|
ผลงานการก่อสร้าง
จากการที่หลวงพ่อมี ได้รับการอบรมบ่มจิตจากหลวงพ่อปานในการปฏิบัติอสุภกรรมฐาน ยกเอานิมิตมาพิจารณาจนกลายมาเป็นวิปัสสนาญาณ บังเกิดมี ศีล สมาธิ ปัญญา รู้แจ้งเห็นจริงในไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ความไม่เที่ยง ทุกข์ขัง ความเป็นทุกข์และอนัตตา ความไม่ใช่ตัวตน มีอารมณ์จิตเบื่อหน่ายสภาพความเป็นอยู่ของร่างกายตนเองและผู้อื่น จิตใจจึงระลึกนึกถึง พระนิพพานเป็นปกติ จนสามารถบรรเทาอารมณ์รัก โลภ โกรธ และหลง หรือความพอใจใด ๆ ทั้งสิ้นนั้น แทบจะถูกขจัดออกไปจากจิตใจของหลวงพ่อมี อย่างสิ้นเชิง
เมื่อหลวงพ่อมี ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดมารวิชัย ท่านจึงสามารถตัดใจได้ทุกอย่าง โดยมีสัญญากับพระลูกวัดอีก 6 คน คือ พระอาจารย์ครอบ, พระอาจารย์สาย ซึ่งเป็นพระอาวุโส และพระเย็น, พระเสริฐ, พระหนอม และพระโกยว่า “พระทุกองค์ห้ามสึก จนกว่าจะตายหรือสร้างอุโบสถให้สำเร็จเสียก่อน จึงสึกได้” พระภิกษุผู้รักษาสัจจะทั้ง 7 องค์ ต่างช่วยกันบูรณะอุโบสถวัดมารวิชัย จนเสร็จและยังช่วยทำนุบำรุงจนมีความเจริญถาวรสืบต่อมา แต่ด้วยเหตุที่เจ้าอาวาสคือหลวงพ่อมี เป็นพระอาจารย์ผู้ถือสมถะทั้งยังมักน้อย บรรดาเสนาสนะต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นส่วนใหญ่จะสร้างเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ หรือสร้างแบบง่าย ๆ อย่างพออาศัยอยู่ได้เท่านั้น และเมื่อเกิดชำรุดทรุดโทรม ก็ทำการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ โดยไม่ได้สร้างให้ถาวรใหญ่โตและสวยงามเหมือนกับวัดอื่น ๆ ทั่วไป
เพราะเหตุที่หลวงพ่อมีเป็นพระสมถะ รักสันโดษและมักน้อยนั่นเอง อุโบสถวัดมารวิชัยได้รับการบูรณะจนพระภิกษุสงฆ์ สามารถประกอบสังฆกรรมได้แล้ว ต่อมาจึงได้สร้างหน้าบันเพิ่มเติม พร้อมกับทำพิธียกช่อฟ้าขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ในขณะที่ทำการบูรณะอุโบสถอยู่นั้น ตรงกับปี พ.ศ. 2485 ได้รื้อกุฏิริมคลองย้ายขึ้นมาปลูกในบริเวณที่อยู่ปัจจุบัน เพื่อหนีน้ำที่หน้าน้ำท่วมสูงขึ้นทุกปี ทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาที่จะต้องหาทุนมาสร้างกุฏิใหม่อีกด้วย
ต่อมาปี พ.ศ. 2501 หลวงพ่อมี ได้สร้างศาลาเรียงล้อมศาลาการเปรียญ หลังใหญ่ที่ หลวงพ่อปาน มาสร้างไว้ทั้ง 4 ด้าน แล้วสร้างหอระฆังและกุฏิอีก 3 หลัง ปัจจัยที่มีอยู่ทั้งหมดไปสมทบทุนกับทางราชการสร้างโรงเรียน 2 แห่ง คือโรงเรียนวัดมารวิชัย และโรงเรียนจุฬาราษฎร์วิทยา ในเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2509 และยังได้สร้างสถานีอนามัย เนื้อที่ 7 ไร่ กับสำนักงานผดุงครรภ์ประจำตำบลบางนมโค ในเนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน อีกด้วย
สาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาส่วนใหญ่เป็นที่ดินของบรรพบุรุษที่ตกทอดมาถึงหลวงพ่อมี แล้วท่านนำมาบริจาคต่อ ทั้งยังขายที่ดินอีกบางส่วนไป เพื่อนำปัจจัยมาสมทบทุนในการก่อสร้างต่าง ๆ เช่น สร้างฌาปนสถาน พ.ศ. 2510 สร้างกำแพงรอบอุโบสถเพื่อความเป็นสัดส่วน พ.ศ. 2512 และสิ่งที่ชาวบ้านทั้งหลายมีความประทับใจในตัวหลวงพ่อมีอย่างไม่รู้ลืมอยู่ทุกวันนี้ คือ หลวงพ่อมี เป็นผู้ขอไฟฟ้าโดยเริ่มปักเสาจากปากทางถนนสาคลี ผ่านหน้าวัดมารวิชัยเรื่อยไป ถึงตลาดสาคลี เป็นระยะทางประมาณ 7 ก.ม. ด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัวของหลวงพ่อมีทั้งสิ้น เมื่อปี พ.ศ. 2514 นอกจากนี้หลวงพ่อมียังได้สร้างแท้งน้ำ เครื่องสูบน้ำสำหรับพระและชาวบ้านได้ใช้ดื่มน้ำที่สะอาด สร้างศาลาท่าน้ำ สร้างหอสวดมนต์ในปี พ.ศ. 2521 ฯลฯ นับว่าหลวงพ่อมี เป็นพระอาจารย์ที่มีความมุมานะ พยายามสูงในการสร้างความเจริญแก่ท้องถิ่นอย่างมากองค์หนึ่ง
|
|