ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 12562
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ ปู่เจ้าสมิงพราย ~

[คัดลอกลิงก์]
ปู่เจ้าสมิงพราย

วันนี้ได้มีเวลาอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง พบเรื่องราวที่น่าหยิบยกมาหาข้อมูลที่น่าสนใจเล็กๆน้อยๆ  เรื่องของปู่เจ้าสมิงพรายนั้น เชื่อว่าหลายๆท่านคงได้ยินชื่อคุ้นหู หลายท่านที่ชื่นชอบเรื่องราวแนวนี้ อาจทราบประวัติและเรื่องราวกันแล้ว แต่ก็คงมีอีกหลายท่านในบางส่วนที่ยังไม่ทราบ วันนี้จึงนำมาบอกกล่าวเล่าให้ฟังผ่านการอ้างอิงจากแหล่งที่มาต่างๆ ทุกเรื่องราวโปรดใช้วิจารณญาณ   

ปู่เจ้าเป็นชื่อเทพเจ้าประจำภูเขาใหญ่แห่งหนึ่งในป่าใกล้เมืองสอง ซึ่งเป็นเมืองของพระเพื่อนพระแพงในวรรณคดีลิลิตเรื่องพระลอ นามเต็มคือ “ปู่เจ้าสมิงพราย” พระเพื่อนพระแพงได้ไปพบปู่เจ้าเพื่อขอให้ทำเสน่ห์ให้พระลอหลงใหล จากบ้านเมืองมาหานางที่เมืองสอง ปู่เจ้าสมิงพรายได้เข้าฌาน เพื่อจะได้รู้ว่าควรจะต้องช่วยทำเสน่ห์ให้หรือไม่ ปรากฏว่า แต่ปางก่อนนางทั้งสองทำบุญแล้วแสดงความปรารถนาขอพึ่งบารมีของปู่เจ้าเสมอ ๆ แต่บุญที่นางทั้งสองทำไว้นั้นอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์สม่ำเสมอ การที่ปู่เจ้าสมิงพรายจะช่วยเหลือให้นางสมปรารถนา ได้พระลอมาครอบครองนั้น ถึงจะเป็นผลสำเร็จก็จริง แต่ก็ไม่สมบูรณ์ เพราะเป็นผลกรรมของเจ้าตัวเอง บทบาทของปู่เจ้ามีอยู่ที่ทำเสน่ห์ให้พระลอลุ่มหลง

วิธีการทำเสน่ห์ของปู่เจ้านั้น ผู้ประพันธ์ประพันธ์เป็นร่ายสุภาพพรรณนาถึงปู่เจ้าสมิงพรายประกอบพิธีไสยศาสตร์ ทำให้พระลอเกิดความรู้สึกหลงใหลในพระเพื่อนพระแพง โดยเขียนยันต์ลงบนธงสามชาย แล้วติดไว้บนยอดต้นตะเคียน เมื่อลมพัดผ่านต้นตะเคียนก็นำมนต์ไปถึงพระลอ ทำให้เกิดความรัญจวนถึง ๒ นาง เวทมนตร์คาถาของปู่เจ้าในครั้งที่ ๑ และที่ ๒ นั้นปรากฏว่า ฝ่ายพระมารดาของพระลอสามารถหาหมอมาแก้ไขได้ พอถึงครั้งที่ ๓ ปู่เจ้าใช้ภูตผีปิศาจไปรบกับผีของเมืองพระลอ เมื่อได้ชัยชนะแล้วก็ใช้ “สลาเหิร” คือ การเสกหมากพลูให้กลายเป็นแมลงภู่ แล้วบินไปตกในพานหมากของพระลอ กลับกลายเป็นหมากพลูดังเดิม พอพระลอเสวย ก็เกิดการลุ่มหลง ต้องออกเดินทางมาหาพระเพื่อนพระแพง เมื่อมาถึงแม่น้ำกาหลง ปู่เจ้าก็ใช้ไก่แก้วซึ่งมีผีสิงไปล่อให้พระลอติดตามไปอย่างรวดเร็ว จนได้พบกับ ๒ นาง

ลักษณะรูปลักษณ์ของปู่เจ้าสมิงพรายนั้น มีลักษณะเป็นตาปะขาวเป็นผู้ถือพรต ที่อาศัยอยู่ในเขตภาคกลางตอนบน - ภาคเหนือ นามจริงไม่ปรากฏ ปรากฏแต่คำเรียกด้วยความเคารพว่า...ปู่เจ้าสมิงพราย เป็นผู้ทรงอาคม บรรลุโลกียฌาน มีฤทธิ์มาก เสกไก่แก้วให้พระลอตามมาจนพบพระเพื่อนพระแพง ในโองการไหว้ครู ทั้งทางไทยภาคกลางและทางภาคเหนือต่างมีคำกล่าวบูชาท่าน ว่าเป็นครูทางแก้คุณไสย์และครูทางด้านเสน่ห์ยาแฝด ปู่เจ้าสมิงพรายอีกตนหนึ่งมาจาก...เรื่องรามเกียรติ์ ชื่อ " ปู่ฤาษีอิสีสิงห์ " พระฤาษีตนนี้มีศักดิ์เป็นบิดาพระฤาษีกไลยโกฏิ ก่อนสิ้นสั่งไว้ว่าอย่าไปพบปะผู้คน...จงระวังวัวเขาอ่อน สัตว์ที่มีเขางอกอยู่บนอก เป็นภัยต่อเพศพรหมจรรย์ ปู่เจ้าสมิงพรายอีกตนหนึ่งมาจาก " พระฤาษีกาลสิทธิ์ " พระฤาษีตนนี้แปลงร่างเป็นเสือได้จริง ๆ แต่ต่อมาเกิดเหตุ แปลงกลับเป็นคนไม่ได้ ผู้คนนับถือเรียกว่าปู่สมิงพรายเช่นกัน ปู่สมิงพรายอีกตนหนึ่งที่เล่าขานกัน มาจากเรื่องราวของหลวงปู่กาหลง วัดเขาแหลม ท่านมีครูเป็นฤาษีสิงห์สมิงพราย ท่านเล่าว่าตอนท่านธุดงค์ได้พบทางสมาธิจิตกับฤาษีท่านนี้ ท่านมาร่วมบุญกับหลวงปู่และติดตามท่านมานานแล้ว...มีฤทธิ์มาก

รวมความแล้วสรุปย่อ ๆ ได้ว่าคำว่าปู่เจ้าสมิงพรายนั้น เป็นการเรียกรวมครูที่มีฤทธิ์ แปลงร่างเป็นเสือได้เป็นเจ้าป่า เพราะตั้งแต่อดีตมา...มีครูบาอาจารย์ที่มีฤทธิ์ชำนาญด้านนี้หลายท่าน ตั้งแต่วรรณคดีที่เก่าแก่ที่สุดอย่างเรื่องรามเกียรติ์และลิลิตพระลอ ดังนั้นจึงเป็นที่สับสนของบุคคลโดยทั่วไปถึงเรื่องของปู่เจ้าสมิงพราย ดังนั้นคงต้องพิจารณาว่ากันไปตามแต่ละท้องที่ แต่สำหรับครูทางไสยเวทย์โดยทั่วไปนั้น ก็นับเอาปู่เจ้าสมิงพรายจากเรื่องลิลิตพระลอเป็นหลัก เพราะพระฤาษีอิสีสิงห์...จากเรื่องรามเกียรติ์นั้น แม้มีหน้าเป็นเสือแต่ไม่ปรากฏกิติศัพท์เป็นที่รู้จักเท่าปู่ฤาษีกไลยโกฏิผู้เป็นลูก ซึ่งปรากฏกิติคุณมากกว่า เพราะเป็นหนึ่งในสี่ของผู้ร่วมหุงข้าวทิพย์ถวายท้าวทศรถ ส่วนพระฤาษีกาลสิทธิ์นั้น ท่านนี้มีประวัติเด่นที่ว่าแปลงร่างเป็นเสือแล้วกลับร่างเดิมไม่ได้ ในตำนานกล่าวเป็นสองนัยว่า...
1.มีร่างเป็นเสืออย่างนั้นตลอดไป.
2.ตัวเป็นคนแต่มีหัวเป็นเสือ เรื่องเดิมเข้าใจว่าจะเป็นเสือทั้งตัว แต่ผู้ที่นับถือสร้างหุ่นร่างเป็นฤาษีศรีษะเป็นเสือ เพื่อให้รู้กันว่าท่านเคยเป็นฤาษี.

การทำเสน่ห์ของปู่  ในครั้งแรก ท่านเอาไม้เลี้ยง ไม้ไล่ ไม้ไผ่ มาไขว้เป็นลูกกลมๆคล้ายตะกร้อ เขียนรูปพระลออยู่ตรงกลาง เขียนรูปพระนางทั้ง2กอดคนละข้างและเขียนยันต์เป็นขอบ และกวักมือไปที่ยอดต้นยางใหญ่7คนโอบ ยอดต้นยางค้อมมาหาปู่ ท่านเอาลูกตะกร้อลงยันต์นั้นวางบนยอดยางและปล่อยให้ดีดออกไปตามลมถูกพระลอ หลังจากนั้นพระลอก็เพ้อคลั่งอยากไปหาพระเพื่อนพระแพง เสด็จพ่อเห็นท่าไม่ดี รู้ว่าลูกโดนของ จึงไปหาหมอหายาดีทั่วสารทิศมารักษา ในที่สุดครั้งแรกคณะแพทย์หลวง
ก็สามารถแก้ใด้
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-30 18:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อปู่เจ้าท่านรู้ดังนั้นก็เอาใหม่ คราวนี้เปลี่ยนเป็น เอาธงสามชายมา เขียนยันต์ลงไปมากกว่าเก่า แล้วใช้ต้นตะเคียนขนาด9คนโอบ โน้มลงมาแล้วดีด ธงสามชายนั่นไป ถูกพระลอเป็นครั้งที่สอง คราวนี้พระลอเพ้อคลั่งยิ่งกว่าครั้งเก่า หมอเก่งในเมืองต่างจนปัญญากัน จึงต้องไปเชิญหมอชื่อ ปู่หมอสิทธิไชย ซึ่งอาศัยอยู่ในป่าชานเมืองมารักษา ปู่หมอทำพิธีเชิญบารมีครูบาอาจารย์และเทพในเมืองมารักษา ในที่สุดก็ช่วยถอนใด้เป็นครั้งที่สอง

เมื่อปู่เจ้าเห็นดังนั้น ท่านจึงคิดจัดการให้แตกหัก  ท่านจึงเชิญเทวดาและผีพรายต่างๆมาเป็นกองทัพ เพื่อจะบุกเข้าไปสู้กับเทวดาที่รักษาเมืองสรอง  บรรดาเทพและพรายที่มาช่วยปู่เจ้าต่างขี่เสือ สิงห์ แรด และสัตว์ดุร้ายต่างๆมากมาย ตามความบทนี้
๑๔๔ ปู่รำพึงถึงเทพดา หากันมาแต่ป่า มาแต่ท่าแต่น้ำ มาแต่ถ้าคูหา ทุกทิศมานั่งเฝ้า พระปู่เจ้าทุกตำบล ตนบริพารทุกหมู่ ตรวจตราอยู่ทุกแห่ง ปู่แต่งพระพนัสบดี ศรีพรหมรักษ์ยักษกุมาร บริพารภูตปีศาจ ดาเดียรดาษมหิมา นายกคนแลคน ตนเทพผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิ์ชาญเหลือหลาย ตั้งเป็นนายเป็นมุล ตัวขุนให้ขี่ช้าง บ้างขี่เสือขี่สีห์ บ้างขี่หมีขี่หมู บ้างขี่หมูขี่เงือก ขี่ม้าเผือกผันผาย บ้างขี่ความขี่แรด แผดร้องก้องน่ากลัว ภูตแปรตัวหลายหลาก แปรเป็นกากภาษา เป็นหัวกาหัวแร้ง แสร้งเป็นหัวเสือหัวช้าง เป็นหัวกวางหัวฉมัน ตัวต่างกันพันลึก ละคึกกุมอาวุธ เครื่องจะยุทธ์ยงยิ่ง เต้นโลดวิ่งระเบง คุกเครงเสียงคะครื้น ฟื้นไม้ไหล้หินผา ดาด***ันผาดเผ้ง ระเร้งร้องก้องกู่เกรียง เสียงสะเทือนธรณี เทียบพลผีเสร็จสรรพ ปู่ก็บังคับทุกประการ จึ่งบอกสารอันจะใช้ ให้ทั้งยามนตร์ดล บอกทั้งกลอันจะทำ ให้ยายำเขาเผือด มนตราเหือดหายศักดิ์ ให้อารักษ์เขาหนี ผีเขาแพ้แล้วไซร้ กูจึ่งจะใช้สลาเหิร เดิรเวหาไปสู่ เชิญพระภูธรท้าว ชักมาสู่สองหย้าว อย่าคล้าคำกู สั่งนี้ ฯ

ในที่สุดกองทัพของปู่ก็บุกไปสู้กับกองทัพของพระเสื้อเมืองสรอง และเอาชนะพระเสื้อเมืองใด้ ผีป่าต่างบรรดาลให้เกิดอาเพศทั่วเมืองสรวง ฟ้าผ่า ฟ้าเหลือง เกิดเมฆหมอก  ปู่หมอสิทธิไชยเห็นดังนั้นก็ถอดใจทันที ทูลพระราชาไปตามตรงว่าไม่สามารถสู้กับปู่เจ้าใด้เลยหยูกยาทั้งหลายก็ถูกบริวารปู่เจ้าถอนเสื่อมไปหมด หลักจากที่ใด้ชัยชนะทางผีแล้ว ปู่เจ้าท่านก็เสกหมากเป็นแมลงภู่บินเข้าไปในวังตกลงในเชี่ยนหมาก(วิชานี้ในเรื่องเรียกสลาเหิน) พระลอเสวยหมากคำนั้นเข้าไปก็ใด้เรื่อง เกิดอาการคุ้มคลั่งจะออกป่าให้ใด้ แม้แต่ หมอสิทธิไชยก็ไม่สามารถช่วยใด้แล้ว เพราะเทวดาประจำเมืองหนีไปหมดแล้ว ในที่สุดพระบิดามาร***็ห้ามไม่ไหว และในที่สุดพระลอก็ออกป่าไป ในที่สุด ....จึงนับเป็นเรื่องส่วนหนึ่งของปู่เจ้าสมิงพรายจากเรื่องพระลอท่านจึงถือเป็นบรมครูด้านเสน่ห์และภูตพราย

แหล่งที่มา
yimwhan
dalinews

กราบนมัสการครับ

ขอบพระคุณข้อมูลครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้