ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
เจ้าสีโคตรสาปเวียง.
1
2
/ 2 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 12003
ตอบกลับ: 12
เจ้าสีโคตรสาปเวียง.
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-2-24 08:57
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
จากคำสาปบางตอนที่เจ้าสีโคตรสาปเวียง.....
สาธุเด้อให้มันเป็นจั่งซีไปตลอดอวสาร
พญาใด๋มาครองอย่าให้มันเจริญได้
ให้มันเลวละมันข้ากันตายเท่าซั่ว
ให้มันฮ่างอยู่เรื่อยเจริญขึ้นสั่วคราว
ความเจริญมีท่อซ่างปัดหู
มีท่องูแลบลิ้นคราวน้อยให้ตำลง...... ฯลฯ
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:02
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คำสาปท้าวศรีโคตรบอง
เวียงจันทน์ล้านช้าง อย่าให้ฮุ่งเฮืองศรี
คนบ่มีสีลธรรม อยู่คองเมืองบ้าน
ผู้ใดมาครองสร้าง ปกครองตุ้มไพร่
ขอให้ฮุ่ง เพียงช้างพับหู
ฮุ่งเพียงงูแลบลิ้น ศรีโคตรสาปแช่งเวียง
ตำนานท้าวศรีโคตรพระตบองเพชรสาปแช่งเวียงจันทน์บ่ให้ฮุ่งเฮือง
เป็นตำนานที่ถืกเล่าขานกันมาเป็นเวลาช้านาน
สาเหตุที่ทำให้ท้าวศรีโคตรสาปแช่งเวียงจันทน์นั้นมีเรื่องเล่าสืบมาดังนี้
กาลครั้งหนึ่ง เมืองเวียงจันทน์เกิดเดือดฮ้อน มีช้างป่ามาบุกรุกทำลายไฮ่นาฮั้วสวน เครืองปลูกของฝัง
ตลอดบ้านเฮือนของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน เจ้าเมืองเวียงจันท์จึงประกาศหาคนดีมาผาบช้าง
ใผผาบได้จะได้ฮับพระราชทานพระราชธิดาแห่งเวียงจันทน์เป็นคู่ครอง
ท้าวศรีโคตรผู้มีอาวุธวิเศษเป็นพระตะบองเพชร ผู้มีวิชาเก่งกล้าหาใผเปลียบเทียบบ่ได้ ก็รับอาสาผาบช้าง
และก็ผาบช้างได้สำเร็จอี่หลี พระเจ้าแผ่นดินจึงพระราชทาน “เจ้านางเขียวข่อมเทวี”
พระราชธิดาให้แก่ท้าวศรีโคตร แล้วสร้างเรือนหิน (ปราสาท) ให้อยู่ )
ต่อมาพระเจ้าเวียงจันท์อย้านว่าท้าวศรีโคตรจะแย่งราชบัลลังก์ จึงใช้อุบายต่างๆ
เพื่อที่จะกำจัดท้าวศรีโคตร แต่บ่สำเร็จ เพราะท้าวศรีโคตร ฟัน แทงบ่เข้า จึ่งฆ่าบ่ตาย
พระเจ้าเวียงจันทน์จึงคิดอุบายขึ้นโดยหลอกถามจากธิดาของตนว่า “ด้วยเหตุใดหนอท้าวศรีโคตรจึงเป็นคนเก่ง
และฆ่าบ่ตาย” พระธิดาบ่ฮู้เล่กลของพระราชบิดา ในวันหนึ่งจึงถามท้าวศรีโคตรว่า “เจ้าอ้ายเป็นคนเก่ง
ใผฆ่าก็บ่ตาย น้องอยากฮู้ว่าเจ้าอ้ายมีดีอันใดหนอ?”
ท้าวศรีศรีโคตรบ่ฮู้ถึงภัยจะเกิดกับตนเพราะความฮักเมีย จึงเล่าเรื่องสมัยบวชเป็นสามเณรให้เมียฟังว่า
ที่ตนมีพลังสามารถผาบช้างได้นั้น ก็เพราะครั้งหนึ่งได้หุงข้าวถวายหลวงตา
ได้หักเอาไม้ดิบมาคนหม้อพาให้ข้าวนั้นกลับกลายเป็นสีดำ
หลวงตาใจฮ้ายจึงสั่งให้เณรศรีโคตรฉันข้าวหม้อนั้นเพียงผู้เดียว ภายลุนมาจึงทำให้เณรศรีโครตมีพลังช้างศาล
อีกทั้งแทงบ่เข้าจึงฆ่าบ่ตายด้วยหอก ดาบ
เมียก็ถามต่อไปว่ามีทางใดบ่ที่คนอื่นจะฆ่าเจ้าอ้ายให้ตายได้
ท้าวศรีโคตรบ่คิดว่าเมียจะสามารถฆ่าตนได้ลงคอจึงตอบไปว่า “เข้าทางฮูเก่า(ทวาร)เท่านั้นก็ตายดอก”
พระธิดาจึงนำความไปเล่าให้พระบิดาฟัง พระบิดาทราบจึงหาอุบายที่จะฆ่าท้าวศรีโคตร
โดยเชิญท้าวศรีศรีโคตรไปรฮ่วมเสวยอาหารที่ท้องพระโรง และใกล้ ๆ
บริเวณท้องพระโรงได้ทำห้องบังคลหนัก(ส้วมถ่าย) โดยได้วางยนต์หอกในส้วมถ่ายนั้น
พอเสวยเสร็จและท้าวศรีโคตรเข้าห้องบังคลหนัก ยนต์หอกก็ทำงาน คือหอกก็แล่นขึ้นทางฮูเก่า
เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ แต่ท้าวศรีโคตรบ่ตายทันที และท้าวศรีโคตรได้ทราบว่าเสียฮู้ผู้หญิงแล้ว
จึงเหาะกลับเมือตายที่เมืองศรีโคตรพระตะบอง
ก่อนตายได้สาบแช่งเมืองเวียงจันทน์ว่า "ให้ฮุ่งเพียงช้างพับหู เพียงงูแลบลิ้น"
เพราะคนเวียงจันทน์เป็นคนบ่มีสัจจธรรม ขนาดว่าท้าวศรีโคตรผาบช้างให้แล้ว ยังหาวิธีกำจัดให้ตายได้ลงคอ
ตำนานหรือนิทานท้าวศรีโคตรนี้ ยังมีคนแต่งเพิ่มเติมขึ้นอีกเป็นตำนานติดต่ออีกหลายเรื่อง
เช่นตำนานเมืองอุบล เล่าโดยคุณพ่อบำเพ็ญ ณ อุบล ซึ่งคุณพ่อบำเพ็ญ บอกว่า
เป็นอีกตำนานหนึ่งที่มีการบอกเล่าโดยที่คุณพ่อเป็นผู้รับฟังมาจากชาวบ้าน
ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
เรื่องราวก็มีเนื้อหาสาระในทำนองเดียวกันกับที่เล่ามา แต่มีเรื่องเพิ่มเติมว่า...
ต่อมานางเขียวข่อม ผู้เป็นเมีย คิดถึงสามีจึงตามหาสามี จนกระทั่งมาถึงแม่น้ำมูล บริเวณดงอู่เผิ้ง
จึงหยุดพัก และประชวรพระครรภ์ เมื่อประสูตรลูกออกมาแล้วบ่สามารถนำลูกไปด้วย
จึงอธิษฐานขอฝากลูกกับเทพยดาที่ต้นยาง โดยขอให้ปกปักรักษาลูก ต้นยางที่ขอ ได้โอนอ่อนลงมา
จึงผูกอู่ไว้ที่ปลายยาง แล้วเอาแหวนทองใส่ไว้ จากนั้นต้นยางก็ตั้งขึ้นเหมือนเดิม
กาลต่อมาพระเจ้าแผ่นดินเมืองจำปาสักมาล่าสัตว์ จนกระทั่งมาถึงดงอู่เผิ้ง
ได้ยินเสียงเด็กน้อยฮ้องไห้ที่ปลายยาง ด้วยความบ่แน่ใจจึงอธิษฐานจิตว่าถ้าเป็นผีให้หนีไป
ถ้าเป็นคนขอให้กิ่งง่าต้นยางโอนออ่นลงมาจะนำไปเลี้ยงเป็นบุตร พออธิษฐานเสร็จ ต้นยางก็โอนอ่อนลงมา
เห็นแหวน ผ้า เด็ก จึงนำไปเลี้ยงที่เมืองจำปาสัก เมื่อกุมารโตเป็นหนุ่ม
จึงพามาตั้งเมืองให้อยู่ตรงที่พบอู่ เรียกว่า เมือง”อู่บน” กุมารนั้นให้นามว่า “เจ้าปทุม”
เจ้าปทุมเป็นลูกเจ้าศรีโคตร (เมืองพระตะบอง) และนางเขียวข่อม มีอาวุธคือไม้ค้อนตระกูลเมืองอุบล
เจ้าเมืองต่อมาจึงชื่อว่า พระพรหมราชวงศา
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:03
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หากเราย้อนอ่านประวัติศาสตร์ลาวก็จะพบว่านับแต่เจ้าชีวิตลาว ทรงย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาเป็นเวียงจันทร์ ลาวก็ยิ่งเกิดการกลียุคอยู่เรื่อยตลอดมา เป็นเมืองขึ้นพม่าบ่าง ของไทย บ้าง แกวบ้าง จนในที่สุดก็แตกออกเป็นสามฝ่ายไปในที่สุด
และเมื่อฟรั่งเข้ามามีอำนาจเหนือดินแดนลาว ฝรั่งก้เอาเวียงจันทร์เป็นเมืองหลวงของลาว และมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะย้ายพระราชวังหลวงจากหลวงพระบางมาใว้ที่เวียงจันทร์แต่ได้รับการปฏิเศษจากราชสำนัก ถึงกระนั้นหอคำ(ปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานประเทศ ซึ่งประธานประเทศไม่เคยพักที่นั้นเลย)ก็ถูกสร้างขึ้นทับที่ดินพระราชวังเดิมเวียงจันทร์
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
4
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:05
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ครั้งหนึ่งที่คณะทหารอเมริกา กราบทูลให้เจ้ามหาชีวิตสว่างวัฒนา ทรงย้ายพระราชวังหลวงมาเวียงจันทร์ พระองค์ทรงตรัสว่า
"เหตุที่เราไม่ย้ายพระราชวังหลวงไปเวียงจัทร์นั้นก็เพราะประชาชนเราเชื่ออย่างนั้น"
และแล้วเจ้ามหาชีวิตสว่างวัฒนาก็ทรงเป็นเจ้ามหาชีวิตองค์สุดท้ายของลาวที่เสด็จแปรพระราชฐานที่หอคำเวียงจันทร์ขณะทรงราชการแผ่นดิน
ในภาพคือ เจ้ามหาชีวิตสว่างวัฒนา และพระมเหสีคำผุย
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
5
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:06
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เจ้าชีวิตลาว พร้อมด้วยเจ้าฟ้าชายวงศ์สว่างขณะพระราชดำเนินไปยังวัดองค์ตื้อ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
6
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:07
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อันนี้พระราชวังหลวงพระบางก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
7
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:08
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อันนี้เป็น ราชรถที่ใช้ห้ามโกฐเจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
8
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:10
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระเมรุ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
9
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:11
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
และแล้วลางร้ายที่บอกเหตุราชวงศ์ก็มาถึง
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
10
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2014-2-24 09:12
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พายุฝนทำให้เศวตฉัตรล้มเพพัง
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
หน้าถัดไป »
1
2
/ 2 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...