|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-1-7 11:43
Fight Club-ดิบดวลดิบ 1999
กำกับการแสดงโดย DAVID FINCHER
แสดงนำโดย EDWARD NORTON , BRAD PITT , Helena Bonham Carter

Fight Club ร่างทรงของคนมีอัตตา
Fight Club ร่างทรงของคนมีอัตตา
(ไม่ใช่หนังเก็บสบู่ หรือหนังบู๊ในห้องน้ำ)
Fight Club คือการตีแผ่ด้านมืดในจิตใจคนนั่นเอง

ตัวหนังเล่าเรื่องราว ของแจ็ค (แสดงโดยเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อของสังคมแบบทุนนิยม เห็นคุณค่าของคนจากวัตถุที่เขามี ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรู เสื้อผ้าแบรนด์เนม บ้านหลังใหญ่โต ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเขาไม่มีความสุขเอาเสียเลย ต่อการใช้ชีวิตวิ่งตามหาเงินทอง ของมีค่า บูชาเงิน แถมยังต้องทนกับความทรมานกับโรคนอนไม่หลับ
แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้พบกับ ไทเลอร์ (แสดงโดยแบรดพิตต์) หนุ่มที่แอนตี้สังคม และทุนนิยมอย่างสิ้นเชิง ทั้ง 2 คนได้ชกต่อยกันในคืนแรกที่ได้นั่งดื่มกัน แต่นั่นก็ทำให้แจ็คเริ่มรู้สึกว่า ไทเลอร์ มาทำให้ชีวิตเขามีชีวิตชีวา มีพละกำลังมากขึ้น ทั้งคู่ได้ร่วมกันเปิดสมาคม ไฟต์คลับ ขึ้นมา เป็นชมรมใต้ดิน
ที่เป็นสถานที่ชุมนุมของชายหนุ่มที่จะมาชกต่อยกัน เพื่อระบายความเครียด ความกดดันในชีวิต โดยเป็นการชักชวนกันแบบปากต่อปาก รางวัลอะไรก็ไม่มี เป็นเพียงแต่ได้มาสังสรรค์พูดคุยกันเท่านั้น ไทเลอร์นั้นได้ตั้งกฏสำหรับชมรมไฟต์คลับไว้ว่า กฏข้อที่ 1 ห้ามพูดถึงไฟต์คลับ ส่วนกฎข้อที่ 2 ก็ให้กลับไปดูกฏข้อแรกใหม่ สรุปก็คือ ใครก็ตามที่เข้ามาอยุ่ในชมรมนี้แล้ว ห้ามไปพูดต่อ หรือเอาไปเล่าให้ใครคนอื่นฟัง มิฉะนั้นจะถูกขับออกจากชมรม นับวันสมาชิกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเรื่องราวบานปลายใหญ่โตจนเกินการควบคุม เมื่อมีอยู่วันนึง ทั้งแจ็คและไทเลอร์ก้เข้าไปปล้น และทำลายข้าวของร้านค้า อาคารสำนักงาน ทำให้เกิดความเสียหาย จราจลกันไปทั้งเมือง จนแจ็คถูกจับมาสอบสวน ลงโทษ และเรื่องราวความสัมพันธ์ที่แจ็คได้ไปทำความรู้จักแฟนของไทเลอร์ และแอบมีความสัมพันธ์กัน แต่ทั้งหลายทั้งปวงนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา
เพราะทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์นั้นเกิดจากจินตนาการของแจ็คเองคนเดียวล้วน ๆ ส่วนไทเลอร์นั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง เป็นเพียงร่างทรงองค์ลง ของแจ็คนั่นเอง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือแจ็คเป็นคน 2 บุคลิก นั่นเอง
คือในยามปกติกลางวันเขามีชีวิตเฉกเช่นมนุษย์เงินเดือน ใช้ชีวิตตามกรอบของสังคมทุนนิยมไปตามเรื่องตามราว มีความเครียด ความกดดันในชีวิตสะสมอยู่ แต่พอกลางคืนก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนอีกบุคลิกหนึ่งซึ่งก็คือไทเลอร์ ที่เป็นคนดิบ กร้าน และแอนตี้สังคม ชอบชกต่อย หาเรื่อง ทำลายข้าวของ ส่วนผู้หญิงที่เล่าเรื่องมาว่าเป็นแฟนของไทเลอร์นั้น แท้ที่จริงก็คือแฟนของแจ็คนั่นเอง มีอยู่หลายฉากที่คนดูยังสงสัย แต่พอดูจนจบก็จะเข้าใจได้ ว่า
แจ็ครุ้ว่าไทเลอร์คือบุคลิกอีกตัวตนหนึ่งของเขา ซึ่งเป็นด้านมืดในจิตใจของเขา เขาต้องการฆ่าไทเลอร์ให้ตาย นั่นหมายความว่าเขาจำเป็นต้องจบชีวิตตัวเขาเอง
หนังต้องการนำเสนอประเด็นเนื้อหา เกี่ยวกับการค้นหาตัวตนที่แท้จริงและความต้องการของตัวเรา ซึ่งวิธีการที่จะค้นหาตนเองให้เจอนั้นมีหลากหลายวิธี แต่ในเรื่องนี้เขานำเสนอในวิธีการของการต่อสู้ชกต่อย (สัญลักษณ์) ทั้งที่สู้กับความกลัวของตัวเอง การชกต่อยกับคนอื่น ก็คือการต่อสู้กับอุปสรรคที่อยู่ข้างหน้า กับคนอื่น “หากคุณไม่เคยต่อสู้แล้ว คุณจะรู้จักตัวเองได้ดีเพียงใด? “ ส่วนสบู่มาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ สบู่เป็นสัญลักษณ์ของชมรมไฟต์คลับ เป็นการประชดประชัน แดกดันทุนนิยม ประมาณว่า สบู่คือสินค้าอุปโภคบริโภค คือเครื่องมือของทุนนิยมชนิดหนึ่ง หรือเป็นสัญลักษณ์ของสังคมทุนนิยม
จริงๆ เรื่องนี้จะแหลมคมกว่านี้ หากเอาวิธีการของศาสนาพุทธไปใช้ ตัวที่จะฆ่าทุนนิยมได้ดีที่สุด คือ อิทัปปัจจยตา นั่นคือเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดอีกสิ่งหนึ่ง ถ้าเราดับปัจจัยที่ก่อให้เกิดทุกข์ มันจะไม่เกิดมาตั้งแต่ต้น ดับที่ผัสสะ (อายตนะทั้ง 6 รับรู้กลิ่นเสียงรูปรสสัมผัสต่างๆ รับรู้แล้ววาง) จะไม่เกิด เวทนา ดับที่เวทนา (การรับรู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ แล้ววางเฉยเสีย) จะไม่เกิดตัณหา ดับที่ตัณหา (โลภ โกรธ หลง, ถ้ามาถึงขั้นนี้แล้วเกิดกิเลสแน่ ดับเสีย) จะไม่เกิดอุปาทาน ดับที่อุปาทาน (ตัวกู ของกู,เป็นขั้นที่แก้ยากแล้ว แต่ก็ยังดับได้) ตัวที่จะสู้กับทุนนิยมได้ดีก็คือ ชีวิต,เศรษฐกิจแบบพอเพียง สู้กับทุนนิยมได้สบาย ไม่ฟูมฟาย ไม่เดือดร้อน ลืมไป ศาสนาอิสลามก็มีบทบัญญัติที่สู้กับทุนนิยมได้เฉกเช่นศาสนาพุทธ แต่ต้องเคร่งจริงๆ เช่นกัน
|
|