ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
เห็นธรรมดับทุกข์
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2069
ตอบกลับ: 1
เห็นธรรมดับทุกข์
[คัดลอกลิงก์]
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-3-19 09:56
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
เห็นธรรมดับทุกข์
วันนี้เป็นวันเพ็ญเดือนห้าญาติโยมได้พากันมาฟังธรรมมากพอควรการฟังธรรมนั้นได้ผลก็มีไม่ได้ผลก็มีได้ผลลึกซึ้งก็มีได้ผลเผินๆก็มีทั้งนี้ก็เพราะเครื่องรับที่วางไว้เหมาะและไม่เหมาะต่างกัน
การฟังธรรมนั้นทำใจให้เป็นสมาธิก็พอไม่ต้องพนมมือไหว้ก็ได้แล้วแต่เหตุการณ์เพราะจะเป็นการบังคับร่างกายจนเกินไปอาจจะเกิดผลเสียทางการฟังไปก็ได้และการฟังธรรมนั้นไม่จำเป็นจะต้องจำให้ได้หมดบางคนคิดว่าฟังแล้วก็ลืมจำอะไรไม่ได้ข้อนี้ไม่สำคัญอยู่ที่ตั้งใจฟังให้เสียงนั้นผ่านไปๆด้วยความสงบเหมือนกับผ้าที่เราพับไว้เป็นชั้นๆถึงคราวที่เราจะคลี่ออกมาการฟังธรรมก็เหมือนกันมันจะค่อยซึมซาบเข้าไปในความทรงจำทีละน้อยเพราะมีสติสันติพุทโธความระลึกได้สงบใจและตื่นตัวรู้ตัวอยู่ในขณะที่ฟังธรรมทั้งสามนี้มีอยู่พร้อมกันจะกำจัดนิวรณ์ได้
เมื่อมีความสงบใจความรู้จะเกิดขึ้นเรื่องต่างๆหรือเหตุการณ์ที่เราเคยได้ยินได้ฟังมาและความรู้บางอย่างจะเกิดขึ้นมาเองการฟังธรรมด้วยดีจะเกิดเป็นไตรสิกขาขึ้นดังนี้
การสำรวมระวังกายวาจาใจเรียกว่า
ศีล
ใจสงบเรียกว่า
สมาธิ
อาการที่รู้ทันเมื่อมีอารมณ์มากระทบรู้ตามความเป็นจริงเรียกว่า
ปัญญา
อันธรรมดาเมื่อเราเก็บสิ่งของเช่นเพชรนิลจินดาไว้เมื่อมีความกังวลใจมากจิตใจเกิดความวุ่นวายจะหาของนั้นไม่พบคิดไม่ออกว่าเก็บไว้ที่ไหนความทุกข์จะเกิดขึ้นแต่ถ้าเราทำใจให้หายกังวลตัดใจได้ว่าหายก็หายไปถ้ามันไม่ใช่ของเราก็เป็นของยากทำใจให้สบายและสงบลงก็จะนึกออกเองได้บ้างของนั้นที่เราเก็บไว้ในที่นั้นๆเมื่อเรานึกได้รู้ได้ว่าอยู่ในที่นั้นๆทั้งๆที่เรายังไม่ได้ไปเอาใจเราก็สบายเพราะหมดความกังวลนั้นเองไม่ว่าเขาผู้นั้นจะยืนเดิน นั่ง นอนก็จะมีความสุขใจ
ผู้บรรลุธรรมนั้นเหมือนผู้ไปถึงบ้านการพูดธรรมเรียนธรรมนั้นไม่ใช่ผู้ถึงธรรมส่วนผู้ถึงธรรมหรือใจเป็นธรรมย่อมต่างจากผู้พูดผู้เรียนธรรมนั้นๆ
พระพุทธองค์ทรงทำกิจเกี่ยวกับการสอนสัตว์โลกสองอย่างคือ
เบื้องแรกจัดโลกให้สะอาดและมีระเบียบด้วย
ทานศีล
ขั้นที่สองขนนำสัตว์ออกจากโลก(ออกจากความโลภโกรธหลง)ให้ได้พบความสะอาดสงบสว่างด้วยการ
ภาวนา
ในโลกนี้มีแต่ความทุกข์แม้จะอยู่ในบ้านมันก็วุ่นวายอยู่เรื่อยๆพระพุทธองค์จึงตรัสว่า"ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้นทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไปนอกจากทุกข์หาอะไรเกิดอะไรดับมิได้นอกจากทุกข์”
การเห็นธรรมคือการเห็นความดับทุกข์การดูโลกก็คือการดูท่อนไม้ต้องดูให้รู้ปลายท่อนไม้ทั้งสองข้างเมื่อเรารู้ที่สุดของท่อนไม้ท่อนนั้นทั้งสองข้างแล้วเราจะหาท่ามกลางของท่อนไม้นั้นได้ด้วยการวัดจากปลายทั้งสองข้างเข้ามากึ่งกลางก็จะปรากฏเองกึ่งกลางของท่อนไม้ไหนๆก็มีอยู่แล้วในท่อนไม้นั้นเราจะไปหาที่อื่นย่อมไม่พบ
ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนก็เหมือนกันกุศลธรรมธรรมอันขาวได้แก่บุญอกุศลธรรมคือธรรมอันดำได้แก่บาปอัพยากตธรรมคือธรรมไม่ดำไม่ขาวได้แก่พระนิพพานคือธรรมเป็นกลางๆ
ความดีใจความเสียใจคือปลายทั้งสองข้างล้วนแต่เป็นทุกข์ให้เราพิจารณารู้เท่าทันอย่าไปติดปลายทั้งสองข้างความทุกข์ก็จะลดลงได้เมื่อเรารู้ศูนย์กลางของมันก็ต้องทิ้งปลายทั้งสองข้างเสียเหมือนคนหาบของต้องหาบกึ่งกลางของไม้คานได้เองถ้าปล่อยให้หาบยื่นไปข้างหน้ามากเกินไปหรือยื่นไปข้างหลังมากเกินไปก็จะหาบของไม่ได้แต่ถ้าเลื่อนไปเลื่อนมาหาศูนย์กลางได้แล้วก็จะหาบไปได้อย่างสบาย
จิตใจของเราก็เหมือนกันถ้าปล่อยให้อารมณ์ชอบใจหรือไม่ชอบใจเข้าสิงสู่มันก็เกิดทุกข์เมื่อเราดีใจก็ให้เหลือเผื่อแผ่แขกที่จะมาใหม่คือความเสียใจบ้างถ้าเสียใจก็ให้เหลือเผื่อแผ่แขกที่จะมาคือความดีใจบ้างอย่าเห็นแก่ปลายข้างเดียวมันจะเกิดความทุกข์เราต้องรู้เท่าทันในความเห็นที่ถูกต้องในรูปนาม (ร่างกายจิตใจ) พิจารณาจนรู้ปลายทั้งสองจนแน่ชัดแล้วเราจะรู้ตรงกลางได้เอง
ความเห็นแก่ตัวไม่อยากตายให้คนอื่นตายร้อนก็ไม่อยากร้อนให้คนอื่นร้อนเราอยากได้สุขคนอื่นจะทุกข์อย่างไรก็ช่างถ้าเจ็บให้คนอื่นเจ็บเราเองไม่อยากเจ็บเขาเรียกว่าคนเห็นปลายข้างเดียวมีดีติดดีมีชั่วติดชั่วจึงต้องเป็นทุกข์อยู่ร่ำไปฉะนั้นจำเป็นจะต้องศึกษาเพื่อให้เข้าถึงรู้ทันมันจะยืนเดินนอนนั่งหรือจะอยู่ที่ไหนๆก็มีสติพิจารณาอยู่อย่างนี้ว่าได้ปฏิบัติตามธรรมนั้นเช่นเรารักลูกรักจนหมด มีความรักเท่าไรมอบให้หมดรักผู้อื่นรักคนอื่นก็เหมือนกันเขาเรียกว่าคนเห็นปลายข้างเดียวไม่รู้จักอนิจจังทุกขังอนัตตาเมื่อเรารักก็เหลือไว้เผื่อชังบ้างเมื่อชังก็เหลือไว้เผื่อรักบ้างเราต้องรู้ทันอารมณ์อยู่เหนืออารมณ์คนหลงอารมณ์ก็คือคนหลงโลกคนหลงโลกก็คือคนหลงอารมณ์พระพุทธองค์ที่ได้รับการยกย่องจากพุทธบริษัทว่าเป็นโลกวิทูผู้รู้แจ้งโลกก็เพราะพระพุทธองค์รู้อย่างนี้เรามาฟังธรรมก็เพื่อให้ตัวเราเป็นธรรมมีธรรมอยู่ในใจไม่หลงโลกหลงอารมณ์เป็นผู้เข้าถึงธรรมจึงจะมีความสุขความสบาย
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
kit007
kit007
ออฟไลน์
เครดิต
32163
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-3-19 09:57
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อันผลไม้มีรสหวานภูเขามีป่าไม้เขียวชะอุ่มเกิดความชุ่มชื่นเยือกเย็น ย่อมเป็นที่พึ่งอาศัยของสัตว์และมนุษย์พระอริยสงฆ์มีความดีทางกายวาจา ใจ ตรง และตรงต่อศีลสมาธิ ปัญญาเมื่อเราปฏิบัติดีคือชอบกาย ชอบวาจาชอบศีล สมาธิปัญญาเมื่อเราปฏิบัติตามก็ได้ชื่อว่าถึงพระสงฆ์แน่นอน
เราเกิดมาเห็นเขาทำเราก็ทำไม่รู้จักผิดถูกรับศีลก็ว่าตามพระบอกไม่ทราบว่าคืออะไรเมื่อก่อนนี้พวกเราชาวบ้านพากันทำกระทงหน้าวัวเอาข้าวดำ ข้าวแดงกล้วย อ้อยมาทำพิธีส่งผีป่าหนีแต่ผีบ้านไม่มีส่งสักทีเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็สาธุ! ขอให้คุณศีลคุณทานช่วยคนเอากายเข้าวัดแม้จะนั่งใกล้พระแต่จิตใจอยู่ไกลทำอย่างนี้สัตว์ต่างๆหมู หมา เป็ดไก่ มันก็เอากายเข้ามาได้มันจะไม่เข้าถึงธรรมเหมือนกันหรือ
การเข้าวัดมาหาพระแต่อย่าติดพระควรเข้าถึงธรรมซึ่งเป็นหลักของใจเมื่อมีศีลชื่อว่าเป็นคนดีพวกวัวควายเราหัดได้ไม่นานก็ใช้งานได้คนเราหัดตั้งนานยังใช้ไม่ค่อยจะได้ยังเป็นสัตว์อยู่เพราะมันหนามากเราต้องพิจารณาให้ลึกๆการรักษาศีลฟังธรรม จะทำให้เป็นผู้พบความสุขแต่เราเห็นว่ามันยากทำตามก็ยากเพราะเรายังไม่พร้อมพระให้บุญขณะที่เรากำลังเป็นๆมีชีวิตอยู่ยังไม่รับคอยจะรับและเห็นว่าเหมาะเวลาตายแล้วเพราะเรายังไม่เข้าใจลึกซึ้งยังหลงของที่ยังมีอยู่
วัวควายอ่านหนังสือไม่ออกก็น่าให้อภัยเป็นพวกอบายภูมิต่ำๆต้องพูดกันด้วยไม้ด้วยแส้ ต้องตีต้องเฆี่ยนพระพุทธองค์สอนศีลธรรมไม่ได้สอนแก่สัตว์เดรัจฉานท่านสอนสัตว์มนุษย์เรานี่เองเราได้เกิดมาเป็นมนุษย์นึกว่าเป็นของง่ายคิดว่าเป็นของง่ายคิดว่าตนเองจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์เสมอไปเพราะความหลงคนหนุ่มคนสาวยิ่งหลงในรูปเสียงกลิ่นรสอยู่มากวันหนึ่งๆต้องส่องกระจกดูหลายครั้งเพราะนึกว่าตนเองยังสวยแต่หารู้ไม่ว่าร่างกายมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวินาที
การเข้าถึงธรรมนั้นย่อมทำให้กายวาจา ใจ เป็นสุขสบายเราไม่ทำอันตรายเขาเขาก็ไม่ทำอันตรายเราคนอื่นๆก็ไม่ทำอันตรายแก่กันและกันโลกนี้ยิ่งมีความสุขเพราะไม่เบียดเบียนกันแต่เราไม่เห็นตามความเป็นจริงของไม่ดีก็ว่าดีของไม่งามก็ว่างามของสั้นก็ว่าของยาวของไม่ยั่งยืนก็ว่ายั่งยืนผู้สอนต้องหาอุบายมาสอนจนเหนื่อยอ่อน
เราเกิดมาแล้วต้องพิจารณาให้มากๆเห็นเขาทำนาบนดินตัวเองก็คิดว่าจะทำได้เขาทำไร่บนดินก็เช่นกันแต่ว่าดินนั้นมันต่างกันที่ดินเรากับที่ดินเขาที่ทำไร่ย่อมมีลักษณะแตกต่างกันผู้จะทำต้องเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดินนี้แต่ก่อนเราทำบุญอุทิศนิยมทำต้นดอกผึ้งทำแล้วต้องมีของเสมอกันมีสุราอาหารและของที่ต้องผลาญชีวิตสัตว์อื่นๆทำแล้วคิดว่าจะได้บุญเหมือนลิงถวายรวงผึ้งแก่พระพุทธเจ้าแต่ลิงป่ากับลิงบ้านทำบุญต่างกันตัวหนึ่งไม่ได้ฆ่าเอาเนื้อมาทำบุญแต่พวกหนึ่งฆ่าเขาเอามาทำบุญมันจึงมีผลต่างกันลิงป่าทำทานแล้วไปสวรรค์แต่ลิงบ้านทำแล้วไปนรกเพราะความหลงเข้าใจผิด
การพิจารณาร่างกายพิจารณาถึงความตายจะเป็นการผ่อนคลายความโลภความโกรธและความหลงลงได้บ้างเพราะเรากลัวตายจึงไม่ค่อยพิจารณากันถ้าใครพูดถึงความตายก็ห้ามไว้ฉะนั้นพวกเราจึงพากันเข้าแถวเดียวกันตายอยู่อย่างนี้หลายพันชาติ
ธรรมะเป็นของเยือกเย็นทำใจให้สงบส่วนเงินทองข้าวของเป็นของร้อนมีแล้วก็อยากซื้อสิ่งนั้นสิ่งนี้ทำใจให้เกิดความวุ่นวายมีทุกข์แต่ศีลธรรมนำโลกให้สะอาดเบา สบาย ขนสัตว์ออกจากเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์ศีลคือความสะอาดธรรมะ คือการขนออกจากของสกปรกเพราะตามธรรมดาเราเมื่อดีใจก็คอยความเสียใจตามมาเสียใจก็คอยความดีใจตามมามันกลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้
เราเกิดมาแม้ยังหนุ่มสาวก็อย่าประมาทคิดว่าตนยังไม่แก่ควรพิจารณาถึงความตายเอาไว้บ้างความจริงแก่มาตั้งแต่เราเกิดทีแรกเหมือนกับคนหิวกินอาหารมันก็เริ่มอิ่มมาตั้งแต่คำแรกนั่นแหละแต่คนมีความหิวมากกินด้วยความโลภจึงมองไม่เห็นคิดว่าตนยังไม่อิ่มเช่นคนมีผมแซมขาวปนดำใกล้ความตายเข้าไปทุกวันเหมือนกับเรือที่จวนจะล่มสู่ก้นแม่น้ำนั่นเองไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ตายทั้งนั้นเป็นคนใกล้ความเป็นเทวดาหรือเปล่า?เราพิจารณาบ่อยๆจะเกิดความรู้จะทำให้ตนมีความสุขความสบายปราศจากความเดือดร้อนทั้งกายและใจ
ได้แสดงธรรมมาพอสมควรแก่เวลาขอยุติไว้เพียงเท่านี้เอวัง
********************
ที่มา
http://www.ubu.ac.th/wat/ebooks/ ... ches_Suffering.html
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...