ตอนเช้ามืดเวลาชาวเมืองเดินออกนอกเมืองทำธุรกิจการงาน นางจิญจาก็จะเดินเข้าเมืองเมื่อเขาถามว่า “นางอยู่ที่ไหน” ก็ตอบว่า “เรื่องของข้า” เวลาค่ำ เมื่อประชาชนต่างพากันกลับเข้าเมือง นางก็เดินออกนอกเมือง สวนทางกับพวกเขา เมื่อพวกเขาถามว่า “นางจะไปไหน” ก็ตอบว่า “เรื่องของข้า ทำอย่างนี้สักระยะหนึ่ง เมื่อถูกถามบ่อย จึงตอบว่า “ฉันอยู่วัดจ๊ะ” “อยู่วัด น่ะ อยู่ส่วนไหนของวัด” ชาวบ้านซักเพราะรู้ว่าพระเชตะวันนั้นเป็นที่อยู่ของสงฆ์ล้วน “ก็พระพุทธเจ้าของพวกท่าน อยู่ที่ไหน ก็นั่นแหละจ๊ะ” นางตอบยิ้มละไม
นางบอกว่า ข้านะหรือ ชื่อจิญจิ สำนักนิ เนานิเวศ เขตสถาน
ร่วมกุฎิ์กับ สัมพุทธ วิสุทธิญาณ
โดยสถาน ภริยา ตถาคต คนเราลงหน้าด้านไม่กลัวบาปแล้ว ย่อมทำได้ทั้งนั้น ดูนางจิญจานี้เป็นตัวอย่างแผนการของนางดำเนินไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่สร้างความสงสัยให้เกิดขึ้นกับประชาชนทีละนิดๆ ค่อยแย้มออกมา จนกระทั้งประกาศชัดเจนว่า ฉันนี่แหละคือคู่ชีวิตของศาสดาของพวกท่านล่ะ เพื่อให้สมเหตุสมผลยิ่งขึ้นเธอก็หาไม้กลมๆ มาผูกท้องเอาผ้าพันใส่ชุดทรงกุมารให้คนรู้ว่ามีครรภ์ วันหนึ่งขณะพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมท่ามกลางประชาชนจำนวนมาก นางจิญจามาณวิกาก็เดินอุ้ยอ้ายฝ่าฝูงชนเข้ามาทีเดียว “เสด็จพี่ ดีแต่เทศนาโปรดคนอื่น ทีภรรยาท้องแก่ จวนคลอดแล้วไม่เห็นไยดีเลย จะฝากท่านอนาถบิณฑิกะ หรือคุณแม้ถ้วน เอ๊ย นางวิสาขาช่วยดูแล หรือจะทำอย่างไร ก็รีบๆ จัดการเสียเถิดค่ะ” เอาละซิครับ พุทธบริษัทตกตะลึงจังงังดุจดังผีหลอกกลางวันแสกๆ พวกปุถุชนใจเบาชักไขว้เขวแล้วสิ ส่วนพวกบัณฑิตใจหนักแน่นใคร่ครวญด้วยเหตุด้วยผลแล้วรู้ทันทีว่าเรื่องนี้น่าจะมีเลศนัยอะไรแฝงอยู่ จึงไม่ปลงใจเชื่อ พระพุทธองค์ประทับนั่งสงบ ตรัสเบาๆ “น้องหญิง ที่เจ้าพูดนั้นจริงหรือเท็จ เราสองคนเท่านั้นที่รู้” “ใช่สิ ๆ เรื่องอย่างนี้จะให้ใครเขารู้ได้ยังไง” นางเสริมทันที “แล้วเรื่องสถานที่คลอดจะว่ายังไง จะให้ใครช่วยเป็นธุระจัดการให้เล่า เสด็จพี่” นางรบเร้า พระพุทะเจ้าทรงแสดงธรรมต่อ ดังหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ นางจิญจมาณวิกาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เต้นเร่าๆ อย่างลืมตัว ว่ากันว่าขณะนั้นพระอินทร์จอมเทพ ทนดูพฤติกรรมต่ำช้าของนางไม่ได้ จึงบันดาลให้ท่อนไม้ที่ผูกท้องอยู่หลุดลงมา แผนการชั่วร้ายก็เลยแตก ถูกประชาชนไล่ออก จากพระเชตวัน แผ่นดินก็ดูเหมือนจะทนไม่ได้เช่นกัน จึงสูบร่างนางหายไปต่อหน้าต่อตาประชาชนจำนวนมาก ตรงนี้ถ้าแปลความธรรมดาๆ ก็คือนางถูกประชาชนไล่กระทืบตายคาเท้านั่นเองมนุษย์อุบาทว์จัญไรอย่างนี้ เทวดาฟ้าดินไม่ยอมให้ตายดีดอกครับ หลังจากสาวิกาคนสวยตายไปแล้ว พวกอัญเดียรถีย์ก็ไม่เข็ด วางแผนกำจัดพระพุทะองค์อีก โดยจ้างนักเลงฆ่าสาวิกาของพวกตนชื่อนางสุนทรี แล้วเอาศพไปทิ้งไว้หน้าพระเชตวัน ทำนองให้เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าและสาวกเป็นคนฆ่า
|