  แรม ๓ ค่ำ  เดือนกรกฏาคม พุทธศักราช ๒๔๕๗ ปีขาล  ณ หมู่บ้านโนนทัน  ตำบลบ้านตาด  อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี

บุพการี  


โยมบิดา คือ คุณพ่อมา  ลุนราศรี  (ในกาลต่อมาทราบว่าผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้นได้เปลี่ยนนามสกุลให้โยมบิดาของท่านใหม่  เป็น “เมืองศรีจันทร์”
โยมมาดา คือ คุณแม่โม้ ลุนราศรี
โยมบิดาของหลวงปู่นั้นทราบว่ามีถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ที่  อำเภอหนองหาน  จังหวัดอุดรธานี  ส่วนโยมมารดาของหลวงปู่นั้นเป็นคนบ้านโนนทันโดยกำเนิด  อาชีพของท่านทั้งสอง  คือการทำนา อันเป็นอาชีพหลักของคนไทยนั่นเอง

ญาติ

หลวงปู่มีพี่น้องทั้งหมด ๑๐ คน  
หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันอยู่จำนวน ๔ คน  ตามลำดับดังต่อไปนี้
๑.        องค์หลวงปู่  (หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร)
๒.        เด็กชายสีลา ลุนราศรี  (เสียชีวิตแต่ยังเยาว์)
๓.        นางมิง  สุขประเสริฐ  (ถึงแก่กรรมแล้ว)
๔.        นางน้อย  เมืองศรีจันทร์

เมื่อโยมบิดาของหลวงปู่ได้ถึงแก่กรรมลง  โยมมารดาของท่านได้สมรสใหม่ และมีพี่น้องต่างบิดาทั้งหมด ๖ คน ตามลำดับดังต่อไปนี้
๑. จ.ส.อ. คำมูล ศณีดาราช
๒. นางปุ่น  ธรเสนา
๓. นายชาญ  ศรีดาราช  (ถึงแก่กรรมแล้ว)
๔. นางบัวจันทร์  จันทร์ดาเป้า
๕. นางบัวฮอง  พิมพ์พา  (ถึงแก่กรรมแล้ว)
๖. นางบัวพัน ศรีดาราช


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
๒.ชีวิตฆราวาส
     ปฐมวัย

       หลวงปู่ท่านได้เข้าศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนเสนาบำรุง  (ชึ่งตั้งอยู่ในค่ายทหารบกมลฑลทหารบก จังหวัดอุดรธานี)  ท่านสำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
      หลวงปู่ท่านเล่าว่า “ ในสมัยที่หลวงปู่เรียนหนังสืออยู่นั้น โยมบิดา – โยมมารดา ของท่านไม่เคยเดือดร้อน ในเรื่องของเงินซื้อสมุด หนังสือ ดินสอ เพราะว่าท่านเป็นนักเรียนที่เรียนเก่ง สอบไล่ได้เป็นที่ ๑ ทุกครั้ง จึงได้รับแจกหนังสือเป็นรางวัลจนเรียนจบ”

ช่วงวัยหนุ่ม


        หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังว่า “ เมื่อตอนเป็นหนุ่มนั้นท่านเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือโยมบิดา – โยมมารดา ในการทำไร่ ทำนา เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย สานตะกร้า  กระบุง หวดนึ่งข้าว  รับจ้างถางไร่ (ได้ค่าจ้างเดือนละ ๓ บาท  ในสมัยนั้นถือว่าเป็นรายได้มาก)  ท่านต้องรับภาระที่หนักอันเนื่องมาจากท่านเป็นบุตรคนโตของครอบครัว”
        หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังว่า “ ในสมัยก่อนนั้น ท่านเป็นหนุ่มท่านก็เคยไปเที่ยวกันกับหมู่เพื่อน ๆ  ตามปะสาคนหนุ่ม  ไม่ว่าจะชวนไปสักยันต์ตามแขนตามขา  (เรียนถามท่านว่าเจ็บไหมครับหลวงปู่  ท่านตอบว่า “ไม่เจ็บ”  ไปเที่ยวเล่นสาว (จีบสาว)  จ่ายผญาใส่ผู้สาวกับเพื่อน ๆ ท่านก็เคยไป  ท่านบอกว่า “เว้าผญา”  สู้ผู้สาว (ผู้หญิง) เขาไม่ได้  ซุ้มผู้หญิงมันเว้าเก่ง”



พระธรรมเจดีย์  (หลวงปู่มหาจูม  พันธุโล) พระอุปัชฌาย์


๓. เข้าสู่เพศพรหมจรรย์
     เมื่ออายุของท่านครบเกณฑ์ทหาร  คือ ๒๑ ปีบริบูรณ์  ท่านก็ไปเกณฑ์ทหารแต่ไม่ติด  ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านอยากจะบวช  จึงได้แจ้งความประสงค์ให้โยมบิดา – โยมมารดาทราบ  ชึ่งบรรดาญาติพี่น้องต่างก็มีความปลาบปลื้มยินดีร่วมอนุโมทนากับท่านด้วย
    หลวงปู่เข้าถือครองนาคอยู่ที่วัดโยธานิมิตร  อ.เมือง  จ.อุดรธานี  และอุปสมบท ณ  พัทธสีมา วัดโยธานิมิตร  ตำบลบ้านตาด  อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี  เมื่ออายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์  เมื่อวันที่ ๒๕ เดือนมิถุนายน  พุทธศักราช   ๒๔๗๘   ในเวลา  ๑๓.๔๗  น.  โดยมี
พระอุปัชฌาย์  คือ  พระธรรมเจดีย์  (หลวงปู่มหาจูม  พันธุโล)   วัดโพธิสมภรณ์  อ.เมือง  จ.อุดรธานี
พระกรรมวาจาจารย์  คือ พระครูประสาทคณานุกิจ   วัดโพธิสมภรณ์  อ.เมือง  จ.อุดรธานี
พระอนุสาวนาจารย์   คือ พระครูศาสนูปกรณ์  (หลวงปู่อ่อนตา เขมังกโร)  เจ้าอาวาสวัดโยธานิมิตร
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:10 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การศึกษาพระปริยัติธรรม

หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังว่า
   -  ท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรี   ได้ในพรรษาที่ ๑  (พ.ศ. ๒๔๗๘)
   -  ท่านสอบได้นักธรรมชั้นโท   ได้ในพรรษาที่ ๒ (พ.ศ. ๒๔๗๙)
   -  ท่านสอบได้นักธรรมชั้นเอก   ได้ในพรรษาที่ ๑  (พ.ศ. ๒๔๘๔)
   -  ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมทูต  จากอธิบดีกรมการศาสนา (พันเอกปิ่น มุทุกันต์) ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ และ พ.ศ. ๒๕๐๘ รับผิดชอบสายที่ ๑ มีขอบเขตรับผิดชอบดังนี้  คือ
เลย , หนองคาย , อุดรธานี , สกลนคร , นครพนม , ขอนแก่น , กาฬสินธุ์ , ร้อยเอ็ด , มหาสารคาม , และอุบลราชธานี  
  - หลวงปู่ท่านสามารถท่องจำพระปาฏิโมกข์ได้ในพรรษาที่ ๒ ชึ่งนับว่าท่านเป็นพระภิกษุผู้มีความวิริยะอุตสาหะเป็นเลิศแล้ว  นับว่าหาได้ยากยิ่งอีกรูปหนึ่ง
                                       

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
๔ . ชีวิตในร่มกาสาวพัตร

      การจำพรรษาของหลวงปู่  ตลอดจนการเดินธุดงค์ของท่านนั้น ถ้าจะนำมาเขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้คงจะพิมพ์เสร็จไม่ทัน  เนื่องจากคณะผู้จัดทำมีระยะเวลาในการจัดทำสั้นนัก  จึงได้ขอลงไว้เฉพาะการจำพรรษาคร่าวๆ และสถานที่ที่องค์หลวงปู่ได้อยู่จำพรรษาเท่านั้นพอสังเขปดังต่อไปนี้
   พรรษาที่ ๑-๓  (พ.ศ.๒๔๗๘- ๒๔๘๐)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดโยธานิตร  อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี
พรรษาที่ ๔-๕  (พ.ศ.๒๔๘๑- ๒๔๘๒)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านตาด อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี
พรรษาที่ ๖  (พ.ศ. ๒๔๘๓)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านช้าง  อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี
พรรษาที่ ๗-๘  (พ.ศ. ๒๔๘๓)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านโพนสูง  บ้านโพนสูง หมู่ 1 ตำบลโพนสูง  อำเภอบ้านดุง  จังหวัดอุดรธานี
พรรษาที่ ๙  (พ.ศ. ๒๔๘๖)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดโยธานิตร  อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี
พรรษาที่ ๑๐  (พ.ศ. ๒๔๘๗)
-        ท่านได้จำพรรษาที่อำเภอศรีสงคราม  จังหวัดนครพนม


พระอาจารย์มั่น  ภูริทัตโต  

พรรษาที่ ๑๑-๑๔  (พ.ศ. ๒๔๘๘ – ๒๔๙๒ )
-        ท่านได้ร่วมจำพรรษากับพระเดชพระคุณเจ้าหลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต  ที่วัดป่าบ้านหนองผือ  ตำบลนาใน  อำเภอพรรณานิคม  จังหวัดสกลนคร  (๕ พรรษา)  เมื่อท่านพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต  ได้ละสังขารลงแล้ว  หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร พร้อมคณะสงฆ์  ศิษย์ผู้ใหญ่หลวงปู่มั่น และญาติโยม ได้อยู่ช่วยงานศพท่านพระอาจารย์มั่น จนเสร็จสิ้นภารกิจ  ณ วัดป่าสุทธาวาส  อำเภอเมือง  จังหวัดสกลนคร จนเสร็จสิ้นภารกิจ  แล้วหลวงปู่ท่านจึงได้แยกย้ายไปธุดงค์ต่อไป
พรรษาที่ ๑๖  (พ.ศ.  ๒๔๙๓ )
-        ท่านได้จำพรรษากับท่านพระอาจารย์กู่  ธัมมทินโน  ที่วัดป่าบ้านนากู่  อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร


พระอาจารย์ฝั้น  อาจาโร



ท่านพระอาจารย์กู่  ธัมมทินโน

พรรษาที่ ๑๗  (พ.ศ.  ๒๔๙๔ )
-     หลวงปู่ฝั้น  อาจาโร  ได้มอบหมายให้หลวงปู่อ่อนสา  สุขกาโร  ไปจำพรรษาที่วัดป่าอุดมสมพร   บ้านนาหัวช้าง  ตำบลพรรณนานิคม  อำเภอพรรณานิคม  จังหวัดสกลนคร  แทนองค์ท่านในพรรษานั้น  เพราะองค์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านจะขึ้นไปจำพรรษาที่ถ้ำขาม  ตำบลไร่ อำเภอพรรณานิคม  จังหวัดสกลนคร   จึงให้หลวงปู่จำพรรษาที่วัดป่าอุดมสมพร   แทน
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พรรษาที่ ๑๘  (พ.ศ. ๒๔๙๕)
-        ท่านได้จำพรรษากับหลวงตามหาบัว  ญาณสัมปันโน  และหลวงปู่สุบิน ที่ป่าช้าแห่งหนึ่งในอำเภอคำชะอี  จังหวัดมุกดาหาร
พรรษาที่ ๑๙  (พ.ศ. ๒๔๙๖)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านเหล่าหนองขุ่น   อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี
พรรษาที่ ๒๐-๒๗  (พ.ศ. ๒๔๙๗-๒๕๐๕)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดป่าเวฬุวันวนาราม    หมู่ที่ 4 บ้านข้าวสาร ตำบลโนนสูงอำเภอเมือง   
          จังหวัดอุดรธานี
พรรษาที่ ๒๘-๔๓  (พ.ศ. ๒๕๐๕-๒๕๒๐)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดป่าสีทน  บ้านหนองตูม ต.บ้านจั่น อ.เมือง  จ.อุดรธานี
พรรษาที่ ๔๔-๖๒  (พ.ศ. ๒๕๒๑- ปัจจุบัน)
-        ท่านได้จำพรรษาที่วัดประชาชุมพลพัฒนาราม  บ้านหนองใหญ่  ต.บ้านจั่น อ.เมือง  จ.
อุดรธานี  



ส่วนหนึ่งของกองทัพธรรมศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

แถวหลัง : หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่ขาว อนาลโย,
เจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล),
หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
แถวกลาง : พระอาจารย์จันทร์ เขมปตฺโต, หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ
แถวหน้า : หลวงปู่บัว สิริปุณโณ, หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ความเมตตาขององค์หลวงปู่อ่อนสา  สุขกาโร

      องค์ท่านหลวงปู่นั้น นับเป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่  ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน  ผู้ปฏิบัติดี  ปฏิบัติชอบ  เป็นเนื้อนาบุญอันไพศาล  หลวงปู่เป็นเพชรเม็ดใหญ่ที่ได้ผ่านการเจียระไนมาแล้วอย่างงดงาม ที่บรรดาศิษย์ยานุศิษย์ทั้งหลายให้ความเคารพศรัทธา  ในองค์หลวงปู่  เป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ที่สำคัญยิ่งในปัจจุบัน  ถ้าจะนับพระเถระผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรมที่ผ่านการเจียระไนมาแล้ว และที่สำคัญองค์หลวงปู่อ่อนสา ท่านเคยร่วมสำนักกับหลวงปู่มั่น ในสมัยวัดป่าบ้านหนองผือ ชึ่งในครั้งอดีตคงเหลือไม่กี่รูปที่เป็นศิษย์หลวงปู่มั่นที่ยังดำรงขันธ์อยู่ ในที่กาลปัจจุบันนี้หนึ่งในนี้ก็คือพระผู้ปฏิบัติดี  ปฏิบัติชอบ  ที่นามว่า “หลวงปู่อ่อนสา  สุขกาโร” ชึ่งท่านได้ร่วมจำพรรษากับท่านพระอาจารย์มั่น ในวัดป่าหนองผือ ๕  พรรษา
      ปฏิปทาอันงดงามขององค์ท่านมีมากมายที่จะสุดพรรณาได้หมดสิ้นและที่สำคัญ คือ ท่านไม่ยึดติด  ต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด  มีเมตตาธรรมต่อบรรดาศิษย์ยานุศิษย์โยไม่เลือกชั้นวรรณะ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด  โดยเสมอกัน
      ปฏิปทาองค์หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร  นั้นนับเป็นแบบอย่างที่ประเสริฐทรงคุณค่าเอนกอนันต์อันชนรุ่นหลังไม่พึงประมาทและยึดถือเพื่อเป็นอนุสสติสืบไป


ที่มา : คัดจากหนังสือ “หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร”
เนื่องในงานครบรอบวันเกิดองค์ “หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร”



ธรรมะหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร


" การที่มาขอธรรมะนโยบายปฏิบัตินั้น..ในสมัยพระอาจารย์ใหญ่ท่านก็ให้ ถ้าได้มาขอท่านก็บอกอุบาย อันแยบคายให้..แต่นั่นก็เป็นธรรมะท่ออกมาจากจิตใจของท่าน มันยังไม่ใช่ธรรมะที่ออกจากจิตใจเรา โดยแท้..แม้จะเอาของดีไปก็ไม่สามารถรักษาให้อยู่กับตัวได้ บางทีขอไปวันนี้ พรุ่งนี้ก็ลืมวางไว้ที่ไหน ก็ไม่รู้นะ..! ก็ไม่ใช่ของเรานั่นเอง..ถ้าเป็นของเราแล้วจะอยู่กับเราตลอด จำได้แม่นยำ เราตื่นก็มีอยู่ เราหลับก็มีอยู่เราตายไปธรรมนั้นก็ตามไปกับจิตเราด้วยเสมอ..ก็เหมือนกับสภาวะปัจจุบัน ไหนใคร ลองบอกมาหน่อยซิว่า..วันนี้เป็นโชคของเรา..ไม่มีใข่ไหม?..ถ้าเป็นของเราละก็ มันต้องอยู่กับเรา ตลอดไป ถ้ากลางวันก็ต้องอยู่อย่างนี้ จะมืดค่ำไม่ได้ต้องอยู่กับเรา ฉะนั้นธรรมะก็เช่นนั้..ทุกวันนี้พวกเราชาวพุทธนักปฏิบัติเขาว่าอย่างนั้นนะ เที่ยววิ่งขอธรรมะแต่ไม่ ยอมปฏิบัติเลยสักที เหลาะ ๆ ..แหละๆ เดี๋ยวน้ำ เดี๋ยวแห้งไม่เอาจริงสักที...ระวังเน้อ.สะสมธรรมะมาก ไม่ดี พุงจะแตกเอา..! ต้องนำออกมาระบาย คือการพิจารณาแยกเหตุแยกผล ของธรรมะบ้าง เราเรียก ว่า..วิปัสสนาก็ได้..เอาลองดูซิ ความจริงธรรมะนั้นไม่มีใครเขาให้มากหรอก มันจะฟุ้งซ่าน บางทีเกิดลังเลสงสัย..ต้องแสดงเลย ความลังเลจึงจะหมด แล้วจะคลายสงสัยได้เด็ดขาดเลย...

ปัจจุบันองค์หลวงปู่อ่อนสา  สุขกาโร  ท่านอาพาธมาหลายปี  
ตอนนี้หลวงปู่ช่วยตัวเองทั้งที่การพูด การขบฉัน การเคลื่อนไหวไม่ได้
ท่านมีอายุก็ 94 ปี จะ 95 ก็เดือนกรกฎาคมปี 2552 นี้ครับ
ท่านพำนักอยู่ที่ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม บ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี



ชีวประวัติหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร(vcd)
http://audio.palungjit.com/showthread.php?t=642

..............................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20907

7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ภาพหลวงปู่อ่อนสา กับพระเถระผู้ใหญ่



หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ-หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร



หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร-หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ-หลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร

8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ซ้าย: หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม
วัดสามัคคีอุปถัมภ์ (ภูกระแต) บ้านภูกระแต ต.วิศิษฐ์ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย

กลาง: หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร
วัดประชาชุมพลพัฒนาราม บ้านหนองใหญ่ ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี

ขวา: หลวงปู่คำพอง ติสโส (มรณภาพแล้ว)
วัดถ้ำกกดู่ ต.โนนหวาย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี



ภาพนี้ในวันงานทำบุญครบรอบอายุวัฒนะมงคล ครบ 92 ปี หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร พร้อมยกฉัตรขึ้นสู่เจดีย์สุขโรเจดีย์ - และบรรจุพระธาตุพระบรมสารีริกธาตุ
ในวันเสาร์ - อาทิตย์ ที่ 8- 9 กรกฎาคม 2549
ณ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี

...........................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20907


9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-5 12:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้