ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4535
ตอบกลับ: 19
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

คุณโกหกเก่งรึเปล่า???

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-3-15 08:00



แบบทดสอบ: ทายใจ... คุณโกหกเก่งรึเปล่า???

ถ้าเกิดว่าคุณกำลังหลงอยู่ในป่า แล้วคุณก็ไปเจอถ้ำที่ในป่า
และแล้วก็เห็นอะไร วับๆแวมๆ คุณคิดว่าในถ้ำจะมีอะไร





1.ศพ

2.ลูกหมาป่า

3.หีบสมบัติ

4.กระป๋องเปล่าๆ



2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-25 07:36 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

เฉลย
























V
V
V
V
V
V

เฉลย

1.ศพ คุณจะไม่หลอกลวงหวานใจคุณยังไงก็จะไม่ทำ และจะไม่ยอมให้หวานใจคุณตกใจเล่นเป็นแน่

2.ลูกหมาป่า คุณเจ้าอารมณ์ ถ้ามีโอกาสก็อยากลองนอกใจดูสักครั้ง

3.หีบสมบัติ คุณอาจจะคิดนอกใจแฟนคุณบ่อยๆ แต่แค่คิดเล่นๆ

4.กระป๋องเปล่าๆ คุณโกหกปริ้นปร้อนเก่งจริงๆ เผลอเป็นไม่ได้เชียว
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-25 08:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-11-25 09:41

เรื่องของคนโกหก...ความจริงที่ควรรู้








เรื่องของคนโกหก...ความจริงที่ควรรู้ (มติชนออนไลน์)
โดย นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์





          ช่วงนี้มีข่าวคราวอื้อฉาวในแวดวงบันเทิงบ่อยครั้งที่พูดถึงเรื่องของดารา และครอบครัวของดาราบางคน  มักไม่พ้นเรื่องส่วนตัว เรื่องเงินเรื่องทอง

          ที่เป็นข่าวโด่งดังก็เห็นจะเป็นเรื่องการให้ข้อมูลเท็จต่อสังคม เช่น งานที่ทำอยู่ ความมีชื่อเสียงหรือแม้แต่ชาติกำเนิดของตัวเอง

          นอกจากนี้บางคนก็เอาเรื่องในครอบครัวมาแฉมาเล่าสู่กันฟังเพราะเกิดความขัดแย้งในครอบครัว จนเกิดเรื่องเกิดราวถึงขั้นว่า จะฟ้องร้องกัน เพียงแค่นี้ก็พอจะให้สังคมตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านี้ ใครพูดเรื่องจริง ใครพูดไม่จริง และที่แน่ๆ คนที่พูดไม่จริงหรือเช็คข่าวแล้วเรื่องราวไม่ตรงกับที่เคยบอกไว้ ก็กลายเป็นถูกตราหน้าว่าเป็นคน "ชอบโกหก"

          ที่มากไปกว่านั้นสื่อหลายเจ้าก็ตั้งคำถามว่า ตกลงคนชอบโกหกหรือไม่เล่าเรื่องจริงนั้นป่วยทางจิตหรือเปล่า ทั้งๆ ที่ในชีวิตของคนเรานั้นผมเชื่อว่า อย่างน้อยสักครั้งที่เราก็เคยพูดโกหก แต่จะเพื่อเหตุผลอะไรนั้นก็คงหลากหลายแต่ก็มิได้หมายความว่า การพูดโกหกนั้นจะเป็นการทำสิ่งที่เลวร้ายจนให้อภัยมิได้

          ก่อนจะไปถึงการวิเคราะห์ว่า ตกลงป่วยหรือไม่ป่วยนั้น อยากจะถามกลับเหมือนกันว่า เวลาที่คนที่อยู่ทางหน้าจอทีวีแทบทุกวัน เช่น นักการเมืองบางคน บุคคลที่มีชื่อเสียงบางคน กำลังเล่าเรื่องราวของตัวเอง บ้างก็ปฏิเสธแก้ตัวเรื่องที่คนอื่นจับได้ว่า ตนเองไปทำผิดอะไรมา บ้างก็พยายามสร้างภาพว่า เป็นคนดีของสังคมนั้น เหล่านี้เรียกว่าโกหกหรือเปล่า และจำเป็นต้องจัดการหรือประนามด้วยหรือไม่

          ผมเห็นคนไทยก็ยังบริโภคเรื่องราวเหล่านี้อยู่ทุกวันและดูเหมือนจะเฉยๆ แทบไม่ได้ให้ความสำคัญสักเท่าไรนัก  บ้างก็ปลื้มไปตามภาพที่คนเหล่านั้นสร้าง บ้างก็มีอารมณ์ร่วมกับคนที่ตนเองรักตนเองชอบ  จนในที่สุดความผิดก็เงียบหายไป คนไทยก็ลืมง่าย เรื่องก็ลงเอยไปด้วยดีหรือไม่ดี ไม่สำคัญ

          แต่ที่แน่ๆ พอมีข่าวใหม่เข้ามาให้วิพากษ์วิจารณ์ต่อก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจให้หยิบยกมากล่าวถึงอีก หมุนเวียนกันไปไม่รู้จบสิ้น






โกหก...เพราะจิตป่วยหรือจิตป่วน

          โดยทั่วไปแล้วในวัยผู้ใหญ่สามารถแบ่งกลุ่มคนที่ชอบโกหกออกมาตามสาเหตุได้เช่นเดียวกัน ดังนี้

          กลุ่มที่ป่วยเป็นโรคจิตเวช  ป่วยเป็นโรคจิต  คนที่ป่วยแบบนี้ เวลาที่มีอาการหลงผิด ก็มักจะมีความคิด ความเข้าใจไปตามอาการหลงผิด (delusion) ของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็เล่าเรื่องและคล้อยตามความคิดที่ผิดปกติไปเรื่อยๆ ในขณะนั้น ดูเหมือนเป็นการพูดโกหก แต่ผมเองไม่อยากใช้คำนี้ น่าจะเรียกว่า พูดเรื่องที่ไม่จริงเสียมากกว่า(ซึ่งไม่ได้เป็นการเจตนา) หากมีใครขัดใจหรือใครจะมาลบล้างคงไม่ได้ และจะรู้สึกโกรธและไม่พอใจ

          โดยทั่วไป กลุ่มนี้เจอไม่มากนัก (ประมาณว่า ร้อยละ 1 ถึง 2 ของประชากรในประเทศ)  แต่ก็พบบ้างเวลาที่พูดออกมาเป็นเรื่องเป็นราว แต่พอฟังให้ดีๆ เรื่องราวก็ยังคงไม่ปะติดปะต่อหรือเล่าเรื่องที่เป็นโลกส่วนตัวของตัวเองมาก เกินไป และบางรายก็จะมีอาการประสาทหลอน เช่น หูแว่วร่วมด้วย

          กลุ่มที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ผู้ป่วยเหล่านี้บางครั้งมีการพูดเรื่องที่ไม่จริง เพราะมีความหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะต่อสู้กับความจริง ทนไม่ได้กับความเจ็บปวดในโลกแห่งความเป็นจริง

          ดังนั้น การพูดเรื่องราวต่างๆที่ไม่เป็นจริงก็เหมือนกับการพูดให้ตัว เองรับรู้ในเรื่องที่ไม่เป็นจริง แต่ไม่เจ็บปวดคงจะดีกว่า ทำบ่อยๆจนกลายเป็นหลอกตัวเอง แต่ลึกๆในใจก็รู้ดี เพราะฉะนั้นแม้หน้าจะชื่น แต่ก็อกตรม อยู่ดีครับ

          กลุ่มที่มีปัญหาทางด้านบุคคลิกภาพ เรียกว่า  "พูดเท็จโดยกมลสันดาน"  ซึ่งอาจจะอยู่ติดตัวไปอีกนานจนแก่ชราเลยก็ได้ หากไม่คิดกลับตัวกลับใจ  ดังจะได้กล่าวโดยละเอียดต่อไป


4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-25 08:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-11-25 09:41

คนชอบโกหกกับสิบแปดมงกุฏ



          กรณีนี้คงเป็นกรณีที่พบมากที่สุดในสังคมไทย ผมมิได้บอกว่า คนที่พูดโกหกทุกคนเป็นสิบแปดมงกุฎทั้งหมด เพราะเชื่อว่า หลายคนก็เป็นคนที่มีจิตใจดี ไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกลวงใคร

          แต่บางครั้งที่ไม่ได้พูดความจริงก็ด้วยเหตุผลที่ชั่งน้ำหนักแล้วว่า การพูดความจริงออกไปอาจจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าพูดโกหกไปก่อนชั่วคราว  ตัวอย่างเช่น กรณีที่ญาติยังไม่กล้าที่จะบอกความจริงว่า ผู้ป่วยคนนั้นป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะสุดท้าย ซึ่งจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่หากบอกความจริงทันทีแก่ผู้ป่วยก็อาจจะทำให้ตกใจ ช็อค และอาจจะอาการแย่ลงอย่างรวดเร็วจนเสียชีวิตเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

          อย่างไรก็ตาม แม้ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะรับรู้ความเจ็บป่วยของตนเองก็ตามการเลือกกาละเทศะในการพูดความจริงเพื่อบอกข่าวร้ายนั้นก็ถือว่า ยังมีความสำคัญอยู่



          ส่วนประเภทที่อ้าง (แบบแก้ตัว) ว่าไม่กล้าที่จะพูดความจริงหรือมีบางทีก็ฟังดูมีหลักการ ในความเป็นจริงแล้วเรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่คนก็มักจะรู้ทัน แต่การจับให้ได้คาหนังคาเขาก็มิใช่เรื่องง่าย เพราะคนที่กระทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่นั้นมักจะมีความสามารถในการหลบหลีกได้ ไปเรื่อยๆ อาจจะใช้เวลานานมากที่จะจับผิดข้อมูลได้

          อย่างไรก็ตาม หากเราเชื่อว่าเวรกรรมมีจริงนั้น จะเห็นได้ว่าการโกหกต้องใช้พลังงานในการสร้างเรื่องราวต่างๆอย่างมากมายมหาศาลและต้องอาศัยความจำและสมาธิอย่างมากในการให้เรื่องราวปะติดปะต่อกันได้เหมือนในบทละครน้ำเน่าทั้งหลาย แต่ในที่สุดมักจะพลาดจนมุม เพราะการโกหกมากๆจนเรื่องราวบานปลายออกไปนั้นมักจะทำให้สิ่งที่ไม่สามารถจะ เป็นจริงได้โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีคนหลายคนที่แม้ว่าพยายามจะหลอกคนอื่นแล้วไม่สำเร็จ ก็เลยใช้กลไกทางจิตชนิดที่เรียกว่า Pseudologia Fantastica ในการหลอกตัวเองก่อนและพ่วงด้วยการหลอกผู้อื่นด้วย

         Pseudologia Fantastica  เป็นคำที่ใช้กันวงการจิตเวชและจิตวิทยา เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของมนุษย์ในการบอกกล่าวเล่าเรื่องต่างๆตามที่ตนเอง เข้าใจหรือต้องการให้เป็นอย่างนั้น การพูดเรื่องราว ต่างๆ ที่ไม่เป็นความจริงกรอกหูตนเองอยู่ซ้ำๆบ่อยๆ บางคนใช้วิธีการแบบนี้มาตลอดทั้งชีวิต  จนในที่สุดคนคนนั้นก็จะคิดว่าเรื่องที่ตนเองพูดโกหกอยู่นั้นเกิดขึ้นจริงๆ และเป็นเรื่องจริง หากพูดออกสู่สาธารณะ ก็จะทำให้คนในสังคมเชื่อว่าเรื่องโกหกนั้นเป็นเรื่องจริงในที่สุด



          แต่ทั้งนี้หากมีการพิสูจน์ตามกระบวนการกฎหมายแล้วเป็นเรื่องไม่จริง ก็ต้องรับโทษในที่สุด  วิธีการแบบนี้พบได้มากในกลุ่มคนที่เป็น Psychopath หรือ Sociopath เรียกง่ายๆว่า "สันดานโจร" นั่นเอง  และไม่มีการเลือกชั้นวรรณะ การศึกษา และฐานะทางสังคม สามารถพบได้ทั่วไป  ที่สำคัญที่สุดคือ "ไม่ได้เป็นความเจ็บป่วยทางจิตเวช" เพื่อใช้ในการลดหย่อนหรือเป็นข้ออ้างในการไม่ต้องรับโทษ



          คนประเภทนี้มีความสามารถในการเล่นละครน้ำเน่า หลอกคนทั่วๆไป และที่สำคัญก็คือหลอกตัวเองด้วย  คนประเภทนี้เป็นกลุ่มที่ยากเกินการเยียวยา  จุดจบของคนชอบโกหกประเภทนี้มีอยู่ 2 ที่ คือ 1.ติดคุกหรือถูกดำเนินคดี และ 2.อาจจะถูกฆ่าตายในที่สุด
*


          เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณดูข่าวคนพวกนี้ออกมาบีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้ โกหกหลอกลวงคนทั้งประเทศ ก็ใช้สติพิจารณาสักนิดก็ได้ครับว่า คุณอาจจะกำลังดู "ละครน้ำเน่า" อยู่แค่นั้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ที่มา.http://hilight.kapook.com
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-11-25 08:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เนื้อแท้ของคนโกหก




ในชีวิตของคนเรานั้น ต้องมีสักครั้งละที่ โกหก ซึ่งโดยส่วนใหญ่เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้เกิดความอับอาย หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากแรงกดดันภายนอกของสังคม เราลองมาแยกแยะประเภทของการโกหกดูสิครับว่าได้สักกี่ประเภท

1. โกหกเพื่อมารยาท เป็นประเภทที่มีผลเสียน้อยที่สุดเพราะไม่มีเจตนาจะทำให้คนอื่นเสียหายหรือเป็นอันตราย แต่มีเจตนาเพื่อจะทำให้คนอื่นพอใจเรียกว่าเป็นการรักษาน้ำใจกัน เช่น "ไม่ได้พบกันตั้งนาน สวยไม่เปลี่ยนเลย" คนส่วนใหญ่มักจะไม่คิดว่าเป็นการโกหกด้วยซ้ำ นอกจากคนที่จริงจังต่อโลกเกินไปต่อต้านพฤติกรรมนี้เพราะถือว่าไม่จริงใจต่อกัน


2. โกหกเพื่อป้องกันอันตราย เป็นการโกหกประเภทที่ใช้มากที่สุด เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่จะต้องป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเพื่อความอยู่รอด ลงไปถึงความเจ็บปวด ขมขื่น ละอายใจ อับอาย แม้กระทั่งเรื่องของศักดิ์ศรี


3. โกหกเพื่อผลประโยชน์ เป็นประเภทที่ใช้มากพอกัน เพื่อป้องกันอันตรายที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์โดยตรง เช่น ขู่ให้ฝ่ายตรงห้ามรู้สึกกลัว เป็นการป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้น และอาจมีผลในการเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามการโกหกเพื่อผลประโยชน์อาจไม่จำเป็นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอันตรายเสมอเช่น การโฆษณาชวนเชื่อ เป็นต้น


4. โกหกเพื่อหาความยุติธรรม เป็นการโกหกเพื่อฝึกนิสัยมนุษย์ให้ไม่เห็นแก่ตัว มักจะเกี่ยวข้องกับคำมั่นสัญญา กฎเกณฑ์หรือกติกาต่าง ๆ เช่น พ่อแม่บอกกับลูก ๆ ว่ารักลูกเท่ากันหมดทุกคน , พ่อค้าสัญญาต่อกันว่าจะไม่ค้าขายทำลายกันเอง เป็นต้น กฎและกติกานี้ ยังรวมถึงเรื่องจริยธรรม และจรรยาบรรณของวิชาชีพอีกด้วย


5. โกหกเพื่อหาความจริง การโกหกประเภทนี้มักเป็นพวกนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักกฎหมาย และความศรัทธาในศาสนา มีนักวิทยาศาสตร์ไม่น้อยที่ต้องบิดเบือนความจริงในการทดลอง นักวิจัยไม่น้อยที่ได้ผลออกมาแล้วผิดเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงพยายามหาหลักฐานต่าง ๆ มาอ้างอิงมาแทนความจริงที่เกิดขึ้น หรือคนที่ต้องการเผยแผ่ศาสนาอาจใช้วิธีในการจูงใจให้ผู้อื่นคล้อยตาม


6. นักโกหกอาชีพ เป็นคนที่โกหกในเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องโกหกจนดูเป็นงานประจำไป คนประเภทนี้มีพรสวรรค์ในการพูด การสร้างเรื่อง เพราะตัวเขาเองยืนอยู่ระหว่างกลางของความจริงกับจินตนาการ นักโกหกอาชีพนั้นไวกว่านักโกหกจำเป็นมาก เขาจะรู้ทันทีว่ามีใครกำลังจับโกหกเขาอยู่ แล้วเขาก็จะหันมาเปลี่ยนเรื่องเป็นเรื่องจริงบ้างเรื่องแต่งบ้าง จนคนจับไขว้เขวไปเอง
ลักษณะของคนชอบโกหก



ดูเป็นคนน่าสนใจ น่าคบ มีลักษณะเชื่อมั่นในตนเอง โดยเฉพาะในด้านความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นคนมีเพื่อนมาก ท่าทางดูเป็นกันเอง แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหน้ากาก เป็นบุคลิกปลอมที่สร้างขึ้นมา เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ภายในใจ
ความจริงแล้ว เขาเป็นคนว้าเหว่ มีปมด้อย ชีวิตไร้จุดหมาย ขาดความเชื่อมั่น ไม่สนิทกับใครได้อย่างจริงใจเพราะไม่ค่อยไว้ใจคน และเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความรู้สึกละอายใจที่เกาะฝังอยู่ในส่วนลึกของความกลัวนั่นเอง


ข้อมูลจาก www.kunkroo.com
โกหก จะเป็นโกหกสีขาว สีดำ กุศโลบาย ฯลฯ
ไม่ว่าจะใช้คำไหนให้ดูดียังไง มันก็คือโกหก
เยี่ยมๆๆๆ
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-4 22:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มันเป็นกุศโลบาย
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-12 04:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โกหกเพื่อในเราอยู่ในเกมที่เขากำหนด
เยี่ยม
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้