ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
ไม่หมั่นเจริญสมาธิภาวนา...สมาธิท่านก็หมดไปเอง (หลวงพ่อจรัญ)
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 1573
ตอบกลับ: 0
ไม่หมั่นเจริญสมาธิภาวนา...สมาธิท่านก็หมดไปเอง (หลวงพ่อจรัญ)
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-4-27 07:37
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
ถ้าท่านตั้งใจอย่างนี้
“เจริญสมาธิภาวนา”
วงจรกระแสไฟฟ้าท่านก็จะเข้าสู่ล็อค
ท่านจะเก็บไฟในหม้อแบตเตอรี่ไว้ได้
รักษาหม้อแบตเตอรี่ไว้ดีด้วย หมั่นเติมน้ำกลั่นรถท่าน
ท่านมีรถหรือขายรถก็ตามต้องรักษารถ
เอารถมาจอดทิ้งไว้ไม่ใช้ จะสตาร์ทไม่ติด
รับรองรถท่านเสียแน่ นี่ยกตัวอย่างให้เห็น
เหมือนเรามีสมาธิไม่หมั่นทำ ไม่หมั่นเจริญสมาธิ
สมาธิท่านก็หมดไปเอง
รับรองสมาธิท่านก็ต้องเสื่อมไปตามสภาพ
ไม่ใช่ว่าเรามานั่งกรรมฐานแล้วกลับไปเลิกเลย
ไม่เจริญสมาธิภาวนา สมาธิยิ่งทำดียิ่งมีปัญญา
สามารถจะแก้ไขปัญหาได้
ขอฝากท่านสาธุชนไว้ กระแสไฟมันหมดง่ายเหลือเกิน
จิตมันตก ไปเชื่อคนโน้นคนนี้
อย่าไปเชื่องมงาย อย่าไปเชื่อหมอดู
เราก็เหมือนหม้อแบตเตอรี่หมดไฟ
ระวังนะ หม้อแบตเตอรี่หมดไฟนี้จะไปไม่รอด
จะไม่ปลอดภัย จะมีแต่เสนียดจัญไร
จิตใจก็ตก จิตใจก็ไม่สบาย ทำอะไรไม่ได้
มันเป็นเสนียด มันไม่มีปัญญา ไม่รอบรู้ในกองการสังขาร
คิดแล้วคิดเล่าเฝ้าแต่คิด
เราจะไม่สามารถประดิษฐ์สร้างสรรค์สิ่งใดได้
“การเจริญกรรมฐาน”
เป็นการรวบรวมจิตตั้งสติปัญญา
เจริญสติปัฏฐาน ๔ กายานุปัสสนา ตัวนี้
ท่านจะเดิน จะยืน นั่ง นอน เหลียวซ้ายแลขวา
เอาสติจับเข้าไป ตั้งเข้าไว้ตลอดเหมือนเติมน้ำกลั่น
น้ำกลั่นอย่าให้แห้งเหมือนจิตใจ
ท่านจะไม่แล้งน้ำใจ ก็จะมีแต่อัธยาศัย
มีแต่น้ำใจโอบอ้อมอารีเป็นต้น นี่แหละกระแสไฟ
มันมีแสงสว่างเท่าไรเกิดเมตตามากเท่านั้น
ถ้าท่านมืดท่านจะมีแต่อกุศล จะไม่ได้ผลงานแต่ประการใด
เมตตาจะไม่มีกับคนที่ไร้สาระ คือ ขาดกระแสไฟ
คนที่ไม่มีกระแสไฟน่ะคนโง่ คนโมหะมันต้องคลำไป
มองไม่เห็นของจริง มองไม่เห็นของที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิต
แก่ครอบครัวแต่ประการใดเลย
กลายเป็นคนไร้สาระ ไม่มีสติปัญญาแต่ประการใด
การที่มีกระแสไฟทำให้เกิดแสงสว่าง บัดนี้ทำให้มันมืดแล้ว
เราก็ใช้กระแสไฟฟ้า ท่านมีรถแต่ขาดไฟ หน้ารถก็ไม่มีไฟ
ท้ายรถก็ไม่มี แล้วท่านจะวิ่งไปได้หรือ วิ่งไปไม่ได้หรอก
เหมือนตัวเราก็เช่นเดียวกัน ขาดแสงสว่าง ก็คือ “ขาดปัญญา”
คนเราขาดปัญญาแล้วจิตมันตก ไม่มีโอกาสตะเกียกตะกาย
ขยันหมั่นเพียรได้ คนที่ขาดแสงสว่างขาดปัญญา
ส่วนมากจะขี้เกียจ ไม่อยากจะเอางานเอาการ
ไม่อยากจะรับผิดชอบแต่ประการใด ขอฝากไว้อย่างนี้เป็นต้น
ที่มา...
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11260
..........................................................................................
ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=47515
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...