ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2600
ตอบกลับ: 4
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

คำภีร์ วีดาส

[คัดลอกลิงก์]
ดินแดนภารตะเป็นประเทศหนึ่งกลิ่นไอเรื่องราว
ความลี้ลับพิศวงยังคงอวลอยู่ในชีวิตประจำวัน
ของผู้คนในทุกวันนี้ในทุกๆพิธีกรรมและทุกๆความเชื่อ
จะมีสิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นมาเป็นเรื่องเดียวกันคือ
เรื่องการมี อยู่ของวิญญาณ โลกหลังความตาย
และการกลับชาติมาเกิดเป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่
ในคำภีร์ วีดาส ซึ่งเป็นคำภีร์ที่สำคัญต้นกำเนิด
แห่งศาสนาทุกศาสนาในอินเดีย

ในแต่ละท้องถิ่น
ของอินเดียมีผีประเภทที่แตกต่างกัน
บ้างก็กล่าวว่าผีบางจำพวกเป็นปีศาจร้าย
บ้างก็รอคอยการเอาชีวิตคนไปเพิ่ม
หรือ บางจำพวกก็เป็นวิญญาณที่ดีและ
แม้แต่บางที่อย่างใน มังกาลอฮ์ ใน รัฐกานาคะตา
ก็มีการบูชาผี



1.)ผีประเภทที่ 1 เรียกว่า โมหิณี เป็นผีที่มีชื่อเสียงมากชนิดหนึ่ง
จัดเป็นผีผู้หญิง หรือเด็กผู้หญิงที่ผิดหวังในความรัก
จนต้องฆ่าตัวตายหรือหญิงสาวที่ตายโหงหรือป่วย
หรือประสบอุบัติโดยที่ยังไม่ได้ทำสิ่งที่พวกเขา
อยากทำ ผีประเภทนี้ชาวอินเดียเชื่อว่าจะมีความ
เฮี้ยนมากและสิงค์สถิตย์อยู่ในที่ที่ตนปรารถนา





เชื่อกันว่าผีประเภทนี้จะล่อลวงผู้ชายที่พวกนางรู้สึก
ชอบหรือหลงรักให้เขาไปอยู่ในโลกของพวกนาง
หรือเอาไปตายด้วยนั้นเอง โดยโบราณเชื่อกัน
ว่าวิญญาณของพวกผู้ชายที่โดนเอาตัวไปจะ
ติดอยู่ในวังวนของผีสาวตลอดการ
ไม่สามารถหลุดพ้นออกไปเกิดได้ง่ายๆ
นอกจากจะมีการทำพิธีทางศาสนาแก้อาถรรพ์เสียก่อน




2.) ผีประเภทที่ 2เรียกว่า ชากิณี  
เป็นผีผู้หญิงประเภทที่แต่งงานแล้ว
แต่เสียชีวิตก่อนการแต่งงาน หรือโดนทำร้าย
จนเสียชีวิต หลังตายแต่งงานไม่นาน หรือ จากการป่วยไข้
ผีประเภทนี้ไม่จัดว่าอันตราย เพราะจะตามหลอก
หลอนเฉพาะคนที่ตนเองอาฆาตหรือทำ
ร้ายจิตใจนางตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น





3.) ดาคิณี ผีผู้หญิงที่เรียกโดยรวม
เวลาที่เราไม่รู้สาเหตุ, เวลา, หรือการตาย
อาจจะเป็น ชาคิณี หรือ โมหิณีก็ได้  

ในสมัยก่อนใช้เรียก แม่มดหรือผู้วิเศษ
ที่ทำคุณไสย์ เล่ากันว่าแม้แต่
เจ้าหญิง มัณดาวรา หนึ่งในพระโพธิสัตว์
ที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวธิเบต และเนปาล
กับทางจีนตะวันออก, แต่นางเป็นชาวอินเดียเหนือ
ผู้มีฌาณทิพย์ ก็ทรงโดนคนกล่าวหาว่าเป็น ดากิณีเช่นกัน





4.)กุตตี ไซทาน  :ผีประเภทนี้คือผีเด็ก  ผีประเภทนี้จะอ
อันตรายได้ถ้า พวก ทานทริค หรือพ่อมด
มาสะกดเรียกเอาผีเด็กไปใช้ในการทำเสน่ห์
หรือทำร้ายคน ก็คงคล้ายๆกุมารทอง
หรือเด็ก แท้งตายที่เอาไปทำของอะไรทำนองนั้น





5.)Brahmodoityas(Bengal: คือผีของคนที่ตายจากการการเป็นพรามณ์

6.)Skondhokatas(Bengal : เป็นพวกผีหัวขาดจากรถไฟชน


7.) นิชี ผีประเภทนี้ จะร้องเรียกชื่อคนตอนกลางคืน ซึ่งเชื่อว่าคนที่โดนเรียกและออกไปตามเสียงเรียกก็จะตาย





8.)โกลี ดิฟวา ผีที่วิ่งอยู่ตามป่า ผ่านต้นไม้และถือคบไฟในมือ






9.)กัลลัวตี, พันจัวตี, โกตี เชนไนยยะ
ผีพวกนี้เป็นผีของบุคคลที่มีชื่อเสียงซึ่ง
ตายในรูปแบบต่างๆและมีคนนำไปบูชา





10. กาติรี เป็นผีสาวอีกประเภทหนึ่ง
อาศัยอยู่นต้นกล้วยและมีผมยาว หน้าตาขาวซีด

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-7-16 06:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตำนานผีชื่อดังของอินเดีย


เมืองพานกาห์นั้นสร้างขึ้น
มาในปี 1612 โดย พระเจ้า มาโฑ สิงค์
เจ้าชายจากราชวงค์โมกุล
พานกาห์ มีปราการปราสาท
โบราณตั้งอยู่ใน มณฑล
อัลวาร์ ในรัฐ ราชสถาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
ของอินเดีย ซึ่งจากตัวเมืองมาที่ปราการ
แห่งนี้ด้วยระยะทาง 80 ก.ม
ที่สำคัญที่นี้เรื่องชือว่าผีดุที่สุดใน
เขตอินเดียตะวันตก, ในเวลากลางคืน
ไม่มีใครกล้าย่างกลายเข้าใกล้ซากปราการ
โบราณแห่งนี้เพราะกล่าวกันว่าเฮี้ยน
มีตำนานมามายที่เล่าว่าบริเวณที่แห่งนี้ต้องคำสาป

และแม้แต่รัฐบาลเองก็ยังเชื่อเช่นนี้จนแม้แต่กระทั้ง
มีป้ายเตือยผู้คนไม่ให้เข้าไปบริเวณนั้นหลังพระอาทิตย์ตกดิน
วิหารส่วนใหญ่ในพานกาห์จะเป็นวิหารของเทพหนุมาน
ตามตำนานเล่าว่า เจ้าหญิง รัตนาวดี วัย 18 ปีไม่สามารถ
หาคู่ครองในเขตพานกาห์ได้จึงขอแต่งงานกับ
จ้าวชายจากรัฐอื่น



แต่ในเขตมณฑลนี้เองที่มีหมอผีผู้หนึ่ง
นามว่า สิงค์ฆะ แอบตกหลุมรักในความงาม
ของเจ้าหญิงรัตนาวดีเข้าในระหว่างที่เห็นนางในตลาด
กระทั้งวันหนึ่งเขาพบนางต้นห้องของเจ้าหญิงเดิน
ไปซื้อเครื่องหอมในตลาดให้เจ้าหญิงสิงค์ฆะ
จึงแอบนำยาเสน่ห์ใส่ลงไปในขวดน้ำหอม
ที่หญิงรับใช้ของเจ้าหญิงซื้อ



แต่เจ้าหญิงทรงแอบเห็นผ่านทางหน้าต่างห้อง
นอนของงนางว่าสิงฆะได้ผสมยาเสน่ห์เพื่อจะ
ให้นางตกหลุมรักจนสติหลุดและเดินตามไปเป็น
เมียของเขาที่บ้าน ครั้นเมื่อได้ขวดน้ำหอมนั้นมา
เจ้าหญิงรัตนาวดีจึงทรงเขวี่ยงขวดนั้นใส่ก้อนหิน
ด้านล่างใกล้ๆกับที่ที่(ทานฑริก หมอผี) ยืนอยู่
ครั้นเมื่อน้ำมันหอมที่เจือปนเวทมนตร์แตะเนื้อหิน
หินนั้นก็ได้เคลื่อนและกลิ้งไปทับ สิงฆะ
พ่อมดหนุ่มผู้ทำเสน่ห์ใส่น้ำหอมของเจ้าหญิง




ทำให้พ่อมดสิงฆะบาทเจ็บจนถึงความตาย
ก่อนตายเขาได้สาปแช่งทุกคนในปราสาท
ของเจ้าหญิงว่าให้ตายโหงกันให้หมดและอย่า
ได้ผุดได้เกิดและเป็นผีเฝ้าปราสาทไป

ปรากฏว่าในปีต่อมาได้เกิดสงครามระหว่าง
พานกาห์ และอชัพกาห์ ไม่มีใครในปราสาท
รอดชีวิต ไม่เว้นแต่เจ้าหญิง รัตนาวดี


ด้วยเหตุนี้เองเมืองนี้จึงเป็นเมืองร้างแล
มีผีสิงค์สถิตย์มากมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หากใครเซิร์ชภาพในอินเตอร์เน็ตจะพบ
ว่ามีนักท่องเที่ยวมากมายที่สามารถถ้ายติดภาพผีของ พานกาห์



ชาวบ้านแถวนั้นกล่าวว่าไม่ว่าใครก็ตาม
ไปสร้างบ้านในบริเวณที่ของปราสาท
เพดานบ้านก็มีอันต้องพังทลายลงมาทุกครั้ง







3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-7-16 06:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ราโมจี เมืองภาพยนตร์ กรุงไฮเดอราบัด
อีกแห่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยน
ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นที่สิงค์สถิตย์ของผีทหาร
เพราะสร้างอยู่บริเวณพื้นที่ทำสงคราม





กับอีกแห่งที่น่าสนจคือ สนามบิน ราจีบ
คานธี กรุงไฮเดอราบัด ซึ่งเชื่อกันว่ามีผีสิงค์อยู่
เพราะช่วงก่อสร้างสนามบินได้มีคนถูกฆ่าตาย


และที่ป้อม ปราการทชานนิวารวดา
ซึ่งตำนานเล่าว่าได้มีเจ้าชายในราชวงค์
Peshwar ถูกสังหารโดยพระญาติของพระองค์
หลังจากนั้นในยามกลางคืนถ้าใครผ่านไปบริเวณ
นั้นก็จะได้ยินเสียพระองค์ร้องโหยหวนแบบตอน
ที่กำลังจะถูกคนร้ายรอบสังหาร





ดูมาส บีช คุจราช

สถานที่ฌาปนสถานดูมาซในคุชจาราช
เป็นที่ที่คนมากมายบอกว่าเฮี้ยนมาก
เพราะเต็มไปด้วยวิญญาณผู้ตาย
และหลายต่อหลายคนที่ไปที่นั้นจะเจอ
ประสบการณ์ประหลาดทีคล้ายกันคือ
ได้ยินเสียงคนพูดกระซิบที่หู ทั้งๆที่ไม่มีคน








































4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-7-16 06:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คนอินเดียนั้นเชื่อว่าผีผู้หญิงนั้นจะมีความเฮียน
มากกว่าผีผุ้ชายหลายเท่านัก
ณ หมู่บ้านในหิมาลายันประเทศ
มีบ้านของคหบดีหลังใหญ่หลังหนึ่งนามว่า บ้าน
กาปุระทาลา เป็นบ้านโบราณราวสมัยอาณานิคม
อังกฤษมีส่วนผสมผสานระหว่างสไตน์อินเดียกับยุโรป
มีผู้คนมากมายเจอประสบการณ์สุดสยองขวัญ
ที่บ้านหลังนี้






กล่าวกันว่าแถวหน้าคฤหาสน์ซึ่งอยู่ติดกับป่านั้นเอง
ที่มีคนขับรถผ่านตอนกลางคืนจะเจอหญิงสาวปั่น
จักรยานในความมืดตามหลังและร้องเรียกให้
คนขับจอดรถ หรือขอไปด้วย แต่ครั้นเมื่อรับ
หญิงสาวแปลกหน้าเข้ามาในรถหรือจอดรถลง
ไปคุย หล่อนกลับหายตัวไปอย่างน่าประหลาด






คนอินเดียนั้นเขามีวิธีป้องกันผีในระหว่าง
ขับรถตอนกลางคืนด้วยการฟังเพลงสวด
เทพ หนุมาน ชาลิสา
ที่ศาลเมืองบอมเบย์ ก็เป็นอีกที่ที่เรื่อง
ชื่อเรื่องความเฮี้ยน เพราะเคยมีฆาตกรรมเกิดขึ้น

ที่ชายหาดของเมืองคุจราชเคยเป็นที่เผาศพ
คนมากมายของศาสนาฮินดูที่ริมทะเล
ทำให้วิญญาณเหล่านั้นยังสถิตย์อยู่นอากาศ
บริเวณนั้นบ้างก็เล่าว่าถ้าไปเดินริมทะเลตอน
กลางคืนจะได้ยินเสียงกระซิบหรือคนพูด
แต่ถ้าเจอผีร้ายเข้าคนนั้นจะโดนสะกดจิค
ให้เดินลงไปตายในทะเล






ป่าทางตะวันตกของเบงกอลก็เรื่องชื่อ
เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับไม่แพ้ทะเลทรายทาง
ภาคตะวันตก หรือ ภูเขาหิมะทางเหนือ
Kurseong ที่ตีนเขาของป่าที่แสนจะทึบ
จนทำให้พระอาทิตย์ส่องลงมาได้ไม่มาก
และเต็มไปด้วยหนองน้ำเย็นๆ
มักจะมคนโดนลวงมาฆาตรกรรมแถวนี้เพราะเปลี่ยว
ระหว่างพื้นที่ราบเล็กๆระหว่างตีนเขา
และสำนักงานป่าไม้ มีคนตัดไม้ได้เล่าให้
ที่สำนักงานฟังว่าเจอประสบการณ์สยองขวัญ
ว่าเจอเด็กชายหัวขาดกลางถนนที่ในป่า  


ไม่ไกลกันในบริเวณแถบนี้ก็มีโรงเรียนวิคตอเรียน
สำหรับเด็กผูชาย ที่ต่างมีเรื่องเล่าลือว่ามัก
จะมีเสยงฝีเท้าคนเดินหน้าทางเดินห้องเรียน
ต่างๆทั้ๆที่ไม่ใช่เวลาพักและครูกับเด็กนักเรียนต่างอยู่ในห้อง

















ที่นิคม วรินทาวัน มีชายผู้หนึ่งฆ่าตัวตายในตึก
แห่งหนึ่งในย้านนี้ และหลังจากนั้นเขาก็ได้หลอก
หลอนผู้คนไปทั่ว ไม่ว่าจะด้วยการตบหน้ายามที่เฝ้าตึก
ซึ่งทำให้ยามเข้าใจผิดว่าเพื่อนยามอีกคนเป็นตบ
นอกจากนี้ยังมีผู้อยู่อาศัยในด้านนั้นเจอเขาปรากฏ
ตัวอย่างสยองขวัญอยู่บ่อยครั้งจนที่นี้เรื่องชื่อเรื่องความเฮี้ยน






5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-7-16 06:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้