ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 12411
ตอบกลับ: 67
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ลมปาก

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย metha เมื่อ 2013-8-26 14:56

( นางสาวนิตยา) ….ตีหน้าตาย...ขายน้ำคำลมปาก...18 มิถุนายน 2551
๏ กี่โครงการมืดดับกับอดีต                                    กี่รอยขีดกากบาทแล้วขาดค่า
กี่คำข้าวฝืนคำทั้งน้ำตา                                        กี่รากหญ้ารากหยั่งยังดักดาน
๏ นโยบายคายคมถ่มเรี่ยราด                                 เสกอากาศแต่งปั้นเป็นฝันหวาน
จนวันเคลื่อนเดือนคล้อยค่อยคืบคลาน                   มธุรสก็แหลกลาญเป็นเล่ห์ลวง
๏ เมื่อมีลิ้นกระดิกพลันพลิกลิ้น                             น้อยคำรินพิษภัยแสนใหญ่หลวง
ทิ้งเศษเศร้าซากหวังเจ็บฝังทรวง                            ไว้บวงสรวงวาจาปัญญาชน
๏ ชนบทหนอคนชนบท                                         ยังรันทดทุกข์ยากอีกมากหน
มิอยากจนแต่ใครให้ยากจน                                   ในวังวนสามานย์พวกผลาญเมือง
๏ หลากตำราคารมผสมเล่ห์                                  ความรวนเรเกิดก่ออยู่ต่อเนื่อง
ยิ่งจดจำเป็นความจริงยิ่งแค้นเคือง                         แท้แค่เรื่องไร้สาระคละน้ำลาย
๏ หากความสัตย์ลบเลือนก็เหมือนสัตว์                   ยากจักวัด “ค่าคน” บนความหมาย
ทุกวันนี้ใครเล่าใครไร้ยางอาย                                โกงภาษีตี  หน้าตาย  ขายน้ำคำฯ
...............................................
ที่มา http://www.thaipoet.net




2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-26 14:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย metha เมื่อ 2013-8-26 14:56

(รัตนา) ขมเพราะคำ
18 มิถุนายน 2551
๏ กลิ่นโสโครกคลุ้งเคล้าทุกคราวครั้ง                      กับความหวังให้ไว้ไม่มีเหลือ
มีเพียงผู้ปลิ้นปลอกหลอกแช่เกลือ                         จนหนังเนื้อผุพองนองน้ำตา
๏ ก่อสนุกสร้างทุกข์เข็ญเป็นทุกข์ยาก                  ยิ่งมายมากความโศกศัลย์สร้างปัญหา
เพราะซ่อนเร้นเล่นลิ้นจนชินชา                              เพียงปากอ้าความนัยไม่ซื่อตรง
๏ กี่คำว่าจะทำจำได้ไหม                                       กี่คำว่า “จริงใจ” ไม่ลืมหลง
กี่คำว่า “มิแปรผัน” จักมั่นคง                                 แล้วกี่คำ “ยืนยง” จักยืนยาว
๏ ไหนนิยามความสัตย์ซื่อแท้คือสัตว์                      ใครยืนหยัดสร้างเจ็บปวดอันรวดร้าว
ไหนกันหรือคือจะทำย้ำหลายคราว             ปั้นเรื่องราวด้วยวาจาตีหน้าตาย
๏ คมคายคำของคนปะปนเปื้อน                            ทั้งบิดเบือนเหลวไหลไร้จุดหมาย
ทั้งย้อนยอกกลอกกลับน่าอับอาย                           ช่างเหลือร้ายลามลุกขึ้นทุกที
๏ เพราะเป็นเพียงลมปากยากจะเชื่อ                       เพราะพร่ำเพรื่อเสมอไปในวันนี้
เพราะน้ำคำหลอกลวงดวงฤดี                               ความทุกข์ยากค่อยทวีทุกวี่วันฯ
...............................................

ที่มา http://www.thaipoet.net
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-26 14:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย metha เมื่อ 2013-8-26 14:56

(สุทธิวรรณ)  ลมปาก
26 มิถุนายน 2551
๏ เพียงลมปาก ยากนัก จักรู้ได้                               ทั้งหญิงชาย เอ่ยกัน ตามประสา
พูดเป็นร้อย เอ่ยเป็นสิบ มากวาจา                          ต่างภาษา ต่างที่มา ต่างท่าที
๏ บางคนพูด ฉอเลาะ หยอดคำหวาน                     เปรียบดั่งตาล หวานรส ให้สุขศรี
เพียงลมปาก อาบยาพิษ ไม่ปรานี                          ฟังบางที ว้าวุ่น สุดชีวา
๏ บางคนพูด น้ำท่วมทุ่ง เนื้อหาน้อย                       พร่ำเป็นร้อย พูดไปเรื่อย ไร้เนื้อหา
บ้างก็พูด พาตน หมดราคา                        เปรียบดั่งปลา ตายเพราะปาก ลำบากกาย
๏ จงพูดดี นั้นล้วนเป็น ศรีแก่ปาก                           ไม่ลำบาก พูดให้ดี มีความหมาย
หากพูดมาก ปากมีสี ให้วุ่นวาย                         จะหยาบคาย ไม่ต้องพูด เปลืองวาจา
๏ บางลมปาก หลากหลาย ให้ชวนคิด                    ให้ใช้จิต ไตร่ตรอง ถึงภาษา
อันปากร้าย แต่ใจดี ให้พึ่งพา                                คำพูดจา เตือนสติ จงคิดดี
๏ สุดท้ายนี้ ผู้เขียน อยากจะฝาก                           พูดไม่ยาก พูดให้ดี จะสุขขี
ใช้ความคิด พิจารณา จะได้ดี                                ดูท่าที ใช้ดูคน ใช่วาจาฯ
...............................................

ที่มาhttp://www.thaipoet.net
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-26 14:58 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
( ธันยกร) ลมปาก
26 มิถุนายน 2551

๏ พจมานคำพูดคนเหมือนลมปาก                         ช่างลำบากยากเย็นเสียจริงหนา
อันคำพูดของคนที่พูดจา                                      พูดออกมามีคุณค่าทางจิตใจ
๏ คนพูดดีไพเราะเสนาะหู                                    น่าเอ็นดูฟังแล้วน่าหลงใหล
มีคนชอบชื่นชมอยู่ร่ำไป                                        ทำสิ่งใดใครมิติต่างว่าดี
๏ คนพูดชั่วผู้คนมิชอบหน้า                                   ทั้งพูดว่านินทาหมิ่นศักดิ์ศรี
ถูกสังคมตอกย้ำไม่ปรานี                                      ทั้งชีวีไม่เคยมีสิ่งดีเลย
๏ บางคนพูดปากหวานดั่งโกสุม                             เหล่าผึ้งรุมติดดอมไม่วางเฉย
มีผู้คนชิดชอบชื่นชมเชย                                       ว่าเปิดเผยพูดจาน่าชื่นชม
๏ คนเรานั้นจะดีชั่วอยู่ที่พูด                                   จะพิสูจน์เอาความดีที่สั่งสม
รู้ได้ยากจริงจังดั่งอารมณ์                                      เป็นคารมย์จากปากออกใจมา
๏ เห็นดังนั้นเวลาพูดควรหยุดคิด                           นึกสักนิดก่อนพูดควรปรึกษา
ถามใจตัวก่อนลั่นเป็นวาจา                                   เป็นภาษาใช่พจมานลมปากคนฯ
...............................................

ที่มาhttp://www.thaipoet.net
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-26 14:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
( รัตน์พร) ลมปาก
27 มิถุนายน 2551
๏ ใครใคร่พูดพูดไปตามใจนึก                                ความรู้สึกยากรู้คิดไฉน
จะพูดจริงคิดจริงด้วยจริงใจ                                  หรือว่าไม่ไตร่ตรองก่อนพูดจา
๏อาจสุขสมระทมทุกข์ระรื่นจิต                              เข้าใจผิดบิดเบือนความเนื้อหา
หรือเสแสร้งแกล้งพูดด้วยมารยา                            ขึ้นอยู่กับวาจาที่เอ่ยไป
๏ มนุษย์เราล้วนร้อยเล่ห์เหลี่ยมนัก             วางกับดักคำอ่อนหวานพาหวั่นไหว
คำที่พูดแต่ละครั้งพรั่งพรูไป                                  ไม่ใส่ใจในวาจาค่าอนันต์
๏ คำสัญญาคำสาบานที่พร่ำบอก                          ไม่ลวงหลอกบอกรักดั่งของขวัญ
แต่ความจริงเป็นเพียงฝันกลางวัน                          ที่ลวงกันให้เจ็บช้ำซ้ำที่ใจ
๏ จะเชื่อใครฟังใครใคร่ครวญคิด                           ต้องพินิจพิจารณาอย่างหลงใหล
โบราณว่า “รู้หน้าไม่รู้ใจ”                                       ท่องเอาไว้ใส่จิตให้คิดจำ
๏ คำพูดคนสับสนและว้าวุ่น                                 คำร้ายกรุ่นปะปนชะน่าขำ
เคยสัญญาให้สัจจะแล้วไม่จำ                               แสนระกำช้ำ “ลมปาก” จากคำคนฯ
...............................................
   ที่มา http://www.thaipoet.net

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-26 15:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
(วัชรพล) ลมปาก
27 มิถุนายน 2551
๏ อันวาจาร่ำลือคือศักดิ์ศรี                                    ประหนึ่งมีรอยประทับประดับไว้
หนึ่งลมปากเปลี่ยนเสมือนหนึ่งดวงใจ                    คำพูดไซร้เปรียบเสมือนหนึ่งตัวตน
๏ อันคำพูดหอมหวานปานน้ำผึ้ง                            ที่ตราตรึงทั่วแขนงทุกแห่งหน
คอยแทะโลมประโคมบอกหลอกสัปดน                   จึ่งเป็นคนคอยประจบคบสอพลอ
๏ อันคำพูดเฉือนเชือดดังเลือดสาด                        คอยพูดปาดปะปนจนร้องขอ
คอยดับจิตคิดอกุศลทนรีรอ                                   คนนี้หนอลมปากภัยเข้าใส่เรา
๏ อันคำพูดน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรง                           มีแต่โคลงไม่มีเนื้ออย่าเชื่อเขา
ถึงพูดมากสาระนิดจิตอ่อนเบา                              ลมปากเขลาเบาปัญญาพาอับจน
๏ อันคำพูดชอบชักใบให้เรือเสีย                             ต้องไกล่เกลี่ยเกลี้ยกล่อมตะล่อมขอ
ออกนอกบทนอกกรอบชอบรีรอ                              ลมปากหวออ้าปากค้างต่างตกใจ
๏ อันคำพูดเหมือนมะกอกสามตะกร้า                     เราต่างพาปาไม่ถูกฉุกสงสัย
จึงพูดจาตลบตะแลงพลิกแพลงไป                        ทำเฉไฉแชเชือนคอยเจือนแจ
๏ อันคำพูดเหมือนเสี้ยมควายให้อายป่า                  ไม่ชักช้าถ้าแตกคอพอกระแส
คอยยุยงเสริมส่งหลงเชือนแช                                ต้องแตกแยกเป็นแน่แท้เมื่อเจอกัน
๏ อันคำพูดเหมือนขนมเบื้องละเลงปาก                  ด้วยพูดมากอยากแสดงตามแรงฝัน
ทำไม่ได้ดังที่พูดสุดอดกลั้น                                   ทุกทุกวันคอยตระเวนเที่ยวเล่นไป
๏ อันลมปากที่กล่าวมาเป็นตัวอย่าง                        ขอเอ่ยอ้างสิ่งไม่ดีรี่แก้ไข
อย่าทำตัวเยี่ยงลมพัดจากปากไป                           หนักแน่นไว้ใจมั่นไม่สั่นคลอนฯ
...............................................




อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก        แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย

ถึงเจ็บอื่นหมื่นแสนไม่แคลนคลาย       เจ็บเจียรตายเพราะเหน็บให้เจ็บใจ


"สุนทรภู่"

เยี่ยม
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-9-1 09:23 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
matmee2550 ตอบกลับเมื่อ 2013-8-27 20:11
เยี่ยม

พี่มัดหมี่มาเยี่ยมถือว่ากระทู้สำริดผลแล้วเย้ๆๆ
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-12-22 17:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อยากให้อ่านกันอีกครั้ง....ใครที่บอกว่ารักหลวงปู่ รักอาจารย์
วันนี้คุณยังจำคำที่คุณพูดได้หรือเปล่า
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้