ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม
»
~ หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม ~
1
2
/ 2 หน้า
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
เจ้าของ: kit007
~ หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม ~
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
11
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-5-6 15:51
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ประวัติหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร : กรรมประมาทพระอรหันต์
"ในคราหนึ่ง มีลูกศิษย์ทางภาคกลางได้นิมนต์หลวงปู่ไปทำบุญที่บ้านของเขาแถวภาคกลาง ในงานนี้เขาได้พระสงฆ์มาหลายรูป
ในคราวนั้นหลวงปู่ได้เดินทางไปถึงบ้านของโยมคนนั้นเป็นองค์แรก หลวงปู่ขึ้นไปนั่งบนอาสนะแรก เพราะท่านรู้ว่าพระที่นิมนต์มานั้น หลวงปู่ท่านมีพรรษาสูงสุด
...
หลวงปู่ท่านนั่งผ่อนได้ระยะหนึ่งพระในพื้นที่ ที่เขานิมนต์มาในงานนี้ก็มากันครบ และหนึ่งในนั้น ชื่อว่าหลวงพ่อพรหม เป็นพระที่มีชื่อเสียงมากในพื้นที่เขตนั้น
พระทุกองค์ก็เข้านั่งในอาสนะที่เขาเตรียมไว้ให้แต่เว้นไว้คือ อาสนะรอง เพื่อให้หลวงพ่อพรหมนั่ง แต่ปรากฏว่า หลวงพ่อพรหมนั้นไม่ยอมนั่ง กลับไปยืนจ้องหน้าหลวงปู่อ่อนสาอยู่ไม่ละวางสายตา แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไร หลวงพ่อพรหมยืนอยู่ระยะหนึ่ง
เมื่อหลวงปู่เห็นเช่นนั้น ท่านจึงเกิดความรำคาญ หลวงปู่จึงลุกขึ้นแล้วลงมานั่งที่ อาสนะรอง แล้วหลวงพ่อพรหม ก็ได้ไปนั่งอาสนะแรก สมดังตั้งใจ
เมื่อพระสงฆ์ได้เจริญพระพุทธมนต์อยู่นั้น ปรากฏว่าหลวงพ่อพรหมได้เกิดอาการ ไอ และ สำรักเป็นเลือดออกมา แล้วก็เป็นลมสลบไป ทางญาติโยมเขาก็นำส่งโรงพยาบาล แล้วหลวงปู่ก็นำเจริญพุทธมนต์ต่อจนเรียบร้อย จนงานเสร็จสิ้น
ประมาณตอนบ่ายโมง หลวงปู่จะเดินทางกลับอุดร ท่านก็ทราบว่าหลวงพ่อพรหมนั้น ได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่วัดของท่านแล้ว หลวงปู่จึงมีดำหริที่อยากจะไปเยียมหลวงพ่อพรหมบ้าง ท่านจึงให้คนขับรถพาไปที่วัดของหลวงพ่อพรหม
พอรถไปถึงวัด โดยหลวงปู่ยังไม่ทันลงจากรถ หลวงพ่อพรหมได้วิ่งลงมาจากกุฏิของท่านมาที่รถหลวงปู่ แล้วกราบแทบเท้าขอขมาโทษอันได้ล่วงเกินหลวงปู่ตอนที่ไปเจริญพระพุทธมนต์ในหมู่บ้าน
หลวงพ่อพรหม นิมนต์หลวงปู่ขึ้นไปบนกุฏิ แล้วจัดหาน้ำท่ามาต้อนรับตามธรรมเนียมเป็นอย่างดี หลวงปู่กล่าวว่าท่านมิได้ถือโทษโกรธเคืองหลวงพ่อพรหมแต่ประการใด หากแต่พระวินัยนั้นเป็นสิ่งต้องรักษา แล้วท่านก็กล่าวอะไรอีกนิดหน่อย แล้วหลวงปู่ก็ขอตัวเดินทางกลับอุดร
สองสามวันต่อมาหลวงปู่ได้ข่าวว่าหลวงพ่อพรหมนั้น ได้มรณภาพเสียแล้ว แล้วมีลูกศฺาย์มาเล่าให้ฟังว่า ก่อนหลวงพ่อพรหมจะสิ้นลมนั้น ได้สั่งเสียว่า
"กรรมของเราคือกรรมได้ประมาทพระอรหันต์ หลวงปู่อ่อนสาท่านเป็นพระอรหันต์นะพวกเธอทั้งหลายจงอย่าไปประมาทท่านหรือพระอรหันต์องค์อื่นๆ เพราะมันเป็นกรรมหนัก หากเราผู้เป็นอาจารย์หลวงพวกเธอทั้งหลายสิ้นแล้ว ให้พากันไปพึ่งหลวงปู่อ่อนสานะ " หลังจากนั้น หลวงพ่อพรหมก็สิ้นลม มรณะภาพไป...
**หมายเหตุ หลวงพ่อพรหมองค์นี้ ในหนังสือมิได้กล่าวว่าเป็น พระสงฆ์องค์ใด อยู่แห่งหนตำบลไหน หากแต่กล่าวว่าอยู่ภาคกลาง และผู้เขียน มิได้หมายเพื่อลบหลู่ดูหมิ่นท่านแต่ประการใด หากแต่เพื่อถ่ายทอดให้เป็คติเตือนใจแก่ผู้ต้องการธรรมะเท่านั้น หรือหากได้ล่วงเกินท่าเหล่านั้นไป ก็ขมาโทษไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
จากหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร
วัดประชาชุมพลพัฒนาราม อ.เมือง จ.อุดรธานี
ที่มา
https://www.facebook.com/permali ... ;id=262402077197042
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
12
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-5-6 15:58
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มรณภาพ
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 09.00 น.คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร พระเกจิดังสายหลวงปู่มั่น ที่ได้ละสังขาร เมื่อเวลา 16.17 น.วันที่ 5 ส.ค.ที่กุฎิกลางน้ำ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม บ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ. อุดรธานี รวมสิริอายุได้ 95 ปี 75 พรรษา
ได้นำร่างของท่านมาตั้งที่ศาลาใหญ่ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม
เพื่อรอในเวลา 16.00 น. จะจัดให้มีพิธีรดน้ำศพ โดยนายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.อุดรธานี จะเป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมีพระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนททีโป)วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมืองอุดรธานี จะเป็นประธานฝ่ายสงฆ์
หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร เกิดในสกุล
“ลุนราศรี” มีนามเดิมว่า นายอ่อนสา เมืองศรีจันทร์ เกิด ณ บ้านโนนทัน ตำบลบ้านจั่น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2457 ปีขาล โยมบิดาชื่อนายมา ลุนราศรี โยมมารดาชื่อนางโม้ ลุนราศรี (ต่อมาภายหลังผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้นได้เปลี่ยนนามสกุลให้โยมบิดาใหม่เป็น “เมืองศรีจันทร์”) โยมบิดามีอาชีพเกษตรกรมีพี่น้องทั้งหมด 10 โดยเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน ต่อมาบิดาเสียชีวิตมารดาได้สมรสใหม่มีพี่น้องต่างบิดาอีก 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน หลวงปู่อ่อนสาเป็นคนโต
เนื่องจากหลวงปู่อ่อนสา เป็นพี่คนโตต้องคอยดูแลน้อง ๆ ถึง 9
คน ครอบครัวของหลวงปู่จึงมีโอกาสศึกษาจนจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที 4 จากนั้นได้ออกมาช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาและดูแลน้องๆ เมื่ออายุได้ 21 ปี ท่านได้ไปเกณฑ์ทหารแต่ไม่ติดจึงได้ขอโยมบิดา- มาดาไปบวช โดยได้อุปสมบท ณ วัดโยธานิมิต ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานีเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2478 เวลา 13.47 น. โดยมีพระธรรมเจดีย์ ( จูม พันธุโล ) เป็นประอุปัชฌาย์ มีพระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระกรรมวาจารย์ พระครูศาสนูปกรณ์ ( อ่อนตา เขมงกโร ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า สุจกาโร ภิกขุ
หลังจากออกบวชแล้ว หลวงปู่ได้อยู่รับใช้ครูบาอาจารย์เรื่อยมา หลวงปู่เล่าว่า การบวชนั้นแรกเริ่มคิดบวชตามประเพณี บวชให้พ่อแม่ เมื่อหมดบุญวาสนา ก็ว่าจะสึก แต่เมื่อบวชแล้วเข้ามาอยู่ในสมณเพศแล้ว จิตใจท่านไม่วิตกกังวล กลับมีความศรัทธาเพิ่มพูนในพระพุทธศาสนา ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น มีความสนใจในหลักธรรมคำสอน จึงเข้าศึกษาคำสอน จึงเข้าศึกษาในพระปริยัติธรรมและสอบได้นักธรรมชั้นเอกในพรรษาที่ 5
ต่อมาหลวงปู่ได้ออกธุดงค์ไปอำเภอศรีสงคราม
จังหวัดนครพนม เพื่อหาที่สัปปายะบำเพ็ญภาวนาและบังเอิญท่านได้พบกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งเป็นญาติทางมารดา จึงได้พากันไปภาวนาที่ภูลังกาและออกธุดงค์ด้วยกัน ต่อมาหลวงปู่ได้มีโอกาสกราบนมัสการพระอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และได้เข้าจำพรรษากับพระอาจารย์หลวงปู่มั่น หลังจากที่หลวงปู่อ่อนสา ได้บำเพ็ญภาวนาพอสมควรแล้วท่านได้ออกธุดงค์ไปทั่วภาคอีสาน และธุดงค์ขึ้นไปทางภาคเหนือ หลังจากที่ได้บำเพ็ญเพียรภาวนาที่ภาคเหนือพอสมควรแล้ว ท่านได้ย้อนกลับมายังภาคอีสาน แวะเข้าป่าช้าปักกรดภาวนาเรื่อยมาที่ที่สงบวิเวกไม่มีคนรบกวน
หลวงปู่อ่อนสา ได้มีโอกาสติดตามหลวงปู่มั่นธุดงค์ไปวัดถ้ำกลองเพลด้วย การที่ท่านได้ใกล้ชิดกับครูบาอาจารย์ในบางวาระ ทำให้ท่านได้รับการถ่ายทอด ข้ออรรถข้อธรรมอันเป็นประโยชน์ต่อการเจริญสัมมาสมาธิ และต่อมาได้จำพรรษากับหลวงปู่มั่นที่บ้านหนองผือนาใน ประมาณ 5 พรรษา ซึ่งหลวงปู่กล่าวว่า ได้ธรรมะมากมาย สามารถยกวิถีชีวิตให้บริสุทธิ์ได้ยิ่งขึ้น มีการสำรวมระวัง เรียกว่ามีกฎระเบียบ โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อครูอาจารย์ การรักษากฎข้อบังคับพระกัมมัฏฐาน ซึ่งต้องปฏิบัติในรูปแบบที่ดีงามทุกข้อ นอกจากนี้หลวงปู่ยังได้อยู่ปฏิบัติกับครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน หลายวาระ อาทิเช่น หลวงปู่สิงห์ ขันฺติยาคโม หลวงปู่จันทร์ เขมปัตฺโต หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ และหลวงปู่ฟั่น อาจารโร
หลังจากหลวงปู่มั่นได้มรณภาพแล้ว หลวงปู่อ่อนสา ได้ออกจาริกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อภาวนาบ้าง อบรมสั่งสอนประชาชนผู้สนใจศรัทธาบ้าง ท่านได้จำพรรษาหลายแห่งที่วัดป่าบ้านตาด บ้านดงหม้อตาล บ้านกุดบาก บ้านหนองผือนาใน วัดป่าอุดมสมพร วัดข้าวสาร วัดป่าสีทน
ท้ายที่สุดท่านได้มาจำพรรษา
ณ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม บ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี อันเป็นแผ่นดินเกิดของท่านจนถึงปัจจุบันและได้ละสังขารที่วัดนี้
พระนครินทร์
ปริมุตโต พระดูแลหลวงปู่ฯ เปิดเผยว่า หลวงปู่มีอาการอาพาตหนักตั้งแต่ปี
2546 โดยมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบและเข้ารับการผ่าตัดเมือปี 2547
ที่ ร.พ.เอกอุดร หลังจากเข้ารับการผ่าตัดหลวงปู่ก็มีอาการอัมพาตไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จึงเข้ารับการรักษาที่ ร.พ.เอกอุดรมาตลอดในระยะเวลา 2-3 ปี หลังการผ่าตัด จากนั้นจึงย้ายมารักษาตัวต่อที่ ร.พ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคมได้ประมาณ 1 ปี เศษ แต่อาการไม่ดีขึ้น
พระนครินทร์
กล่าวต่อว่า คณะลูกศิษย์และญาติของหลวงปู่ได้ทำการปรึกษาหารือกันกับแพทย์ว่า ระยะเวลาที่รักษาตัวหลวงปู่รักษามานานแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้นซึ่งอาจจะละสังขารที่โรงพยาบาลลูกศิษย์และญาติจึงได้มีความเห็นตรงกันว่าอยากจะให้หลวงปู่ละสังขารที่วัด จึงได้นำตัวหลวงปู่มายังวัดเพื่อละสังขาร และในเวลา 16.17 น. หลวงปู่ก็ได้ละสังขาร
พระอธิการสุพิศ สุนทโร เจ้าอาวาสวัดป่าสีทน ซึ่งได้เป็นศิษย์คนหนึ่งของหลวงปู่อ่อนสา เปิดเผยว่า สำหรับศพของหลวงปู่อ่อนสา นั้น ในขณะนี้ก็จะได้ทำการประชุมกับคณะศิษย์ของหลวงปู่ก่อน และจากที่เมื่อเย็นวานนี้หลังจากหลวงปู่ฯ ได้ละสังขารแล้วก็ได้เข้าไปเรียนให้หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนทราบแล้ว ซึ่งหลวงตาท่านก็บอกว่า ก็อยากจะเก็บศพของท่านไว้ 30 วัน ก็ควรจะเผาในวันที่ 5 ก.ย.ซึ่งเป็นวันเสาร์ แต่ก็อย่างไรก็ให้ปรึกษากับลูกศิษย์ของท่านดูก่อน ส่วนพิธีรดน้ำศพที่ท่านหลวงตาฯ จะเป็นฝ่ายสงฆ์นั้น ขณะนี้ท่านอาพาตอยู่เนื่องจากเจ็บที่นิ้วเท้า ก็จะได้นิมนต์พระผู้ใหญ่ไว้ 2 รูปคือ พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนททีโป)วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมืองอุดรธานี และพระราชญาณวิสุทธิโสภณ หรือหลวงปู่ท่อน ญาณทโร วัดป่าศรีอภัยวัลย์ อ.เมือง จ.เลย มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์แทน
ที่มา : ผสข.อาสาทีนิวส์วิทยุประชาชนอุดรธานี
...............................................................................................
ที่มา
http://www.tnewsnetwork.com/Brow ... amp;article_id=2032
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
1
2
/ 2 หน้า
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...