เที่ยวโรงถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

Sornpraram

ตะลุยโรงถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ มาเที่ยวชมที่นี่ จัดจุดให้เราเที่ยวชม 11 จุด เดินวนรอบเป็นวงกลมรอบพื้นที่ ก็ครบหมดสบายๆ

        

จุดแรกก็คือ วัดของมหาเถรคันฉ่อง ของบางอย่างที่ทำฉากยังแอบเห็นเป็นวัสดุดั้งเดิมเช่นโฟมอยู่ เช่นตรา ที่เสาประตูหมู่บ้านโยเดีย ลานวัดที่องค์ดำตอนบวชเณรมากวาดลาน ทำเหมือนวัดดี ไปยืนตรงฉากวัดนี่ ให้ความรู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ในวัดจริงๆ ฉากในวัดนี้ก็คือภายในโบสถ์ที่มีพระประธานแบบมอญสีขาวห่มทององค์นี้อยู่ ทำได้สวยและเหมือนดี  เห็นฉากภายในกุฏิของพระมหาเถรคันฉ่องนี้แล้ว นึกถึงฉากที่ติดตามากที่สุดฉากหนึ่งของกุฏินี้ ก็คือฉากที่ พระนางจันทราเทวี น้องครีม เปรมสินี เอาลูกน้อยมณีจันทร์ที่เกิดจากพระเจ้าบาเยงนองมาวางทิ้งไว้
*


       มาถึงห้องเล็กๆ ข้างๆ กุฏิมั่ง แต่ไม่ต้องแอบปีนเข้าทางหน้าต่างเหมือนเณรตองเจ กับเจ้าบุญทิ้งในหนังนะคะ เพื่อเข้ามาดู “พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง” พระแสงปืนนกสับมหัศจรรย์ยาว 9 คืบ หรือ 2 เมตร


      สิ่งก่อสร้างที่นับว่าเด่นและอลังการมากๆ ของกองถ่ายแห่งนี้กัน นั่นก็คือ “ท้องพระโรงที่ตั้งสีหาสนบัลลังก์” หรือ Lion Throne Hall แห่งอาณาจักรหงสาวดี ตรงจุดนี้ จะมีให้บริการแต่งกายในชุดทหาร หรือเจ้านางต่างๆ เพื่อให้ถ่ายรูป และด้านหลังก็มีมุมของ “คุกใต้ดินเมืองหงสา” ด้วย เป็นการโชว์งานแกะโฟมและไม้ สร้างให้ดูเหมือนเป็นเหล็กกล้าขึ้นสนิม

     


ออกจากท้องพระโรงมา คราวนี้เราก็จะเดินไปยังอาณาจักรอยุธยากัน ถ้าท่านไม่ต้องการเดิน เพราะเกรงจะเหนื่อยมากเกินไป ทางสถานที่เขามีรถกอล์ฟวิ่งวนรอบๆ ให้แต่จะอาจต้องรอนิดนึง แต่ก็สะดวกดี พอเข้ามาเขตอาณาจักรอยุธยา ก็พบกับจุดนี้จุดแรกก่อนเลย ก็คือ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท พระที่นั่งที่สำคัญมากๆ ของพระราชวังกรุงอยุธยา ในการสร้างฉากพระที่นั่งนี้ ไม่ได้สร้างเต็มทั้งองค์ค่ะ สร้างเท่าที่จะถ่าย หลังคายอดปราสาทและด้านข้างไม่ได้สร้าง เพราะถ่ายไม่ถึงข้างบนตรงนั้น  ข้างในของ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท เขาทำไว้อย่างอลังการมาก ทั้งองค์พระที่นั่ง ผนังท้องพระโรง ลายบนดาวเพดาน สวยมาก ส่วนสีที่เป็นสีทองด้านๆ นั้น เขาเผื่อไว้สำหรับเวลาถ่ายทำจริง ต้องมีการเซ็ตแสงกัน แสงไฟที่เซ็ต จะทำให้สีทองออกมาแวววาวพอดี

       มาถึงอีกฉากหนึ่งที่เซ็ตกันในโกดังใหญ่ ไม่ได้สร้างภายนอกสถานที่เหมือนอันอื่นๆ นั่นก็คือ ท้องพระโรงใน พระตำหนักของบาเยงนอง ที่มีลายละเอียดไปทุกอนูนิ้วเลยทีเดียว แถมเพิ่มความงามและความอ่อนช้อยเข้าไปอีกด้วย ออกจากพระที่นั่งก็มาถึงโกดังที่เขาสร้างไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ ของเขาเรียงกันไว้แยกประเภทเป็นชั้นๆ ดีทีเดียว เขาว่าบางอย่างเขาก็สั่งทำของจริงๆ แต่ที่ผลิตเองทำเองขึ้นมาใหม่ในกองถ่ายก็มีจำนวนมาก
      ส่วนฉากของหมู่บ้านโยเดีย เขาปิดซ่อมบำรุงอยู่ก็เลยไม่มีภาพมาฝากกัน
.

       อันที่จริง มาถ่ายรูปฉากเหล่านี้เล่นก็เพลินดี ถ่ายไปก็ต้องนึกจินตนาการตามไป ว่าจริงๆ แล้วมันจะดูสมบูรณ์ที่สุดก็ด้วยสัญลักษณ์ของ “การมีชีวิต” ที่จะต้องเติมเข้าไปอีกในขณะถ่ายทำภาพยนตร์ เช่นควันไฟจากการหุงต้ม เสื้อผ้าที่แขวนตาก วัวควายหมูหมากาไก่
และที่สำคัญที่สุดก็น่าจะเป็นตัวละครทั้งสำคัญและไม่สำคัญ ที่จะออกมาโลดแล่นเติมให้เต็มบนแผ่นฟิล์ม ให้เรามาดูและอินไปตามเนื้อเรื่องในภาค “องค์ประกันหงสา” และร่วมลุ้นไปกับภาค “ประกาศอิสรภาพ” พร้อมๆ กับรอคอยภาคสุดท้ายในเอกราชของแผ่นดินสยาม “ยากยิ่งกว่าจะรักษาไว้” ที่จะมาถึงอย่างใจจด ใจจ่อด้วย

       วันว่างๆ ของคุณ หากไม่มีโปรแกรมจะไปเที่ยวไหน ก็ลองมาเยือนที่กองถ่ายพร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ ในกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี กับฉากสวยๆ ของภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


ที่มา..http://www.muangthai.com

matmee2550

เยี่ยมๆๆๆ