ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ แตกใจความมหาเสน่ห์ ~

[คัดลอกลิงก์]
ขอบคุณครับพี่ทิม
ผมจะมาเผยคาถาที่ว่า ในวัยมากอายุเเบะเบื่อโลกมากขึ้นเราสวดอะไร?


ให้คุณอาราธนาศีล 5 ครับ แล้วว่งจิตสำนวมให้ดีอย่าบ้าบอกับทางโลกนัก วางให้หมด ทำให้เป็น เมื่อแน่ใจดีจึง มาสวดพระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้าเรื่อยๆ นั้นแหละคำตอบ ว่างๆก็ขออฐิษฐานให้ชีวิตมีความสุขล้นพ้น ใครทำได้เมื่อไรเสถียรแล้วอยากจะแผ่เมตตาค่อยแผ่เมตตา

ป .ล.ด้วยรักและเผื่อแผ่
ขอบคุณครับพี่ทิม
  คาถามงกุฎพระพุทธเจ้าบทพิเศษ

เรื่องนี้มาจากการค้นคว้ามาชั่วชีวิตแล้ววางสูตรให้สั้นแต่มีศักยภาพมาก ผมอยู่อเมริกามาชั่วชีวิต สวดมงกุฎพระพุทธเจ้ามาตลอด ค้นพบว่ายามชีวิตจะทุกข์มักมีดีที่มีความสุขได้ซะอย่างงั้น  เดิมทีไม่ทราบมาเข้าใจยามอายุมากแล้วมีทบทวนความ คำถามคือถ้าเราสวดให้ดีแบบมีศักยภาพจริงทำไง?


คำตอบนี้คือไม่ว่าชีวิตจะเป็นไง ขอให้เรามีพระคาถาบทนี้ยึดถือเปผ้นหลักชัยเกาะไว้เสมอ แล้วสวดยามระลึกได้ ยามใดค้นแค้นใจในวิบาก ให้เข้าวัดอาราธนาศีล 5 กับพระ แล้วภาวนาคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าไว้เสมอ ท่านย่อมรอดตัว แต่ยังไม่เท่าการภาวนาคู่ชีวิตไว้สม่ำเสมอ


บทมงกุฎพระพุทธเจ้าพิเศษ (มงกุฎเพชรกล้า)

ให้ท่านสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าแล้วตามด้วย

นะมะนะอะ นอกอนะกะ  กอออนอกะ นะอะกะอัง (3 จบ)
ทำอย่างนี้ รวมเป็น 7 จบยามว่างนึกได้
ผู้ใดสวดไว้เป็นนิจ จะเจริญด้วยมงคลกล้าแข็งยิ่งนัก จะมีสุขเสริมดวงอันหาผู้ใดเสมอเหมือน  หากแม่สวดยามทำบุญ กุศลนั้นพาไปสู่เส้นทางสุขยิ่ง หมั่นสวดพร้อมทำบุญสุนทาน ปาฏิหาริย์ยิ่งนักแลท่านเอย

ข้อความที่กล้าวมานี้ขอมอบแด่ท่านผู้มีสัมมาทิฏฐิทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ คือที่พึ่งอันประเสริฐ นำไปสวดเลยครับจะเห็นคุณเอง  ใครจะจะหาประคำมาสวด 108 จบ ก็พึงทำกันเถิด ชีวิตอยู่ได้ของมันเองโดยดี
โปรดติดตามตอนต่อไป..
เรื่องราวของมหาเสน่ห์จริงๆไม่มีอะไรครับ มันเป็นเรื่องราวตามวัย และผมชอบค้นคว้าเอาประสบการณ์จริงมาแตกใจความ เอาเข้าจริงๆผู้ชายหรือผู้หญิงก็เหมือนๆกันนั่นแหละ หาเพื่อนร่วมสนองอารมณ์เรื่องราวต่างๆ สุข สนุก บันเทิง ฯลฯ เหมือนให้ไม่เหงาเฉยๆ มีมาสมใจก็อาจอยากปลีกตัวทำอย่างอื่นบ้าง ก็ว่ากันไป


ใจความของมหาเสน่ห์
จริงๆมันแล้วแต่กรณีๆไป แต่จะเอาเข้าจริงๆผมว่า เป็นการลองถูกลองผิดคิดคบหาคน เพราะเราไม่รู้จักคนๆนั้น หรือแค่เป็นไปเพื่อทำความรู้จักใกล้ชิดมากขึ้น ชั่วชีวิตมาในอเมริกาผมเล่นวิชาเพื่อเข้าถึงฝ่ายตรงข้ามที่น่าสนใจ พอดีเป็นคนเล่นวิชาขึ้นเฉยๆแล้วมีโอกาสมาท่องโลกที่อเมริกา  หลายครั้งได้มาสนิทสนมมีไว้อวดผู้คนว่าเรามีดี แต่สุดท้ายผมก็แค่เหมือนหาเพื่อนเพศตรงข้ามแค่นั้นแหละ แต่เราไปทำให้เขาติด บางคนจะเร่งให้มีสัมพันธ์กันให้ลึกซึ้ง ชวนให้เราอึดอัด  เรื่องนี้แล้วแต่ครับถ้ารักกันจริงก็ทนตื้อกันหน่อย หญิงจีบชายก็เหมือนกัน

เมื่อเราสนิทได้ดั่งใจ ก็จะมีวิธีคุมเกมส์ เช่นผูกใจรัก อันนี้ไม่ใช่ทำของอะไรนะครับ เป็นการเจริญคาถาตั้งจิตให้ชีวิตคู่มีสัมพันธ์กันลงตัว เหมือนเรามีคู่มิตรคู่เพื่อนที่เราพอใจ แล้วรู้สึกว่าการมีคนนั้นอยู่ในวงจรชีวิตเราแล้วมันดี เราชอบ ดีต่อใจ จึงมาเป็นวิชาผูกรักไว้นั่นเอง ไม่ได้ไปผูกแข้งผูกขาเขาไว้แต่อย่างใด จะไปไหนทำอะไรก็เชิญ เหลือใจคบหากันถึงเวลาเก็มา อันนี้ผมบอกเพื่อเป็นบทสรุปที่ประมวลใจความมา ส่วนตัวแล้วไม่ได้นำวิชามาใช้กับใครทางเสน่ห์อีกนัก เพราะไม่ได้ไปหาสีสันให้ยึดติดอีก  เป็นคนปลีกตัวมากขึ้นเพื่อคัดหาคบคนที่ดีต่อใจ หาไม่ค่อยมีก็ทำอย่างอื่น เจริญธรรมบางอย่างไปเรื่อย


เมื่อหลายปีก่อนโน้นช่วงผมเก็บตัวภาวนา ปีสองปีแรก มหาเสน่ห์ขึ้นแรงมากโดยบังเอิญ จนเวลาจะไปไหนทำอะไรคนรอบไปคุมอาการไม่อยู่ มาหมดทั้งที่ชอบและไม่ชอบ ชนิดถึงเนื้อถึงตัว จะมาแสดงความเป็นเจ้าของบ้าง ช่วยเหลือบ้าง ทว่าล้วนแต่เป็นไปเพื่อจรดจดจ่อกับผมแล้ววังวน "เพ้อ" เพี้ยนกันไปใหญ่ ผมจึงเคร่งเก็บตัวแล้วอยู่ๆก็มีโควิทล๊อคดาว สภาพแวดล้อมที่ไม่น่าไว้ใจนี้ เป็นไปเกิน 3 ปี ที่มีแต่คนมาเพี้ยนใส่ผม  พอจะสิ้นปีนี้อาการผู้คนเริ่มปกติขึ้นผมจึงค่อยๆปรับตัวเข้ากับสังคมอีกครั้ง

อาจารย์ท่ายมาบอกว่สมีคนมาถามให้ลงต่อ
ท่านใดชอบมาอ่าน ผมขอแสดงความยินดีขอบคุณ ณ ที่นี้
มงคลแห่งการสวดพุทธะ คาถา บุญ อานิสงส์

จะมีจิตชนิดนึงที่มาจาก ศรัทธา สวดแล้วน้อมระลึกถึงถึงพระพุทธเจ้า จึงสรรเสริญกล่าวเป็นวจีที่ปากตรงต่อใจ ถวายบูชาพระพุทธเจ้า
การสวดแบบนี้จนเป็นสมาธิ และทุกๆครั้งสมาธิมาจนเป็นธรรมชาติ นั่นแหละครับ สมาธิชนิดนี้เป็นที่มาแห่งพุทธคาถารวมทั้งบทอื่นๆ เมื่อสวดชักลูกประคำ จงน้อมจิตเช่นนี้ ทำถวายบูชาสรรเสริญพระพุทธเจ้า อานิสงส์จะอัศจรรย์
ตัวอย่างมีอยู่ในอิติปิโสรัตนมาลา จริงๆ้กิดจากการพรรณนาสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย แล้วทำไมเกิดอานิสงส์ทางคาถาขึ้นมางั้น?.. นี่คืออานิสงส์ปัจจุบันแห่งสมาธิที่มีองค์ประกอบข้างต้นตามที่ผมกล่าวมา
เรื่องทางโลกจริงๆเป็นของจิ๊บจ้อย
หากเข้าใจองค์ประกอบที่ว่ามานี้



พระคาถาอิติปิโสเต็มที่

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง
อิติปิโส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ
อิติปิโส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุคะโต
อิติปิโส ภะคะวา โลกะวิทู
อิติปิโส ภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
อิติปิโส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง
อิติปิโส ภะคะวา พุทโธ
อิติปิโส ภะคะวา ภะคะวาติ



นี่เป็นธรรมเนียมสายอิติปิโสครับ ว่าด้วยบทอิติปิโสที่เรานำมาสวดมนต์ปกติเพื่อสรรเสริญพระพุทธเจ้า
มาเป็นแนวสวดอีกแบบที่เน้นความหมาย 4 คำแรก
ขึ้นต้นทุกท่อนในบท จึงให้คำนิยามว่าเต็มที่


สวดเสกตนเป็นมงคลแล้วตามด้วยมงกุฎพระพุทธเจ้าครอบศีรษะ ป็นการช่วยส่งเสริมพลังดึงดูดแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตตนเพราะมีกระแสบวกย่อมจูนสิ่งบวกๆมา ส่วนสิ่งที่ไม่ใช่มันก็จะไม่มาเอง ถึงมามันก็ปนกันไม่ลงหรอก  ไปตามทางของมันเอง  สวดแบบเท่าอายุ+1 ได้ครับ หรือจะสวด 108 จบเสริมบุญแบบทันท่วงที ทำเป็นประจำย่อมผาสุขล้นชลนที เหมาะกับการนั่งสวดภาวนาจนเป็นสมาธิแล้วตามด้วยบทมหาลาภตามอัธยาศัยก็ได้ เช่นคาถาพระเรวตะเรียกอริยะทรัพย์  



ส่วนการสวดเป็นเสน่ห์จะเป็นเสน่ห์ชั้นสูง คุณต้องวางจิตให้เป็นมิตร ใจยิ้ม เย็นจิต มีเมตตา ปากอย่าบึ้ง บิ้มมุมปากหน่อยๆก็ได้ นึกภาพประจำวันเห็นคนมาคอยสนิทสนมใกล้ชิด มีน้ำใสใจจริง แชร์น้ำใจซึ่งกันและกัน  เข้าทางนี้เป็นเนื้อเดียวกับเนื้อหาชีวิตล้วจึงวางจิตอย่างนี้เป็นพื้นครับ   รายละเอียดส่วนบุคคลไม่พ้นตามนี้นัก
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้