มีเรื่องราวมากมาย ที่ถูกสั่งสมที่เล็กเล็กทีละน้อยผ่านกาลเวลาเกินกว่าทศวรรษ . _9 x' a! U( k" t5 K2 k
จากหลวงปู่ชื่น สู่เด็กวัดคนหนึ่ง คำสอนหลายๆสิ่งที่ถูกปลูกฝัง
วิชาความรู้มากมายที่หลวงปู่สั่งสอน เรื่องราวต่างๆที่พานพบ
ทุกข์สุขที่มากมายที่ได้เก็บสะสมไว้ในความทรงจำ 1 ^% f9 K4 O3 G% ]* \
% K# l2 G0 t z$ j, [7 u r+ Q
หากจะนำมาร้อยเรียงเก็บบันทึกก็คงเป็นเหมือนสารานุกรมเล่มหนา
ที่แค่เห็นก็ไม่รู้จะอ่านวันไหนถึงจะจบ
% B3 }" G; C" \5 f! S% Y
ทุกเรื่องที่เด็กวัดได้เคยรังสรรค์ผ่านตัวอักษรไว้ & e" {5 X3 x$ d2 Y3 |* n
หาใช่ นิยาย นั่งเทียนเขียนเป็นเรื่องบันเทิง T h4 G" A* V% j
หาใช่ คำปด มุสาที่บางคนใช้กันจนลืมบาป8 Q4 n+ y- Z" T( i
หาใช่ คำลวง ที่อยากจะปลุกปันกระแส
มีข้อมูลอีกมากมาย ที่ไม่อยากจะเปิดเผย 2 x& p, G+ W9 j1 p
เพราะ คำสอนของหลวงปู่ชื่น ที่ท่านว่า “ รู้ สิบ ก็ให้พูดเพียง หนึ่ง ”8 r) n) @; n: V6 S1 [9 k
และนี่ก็เป็นพิธีกรรมสุดยอด จาก เรื่องหนึ่งในสิบที่สามารถเปิดเผยได้
พิธีอาพัดเกศา
เชิญเกศาธาตุกายสิทธิ์เข้าตัว
8 j b% N& ?% `" _+ |+ k$ Y
จัดขึ้นเพื่อสืบสานพิธีกรรมจากหลวงปู่ชื่น 4 ]; {; I! N; Y- a$ J& W4 a3 A
สู่คณะศิษย์หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ* g* a0 k1 ~' @* i
จัดเพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น 3 I1 ~) T3 S/ K# n9 v" Z( e
เพื่อให้ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ !!" Q. U% L$ `4 _( d
วันเพ็ญเดือนสิบสอง (วันพุธที่ 28/11/55)2 j" N' S* \3 u- y L1 n% e" G( [1 Q
พุทธศักราช สองพันห้าร้อยห้าสิบห้า
พิธีสำคัญที่พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด !!
พิธีอาพัดเกศา
, f5 l+ v* o& P( }& m& D) H! [
วิชาอาพัด โดยมากมักเสกของต่างๆ กิน เรียกว่า “อาพัด” เช่น อาพัดเหล้า อาพัด หมาก อาพัดใบพลู
อาพัดยาสูบ อาพัดพริกไทย อาพัดว่าน อาพัดรากยาต่างๆ กินเข้าไปเพื่อให้อยู่ยง คงทน เป็นวิชาที่เรียนรู้กันทั่วไป. A2 g" b; z7 p! s- B
แต่วิชาอาพัดเกศาเชิญเกศาธาตุกายสิทธิ์ของครูบาอาจารย์เข้าตัว เห็นจะมีแต่หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ เท่านั้น; ], M, a8 d2 j
เกศาของผู้เรียนไสยศาตร์ถึงขั้นอุกฤษฏ์ เกศาและธาตุสังขารจะกลายเป็นของกายสิทธิ์
ของกายสิทธิ์ ก็ยังเป็นเรื่องของโลกีย์วิสัยหาใช้ทางหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
พิธีอาพัดเกศาเปรียบไปก็เหมือน การฝังตะกรุดทองคำใต้ท้องแขน ฝังคตปรอท หรือฝังเหล็กไหลไพลดำ ฯลฯ
ข้อห้ามมีเพียงข้อเดียว "ไม่ให้ใครเล่นหัว"
. L2 u9 d; ?% T _9 D8 g
การที่ใครมาเล่นหัวโดยที่เราไม่ยินดี ถือว่าไม่ผิดครับ ไม่ใช้ว่าจับครั้งเดียวจะเป็นบ้าเป็นบอไม่ถึงขนาดนั้น 2 i- D( o. a2 h, r; N2 r: _% K
Z4 a* Y: c2 X+ H
สมมุติคนที่เล่นหัวเราโดยบังเอิญพอจับเราก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ วันหลังเขาก็จะไม่ทำอีก
w/ T& @7 N4 g, o' i' f4 {
; q2 N4 A9 k- n2 S+ H. A5 ~
ปกติแล้วคนไทยเขามีมารยาทไม่มีใครเขามาเล่นหัวใครหรอกครับ/ b7 e" O3 p8 j# f
+ S+ G) Z/ q9 ]: E
ถ้าเขาจับด้วยความไม่รู้หลวงปู่ท่านบอกถือว่าเขาไม่ผิดแต่ถ้ารู้แล้วบอกแล้วเตือนแล้วอาจจะไม่ดีกับตัวเขาเอง- y; x# F) L1 u1 J) }5 F" ]' F0 O
ถ้าเกิดมีใครจับหัวแล้วเราไม่สบายใจ หรือไปทำอะไรแล้วไม่สบายใจ ก็จัดขันธ์ห้าขอขมาครูบาอาจารย์ , d8 |) b$ A# I8 X; N
# z" [$ M% C( i; n J- d
การห้ามเข้าที่อโคจรเป็นเพียงกุศโลบายของครูบาอาจารย์
พ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณหลวงปู่ท่านไม่ห้ามท่านว่ายิ่งจับยิ่งเป็นมงคล% W% E' |; V; W* g
ทองไม่มีทางเป็นตะกั่วไปได้ ฉันใดก็ฉันนั้น วัตถุมงคลที่สร้างที่เสกแบบโลกุตระย่อมไม่มีวันเสื่อม ที่เสื่อมและศรัทธาคลอนแคลน คือ ใจเรา
# Y3 |' ~) z4 P" F5
& t" e. ]9 O$ J3 }3 z
|