ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
คณะศิษย์หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ (คศช.)
›
พูดคุยตามประสา คศช.
»
คุณโกหกเก่งรึเปล่า???
1
2
/ 2 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 4745
ตอบกลับ: 19
คุณโกหกเก่งรึเปล่า???
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2013-11-25 07:27
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-3-15 08:00
แบบทดสอบ: ทายใจ... คุณโกหกเก่งรึเปล่า???
ถ้าเกิดว่าคุณกำลังหลงอยู่ในป่า แล้วคุณก็ไปเจอถ้ำที่ในป่า
และแล้วก็เห็นอะไร วับๆแวมๆ คุณคิดว่าในถ้ำจะมีอะไร
1.ศพ
2.ลูกหมาป่า
3.หีบสมบัติ
4.กระป๋องเปล่าๆ
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-11-25 07:36
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เฉลย
V
V
V
V
V
V
เฉลย
1.ศพ คุณจะไม่หลอกลวงหวานใจคุณยังไงก็จะไม่ทำ และจะไม่ยอมให้หวานใจคุณตกใจเล่นเป็นแน่
2.ลูกหมาป่า คุณเจ้าอารมณ์ ถ้ามีโอกาสก็อยากลองนอกใจดูสักครั้ง
3.หีบสมบัติ คุณอาจจะคิดนอกใจแฟนคุณบ่อยๆ แต่แค่คิดเล่นๆ
4.กระป๋องเปล่าๆ คุณโกหกปริ้นปร้อนเก่งจริงๆ เผลอเป็นไม่ได้เชียว
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-11-25 08:09
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-11-25 09:41
เรื่องของคนโกหก...ความจริงที่ควรรู้
เรื่องของคนโกหก...ความจริงที่ควรรู้ (มติชนออนไลน์)
โดย นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์
ช่วงนี้มีข่าวคราวอื้อฉาวในแวดวงบันเทิงบ่อยครั้งที่พูดถึงเรื่องของดารา และครอบครัวของดาราบางคน มักไม่พ้นเรื่องส่วนตัว เรื่องเงินเรื่องทอง
ที่เป็นข่าวโด่งดังก็เห็นจะเป็นเรื่องการให้ข้อมูลเท็จต่อสังคม เช่น งานที่ทำอยู่ ความมีชื่อเสียงหรือแม้แต่ชาติกำเนิดของตัวเอง
นอกจากนี้บางคนก็เอาเรื่องในครอบครัวมาแฉมาเล่าสู่กันฟังเพราะเกิดความขัดแย้งในครอบครัว จนเกิดเรื่องเกิดราวถึงขั้นว่า จะฟ้องร้องกัน เพียงแค่นี้ก็พอจะให้สังคมตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านี้ ใครพูดเรื่องจริง ใครพูดไม่จริง และที่แน่ๆ คนที่พูดไม่จริงหรือเช็คข่าวแล้วเรื่องราวไม่ตรงกับที่เคยบอกไว้ ก็กลายเป็นถูกตราหน้าว่าเป็นคน "ชอบโกหก"
ที่มากไปกว่านั้นสื่อหลายเจ้าก็ตั้งคำถามว่า ตกลงคนชอบโกหกหรือไม่เล่าเรื่องจริงนั้นป่วยทางจิตหรือเปล่า ทั้งๆ ที่ในชีวิตของคนเรานั้นผมเชื่อว่า อย่างน้อยสักครั้งที่เราก็เคยพูดโกหก แต่จะเพื่อเหตุผลอะไรนั้นก็คงหลากหลายแต่ก็มิได้หมายความว่า การพูดโกหกนั้นจะเป็นการทำสิ่งที่เลวร้ายจนให้อภัยมิได้
ก่อนจะไปถึงการวิเคราะห์ว่า ตกลงป่วยหรือไม่ป่วยนั้น อยากจะถามกลับเหมือนกันว่า เวลาที่คนที่อยู่ทางหน้าจอทีวีแทบทุกวัน เช่น นักการเมืองบางคน บุคคลที่มีชื่อเสียงบางคน กำลังเล่าเรื่องราวของตัวเอง บ้างก็ปฏิเสธแก้ตัวเรื่องที่คนอื่นจับได้ว่า ตนเองไปทำผิดอะไรมา บ้างก็พยายามสร้างภาพว่า เป็นคนดีของสังคมนั้น เหล่านี้เรียกว่าโกหกหรือเปล่า และจำเป็นต้องจัดการหรือประนามด้วยหรือไม่
ผมเห็นคนไทยก็ยังบริโภคเรื่องราวเหล่านี้อยู่ทุกวันและดูเหมือนจะเฉยๆ แทบไม่ได้ให้ความสำคัญสักเท่าไรนัก บ้างก็ปลื้มไปตามภาพที่คนเหล่านั้นสร้าง บ้างก็มีอารมณ์ร่วมกับคนที่ตนเองรักตนเองชอบ จนในที่สุดความผิดก็เงียบหายไป คนไทยก็ลืมง่าย เรื่องก็ลงเอยไปด้วยดีหรือไม่ดี ไม่สำคัญ
แต่ที่แน่ๆ พอมีข่าวใหม่เข้ามาให้วิพากษ์วิจารณ์ต่อก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจให้หยิบยกมากล่าวถึงอีก หมุนเวียนกันไปไม่รู้จบสิ้น
โกหก...เพราะจิตป่วยหรือจิตป่วน
โดยทั่วไปแล้วในวัยผู้ใหญ่สามารถแบ่งกลุ่มคนที่ชอบโกหกออกมาตามสาเหตุได้เช่นเดียวกัน ดังนี้
กลุ่มที่ป่วยเป็นโรคจิตเวช ป่วยเป็นโรคจิต
คนที่ป่วยแบบนี้ เวลาที่มีอาการหลงผิด ก็มักจะมีความคิด ความเข้าใจไปตามอาการหลงผิด (delusion) ของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็เล่าเรื่องและคล้อยตามความคิดที่ผิดปกติไปเรื่อยๆ ในขณะนั้น ดูเหมือนเป็นการพูดโกหก แต่ผมเองไม่อยากใช้คำนี้ น่าจะเรียกว่า พูดเรื่องที่ไม่จริงเสียมากกว่า(ซึ่งไม่ได้เป็นการเจตนา) หากมีใครขัดใจหรือใครจะมาลบล้างคงไม่ได้ และจะรู้สึกโกรธและไม่พอใจ
โดยทั่วไป กลุ่มนี้เจอไม่มากนัก (ประมาณว่า ร้อยละ 1 ถึง 2 ของประชากรในประเทศ) แต่ก็พบบ้างเวลาที่พูดออกมาเป็นเรื่องเป็นราว แต่พอฟังให้ดีๆ เรื่องราวก็ยังคงไม่ปะติดปะต่อหรือเล่าเรื่องที่เป็นโลกส่วนตัวของตัวเองมาก เกินไป และบางรายก็จะมีอาการประสาทหลอน เช่น หูแว่วร่วมด้วย
กลุ่มที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
ผู้ป่วยเหล่านี้บางครั้งมีการพูดเรื่องที่ไม่จริง เพราะมีความหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะต่อสู้กับความจริง ทนไม่ได้กับความเจ็บปวดในโลกแห่งความเป็นจริง
ดังนั้น การพูดเรื่องราวต่างๆที่ไม่เป็นจริงก็เหมือนกับการพูดให้ตัว เองรับรู้ในเรื่องที่ไม่เป็นจริง แต่ไม่เจ็บปวดคงจะดีกว่า ทำบ่อยๆจนกลายเป็นหลอกตัวเอง แต่ลึกๆในใจก็รู้ดี เพราะฉะนั้นแม้หน้าจะชื่น แต่ก็อกตรม อยู่ดีครับ
กลุ่มที่มีปัญหาทางด้านบุคคลิกภาพ
เรียกว่า
"พูดเท็จโดยกมลสันดาน"
ซึ่งอาจจะอยู่ติดตัวไปอีกนานจนแก่ชราเลยก็ได้ หากไม่คิดกลับตัวกลับใจ ดังจะได้กล่าวโดยละเอียดต่อไป
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
4
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-11-25 08:09
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-11-25 09:41
คนชอบโกหกกับสิบแปดมงกุฏ
กรณีนี้คงเป็นกรณีที่พบมากที่สุดในสังคมไทย
ผมมิได้บอกว่า คนที่พูดโกหกทุกคนเป็นสิบแปดมงกุฎทั้งหมด เพราะเชื่อว่า หลายคนก็เป็นคนที่มีจิตใจดี ไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกลวงใคร
แต่บางครั้งที่ไม่ได้พูดความจริงก็ด้วยเหตุผลที่ชั่งน้ำหนักแล้วว่า การพูดความจริงออกไปอาจจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าพูดโกหกไปก่อนชั่วคราว ตัวอย่างเช่น กรณีที่ญาติยังไม่กล้าที่จะบอกความจริงว่า ผู้ป่วยคนนั้นป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะสุดท้าย ซึ่งจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่หากบอกความจริงทันทีแก่ผู้ป่วยก็อาจจะทำให้ตกใจ ช็อค และอาจจะอาการแย่ลงอย่างรวดเร็วจนเสียชีวิตเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม แม้ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะรับรู้ความเจ็บป่วยของตนเองก็ตามการเลือกกาละเทศะในการพูดความจริงเพื่อบอกข่าวร้ายนั้นก็ถือว่า ยังมีความสำคัญอยู่
ส่วนประเภทที่อ้าง (แบบแก้ตัว) ว่าไม่กล้าที่จะพูดความจริงหรือมีบางทีก็ฟังดูมีหลักการ ในความเป็นจริงแล้วเรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่คนก็มักจะรู้ทัน แต่การจับให้ได้คาหนังคาเขาก็มิใช่เรื่องง่าย เพราะคนที่กระทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่นั้นมักจะมีความสามารถในการหลบหลีกได้ ไปเรื่อยๆ อาจจะใช้เวลานานมากที่จะจับผิดข้อมูลได้
อย่างไรก็ตาม หากเราเชื่อว่าเวรกรรมมีจริงนั้น จะเห็นได้ว่าการโกหกต้องใช้พลังงานในการสร้างเรื่องราวต่างๆอย่างมากมายมหาศาลและต้องอาศัยความจำและสมาธิอย่างมากในการให้เรื่องราวปะติดปะต่อกันได้เหมือนในบทละครน้ำเน่าทั้งหลาย แต่ในที่สุดมักจะพลาดจนมุม เพราะการโกหกมากๆจนเรื่องราวบานปลายออกไปนั้นมักจะทำให้สิ่งที่ไม่สามารถจะ เป็นจริงได้โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีคนหลายคนที่แม้ว่าพยายามจะหลอกคนอื่นแล้วไม่สำเร็จ ก็เลยใช้กลไกทางจิตชนิดที่เรียกว่า Pseudologia Fantastica ในการหลอกตัวเองก่อนและพ่วงด้วยการหลอกผู้อื่นด้วย
Pseudologia Fantastica
เป็นคำที่ใช้กันวงการจิตเวชและจิตวิทยา เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของมนุษย์ในการบอกกล่าวเล่าเรื่องต่างๆตามที่ตนเอง เข้าใจหรือต้องการให้เป็นอย่างนั้น
การพูดเรื่องราว ต่างๆ ที่ไม่เป็นความจริงกรอกหูตนเองอยู่ซ้ำๆบ่อยๆ บางคนใช้วิธีการแบบนี้มาตลอดทั้งชีวิต จนในที่สุดคนคนนั้นก็จะคิดว่าเรื่องที่ตนเองพูดโกหกอยู่นั้นเกิดขึ้นจริงๆ
และเป็นเรื่องจริง หากพูดออกสู่สาธารณะ ก็จะทำให้คนในสังคมเชื่อว่าเรื่องโกหกนั้นเป็นเรื่องจริงในที่สุด
แต่ทั้งนี้หากมีการพิสูจน์ตามกระบวนการกฎหมายแล้วเป็นเรื่องไม่จริง ก็ต้องรับโทษในที่สุด วิธีการแบบนี้พบได้มากในกลุ่มคนที่เป็น Psychopath หรือ Sociopath เรียกง่ายๆว่า
"สันดานโจร"
นั่นเอง และไม่มีการเลือกชั้นวรรณะ การศึกษา และฐานะทางสังคม สามารถพบได้ทั่วไป ที่สำคัญที่สุดคือ
"ไม่ได้เป็นความเจ็บป่วยทางจิตเวช"
เพื่อใช้ในการลดหย่อนหรือเป็นข้ออ้างในการไม่ต้องรับโทษ
คนประเภทนี้มีความสามารถในการเล่นละครน้ำเน่า หลอกคนทั่วๆไป และที่สำคัญก็คือหลอกตัวเองด้วย คนประเภทนี้เป็นกลุ่มที่ยากเกินการเยียวยา จุดจบของคนชอบโกหกประเภทนี้มีอยู่ 2 ที่ คือ 1.ติดคุกหรือถูกดำเนินคดี และ 2.อาจจะถูกฆ่าตายในที่สุด
*
เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณดูข่าวคนพวกนี้ออกมาบีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้ โกหกหลอกลวงคนทั้งประเทศ ก็ใช้สติพิจารณาสักนิดก็ได้ครับว่า คุณอาจจะกำลังดู "ละครน้ำเน่า" อยู่แค่นั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ที่มา.
http://hilight.kapook.com
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
5
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-11-25 08:18
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เนื้อแท้ของคนโกหก
ในชีวิตของคนเรานั้น ต้องมีสักครั้งละที่ โกหก ซึ่งโดยส่วนใหญ่เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้เกิดความอับอาย หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากแรงกดดันภายนอกของสังคม เราลองมาแยกแยะประเภทของการโกหกดูสิครับว่าได้สักกี่ประเภท
1. โกหกเพื่อมารยาท เป็นประเภทที่มีผลเสียน้อยที่สุดเพราะไม่มีเจตนาจะทำให้คนอื่นเสียหายหรือเป็นอันตราย แต่มีเจตนาเพื่อจะทำให้คนอื่นพอใจเรียกว่าเป็นการรักษาน้ำใจกัน เช่น "ไม่ได้พบกันตั้งนาน สวยไม่เปลี่ยนเลย" คนส่วนใหญ่มักจะไม่คิดว่าเป็นการโกหกด้วยซ้ำ นอกจากคนที่จริงจังต่อโลกเกินไปต่อต้านพฤติกรรมนี้เพราะถือว่าไม่จริงใจต่อกัน
2. โกหกเพื่อป้องกันอันตราย เป็นการโกหกประเภทที่ใช้มากที่สุด เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่จะต้องป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเพื่อความอยู่รอด ลงไปถึงความเจ็บปวด ขมขื่น ละอายใจ อับอาย แม้กระทั่งเรื่องของศักดิ์ศรี
3. โกหกเพื่อผลประโยชน์ เป็นประเภทที่ใช้มากพอกัน เพื่อป้องกันอันตรายที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์โดยตรง เช่น ขู่ให้ฝ่ายตรงห้ามรู้สึกกลัว เป็นการป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้น และอาจมีผลในการเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามการโกหกเพื่อผลประโยชน์อาจไม่จำเป็นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอันตรายเสมอเช่น การโฆษณาชวนเชื่อ เป็นต้น
4. โกหกเพื่อหาความยุติธรรม เป็นการโกหกเพื่อฝึกนิสัยมนุษย์ให้ไม่เห็นแก่ตัว มักจะเกี่ยวข้องกับคำมั่นสัญญา กฎเกณฑ์หรือกติกาต่าง ๆ เช่น พ่อแม่บอกกับลูก ๆ ว่ารักลูกเท่ากันหมดทุกคน , พ่อค้าสัญญาต่อกันว่าจะไม่ค้าขายทำลายกันเอง เป็นต้น กฎและกติกานี้ ยังรวมถึงเรื่องจริยธรรม และจรรยาบรรณของวิชาชีพอีกด้วย
5. โกหกเพื่อหาความจริง การโกหกประเภทนี้มักเป็นพวกนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักกฎหมาย และความศรัทธาในศาสนา มีนักวิทยาศาสตร์ไม่น้อยที่ต้องบิดเบือนความจริงในการทดลอง นักวิจัยไม่น้อยที่ได้ผลออกมาแล้วผิดเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงพยายามหาหลักฐานต่าง ๆ มาอ้างอิงมาแทนความจริงที่เกิดขึ้น หรือคนที่ต้องการเผยแผ่ศาสนาอาจใช้วิธีในการจูงใจให้ผู้อื่นคล้อยตาม
6. นักโกหกอาชีพ เป็นคนที่โกหกในเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องโกหกจนดูเป็นงานประจำไป คนประเภทนี้มีพรสวรรค์ในการพูด การสร้างเรื่อง เพราะตัวเขาเองยืนอยู่ระหว่างกลางของความจริงกับจินตนาการ นักโกหกอาชีพนั้นไวกว่านักโกหกจำเป็นมาก เขาจะรู้ทันทีว่ามีใครกำลังจับโกหกเขาอยู่ แล้วเขาก็จะหันมาเปลี่ยนเรื่องเป็นเรื่องจริงบ้างเรื่องแต่งบ้าง จนคนจับไขว้เขวไปเอง
ลักษณะของคนชอบโกหก
ดูเป็นคนน่าสนใจ น่าคบ มีลักษณะเชื่อมั่นในตนเอง โดยเฉพาะในด้านความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นคนมีเพื่อนมาก ท่าทางดูเป็นกันเอง แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหน้ากาก เป็นบุคลิกปลอมที่สร้างขึ้นมา เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ภายในใจ
ความจริงแล้ว เขาเป็นคนว้าเหว่ มีปมด้อย ชีวิตไร้จุดหมาย ขาดความเชื่อมั่น ไม่สนิทกับใครได้อย่างจริงใจเพราะไม่ค่อยไว้ใจคน และเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความรู้สึกละอายใจที่เกาะฝังอยู่ในส่วนลึกของความกลัวนั่นเอง
ข้อมูลจาก
www.kunkroo.com
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
TATIE
TATIE
ออฟไลน์
เครดิต
2341
6
#
โพสต์ 2013-11-25 15:06
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โกหก จะเป็นโกหกสีขาว สีดำ กุศโลบาย ฯลฯ
ไม่ว่าจะใช้คำไหนให้ดูดียังไง มันก็คือโกหก
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
matmee2550
matmee2550
ออฟไลน์
เครดิต
2489
7
#
โพสต์ 2013-11-25 19:27
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เยี่ยมๆๆๆ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
8
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-4 22:56
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มันเป็นกุศโลบาย
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36144
9
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-12-12 04:16
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โกหกเพื่อในเราอยู่ในเกมที่เขากำหนด
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
54873
10
#
โพสต์ 2013-12-12 05:28
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เยี่ยม
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
หน้าถัดไป »
1
2
/ 2 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...