ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่ชื่น ต่างเที่ยวเสาะแสวง
วัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ปลุกเสกอธิฐานจิตไว้ คงจะไม่มีใครเถียง
ทุกคน มีความปารถนาที่จะได้ครอบครองวัตถุรุ่นหลัก รุ่นเด่น รุ่นดัง
แบบพิเศษ มีน้อยหายาก เป็นสุดยอดที่สุดแห่งที่สุด กันทั้งนั้น
บางคนสละเวลาทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังวาจา กำลังทรัพย์ ฯลฯ
เพื่อจะได้ครอบครองวัตถุมงคลของหลวงปู่ ที่เขาว่า ! ที่เขาลือ !
บ้างอยากได้จัด ก็ลงทุน ลงพื้นที่ ด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยม
แต่ก็ผิดหวังกลับมา ไม่ได้รุ่น ที่คุณคิดไปเองว่า " พิเศษ "
เพราะชาวบ้านเขาไม่มีกัน ถ้ามี ก็มีน้อยมากแทบจะนับบ้านได้
ส่วนใหญ่แล้วจะมีแต่รุ่นไม่เด่นไม่ดัง ที่คุณคิดไปเองอีกนั่นแหละว่า.
" ธรรมดา"
แล้วทำไมชาวบ้านถึงไม่ค่อยมีพระของหลวงปู่ชื่นกัน ??? ถ้าจะหาคำตอบก็ต้องหันกลับมาดูเรื่อง " ศรัทธา " กัน ในสมัยนั้น
หลวงปู่ท่านไม่ได้มีคนรู้จักมากมายเหมื่อนทุกวันนี้ ชาวบ้านแทบไม่
รู้จักท่านเลย และไม่เชื่อด้วยว่าท่านเก่งจริง ศูนย์รวมความศรัทธา
ของชาวบ้านจึงอยู่ที่ หลวงพ่อผาด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวบ้าน
แทบทุกหลังคาเรือน จะมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อผาด มากกว่า
ในเมือ ศรัทธาไม่มี และชาวบ้านแทบไม่รู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน
แล้วชาวบ้านเขาจะมีวัตถุมงคล หลวงปู่ชื่น ได้อย่างไร..
วัตถุมงคลของท่านจึงตกไปอยู่กับลูกศิษย์ต่างแดนที่เชื่อมั่น
ศรัทธาท่านเสียเป็นส่วนใหญ่
หลวงปู่ท่านเป็นเพียงพระชาวเขมรที่หนีไฟสงคราม เข้ามาขอพึ่ง
แผ่นดินในหลวงของเรา ก่อนจะมาพบหลวงปู่นิน ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส
วัดตาอี ท่านทั้งสองเคยรู้จักกันมาก่อน จึงได้ชักชวน
หลวงปู่ชื่นท่านมาอยู่วัดตาอี ท่านอยู่กุฎิเล็กๆ บริเวณป่าช้าภายในวัด
ท่านอยู่ของท่านเงียบๆ โดยไม่เคยอวดอ้าง " คุณวิเศษ" ที่ท่านมี
แต่อย่างใด ท่านไม่สนใจโลกภายนอก และโลกภายนอกก็ไม่ได้ให้
ความสำคัญท่านเหมื่อนกัน วัตถุมงคลของท่าน หลวงปู่ท่านทำไว้ดี อิทธิคุณ เพียบพร้อม
ทุกอย่าง เท่าเทียบกันหมด ท่านไม่ได้ให้ความสำคัญว่า..
อันนี่ ต้องดีกว่า อันโน่น รุ่นนี้ ต้องดีกว่า รุ่นนั้น
เราเอง ต่างหากที่ไปให้ความ " สำคัญ " แบ่งแยกกันเอง
ครั้งหนึ่งเคยมีลูกศิษย์จากต่างจังหวัดเดินทางมาหาท่าน
ก่อนจะกลับ ท่านได้ให้วัตถุมงคล เมื่อลูกศิษย์ท่านนั้นรับมาแล้ว
พลิกองค์พระดูปรากฎว่าไม่มีตะกรุด เขาเลยจะขอหลวงปู่เปลี่ยน
เอาแบบ " พิเศษ" ชนิดฝังตะกรุด แบบ"ธรรมดา" ไม่เอา
หลวงปู่บอกว่า แบบมีตะกรุดท่านแจกจ่ายไปหมดแล้ว
เขาเลยไม่ขอรับพระ เพราะค่านิยมที่เขาคิดไปเองว่า "ธรรมดา"
เมื่อเขาลากลับไปแล้ว หลวงปู่ท่านหยิบพระขึ้นมาดู ท่านคง
สะเทือนใจ ท่านพูดว่า พระของกู กูตั้งใจ ของกู ทุกองค์
แล้วมันไม่ " พิเศษ " ตรงไหน
สิ่งที่เราปรุงแต่งคิดไปเองว่าถ้ามีแล้วจะต้องสุดยอดเหนือกว่าใครๆ
ของดีบ้างครั้งมีมากมายเกลื่อนกราด แต่บ้างครั้งเรากลับไม่เห็นค่า
ของดีบ้างครั้งมันไม่ได้ดูกันแค่รูปลักษณ์ภายนอก
|