ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2596
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

หนังอาถรรพ์

[คัดลอกลิงก์]
เวลาดูหนังผี หรือหนังลึกลับ น้องๆ เคยรู้สึกหลอนจนกลับไประแวงที่บ้านบ้างรึเปล่า? ที่ถามนี่ก็เพราะพี่กวางอยากบอกว่า บางทีน้องๆ อาจไม่ได้หลอนไปเองก็ได้นะคะ เพราะหนังบางเรื่องเขาก็มีอาถรรพ์จริงๆ ชนิดที่ว่านักแสดงและทีมงานยังต้องขนหัวลุกเลย เช่นเรื่องพวกนี้ไง

The Conjuring


ภาพจาก โปสเตอร์ภาพยนตร์ The Conjuring

          หนังบ้านผีสิงที่สร้างจากเรื่องจริงจนทำให้ใครหลายคนผวาฉากซ่อนแอบตบมือมาแล้ว (ฉากนี้สะพรึงจริงๆ พี่กวางยังหลอนอยู่เลย) รู้ไหมคะว่าแม้เรื่องราวจะผ่านมาเนิ่นนานจนได้ทำเป็นหนัง แต่ความอาถรรพ์ยังคงอยู่!

          อาถรรพ์ที่ว่านี้ก็ยังวนเวียนกับ ครอบครัวเพอร์รอน เจ้าของเรื่องเล่าสยองนี่แหละค่ะ โดยในวันที่พวกเขาไปเยี่ยมเยียนกองถ่าย The Conjuring และกำลังจะให้สัมภาษณ์สั้นๆ กันนั้น ปรากฏว่ามี ลมพายุลึกลับพัดแรงมากจนฉากและกล้องแทบปลิว เหล่าสตาฟต้องคว้าข้าวของกันวุ่นไปหมด แต่เมื่อสังเกตดีๆ กลับพบว่า ต้นไม้บริเวณนั้นแทบไม่กระดิกเลย ไม่นานหลังจากนั้น ครอบครัวเพอร์รอนก็ได้รับแจ้งว่า คุณแม่ของเขา (แคโรลีน เพอร์รอน ตัวจริงเสียงจริง) ประสบอุบัติเหตุในบ้านจนต้องเข้าโรงพยาบาล และต่อมาไม่กี่วัน ทีมงานทั้งกองถ่ายก็ต้องย้ายที่พักกัน เนื่องจาก โรงแรมถูกไฟไหม้...บังเอิญไปไหมเนี่ย



แคโรลีนตัวจริงยังนั้นหวาดกลัวอยู่มาก จนไม่ยอมไปเยี่ยมกองถ่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ภาพจาก ภาพยนตร์ The Conjuring


          ไม่เท่านั้นค่ะ เพราะผู้กำกับ เจมส์ วาน ยังพบเหตุแปลกๆ ระหว่างทำงานกลางดึกด้วย นั่นคือ สุนัขของเขามักเห่าใส่มุมห้องโล่งๆ ที่ดูแล้วไม่มีอะไร และนักแสดงที่รับบท ลอร์เรน วอร์เรน ยังให้สัมภาษณ์ว่า ทุกครั้งที่อ่านสคริปต์ เธอจะรู้สึกขนลุกจนไม่กล้าอ่านตอนกลางคืน ความพีคคือวันหนึ่งเธอเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา และพบว่ามี รอยกรงเล็บ ข่วนบนหน้าจอเป็นทางยาว...




The Possession


ภาพจาก โปสเตอร์ภาพยนตร์ The Possession

          อีกหนึ่งภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างจากเรื่องจริง เกี่ยวกับกล่องปริศนาที่ขังปีศาจร้าย ดิ๊บบัค ไว้ เพื่อรอวันเข้าสิงและกัดกินวิญญาณของผู้ครอบครอง เรื่องนี้บอกเลยว่าเบื้องหลังเขาก็ชวนสยองไม่แพ้เบื้องหน้า แม้ทีมงานจะหลีกเลี่ยงการนำกล่องดิ๊บบัคของจริงมาเข้าฉาก และพยายามอยู่ให้ห่างกล่องนั้นมากที่สุดแล้ว ก็ยังมีเหตุประหลาดเกิดขึ้นอยู่ดี ไม่ว่าจะเหตุการณ์ หลอดไฟในกองถ่ายระเบิด ต่อหน้าต่อตาผู้กำกับโอเล่ บอร์เนดิล ทั้งที่ไม่มีใครเปิดไฟด้วยซ้ำ ไม่เท่านั้น หลังจากปิดกล้องเพียง 5 วัน โกดังเก็บอุปกรณ์ประกอบฉากก็ไฟไหม้ จนไม่มีอะไรเหลือ แถมยังไม่มีใครทราบสาเหตุด้วย มันน่าคิดไหมล่ะ




Poltergeist


ภาพจาก โปสเตอร์ภาพยนตร์ Poltergeist

          หนังบ้านผีสิงในตำนาน ที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ผีหลอกวิญญาณหลอน” ก่อนจะถูกนำมารีเมคเมื่อปีที่แล้วนี่เอง น้องๆ รู้ไหมว่าสร้างจากเหตุการณ์จริงด้วยนะ! ดังนั้นเรื่องความอาถรรพ์นี่หายห่วงได้ แถมยังจะเฮี้ยนขึ้นไปอีกเมื่อทีมงานอุตริใช้ โครงกระดูกจริง เข้าฉาก ทำให้หลายคนเชื่อว่า นี่แหละที่ทำให้ความอาถรรพ์ยิ่งคูณสองเข้าไปอีก

          ความอาถรรพ์ที่ว่านี้ก็เกิดกับเหล่านักแสดงในหนังเวอร์ชั่นแรกนี่แหละค่ะ เริ่มมาตั้งแต่หนึ่งในดารานำถูกแฟน บีบคอตาย หลังหนังออกฉายได้แค่อาทิตย์เดียว ตามด้วยอีกสองดารานำที่คนหนึ่ง เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และอีกคนหนึ่ง เสียชีวิตระหว่างการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ก่อนหนังภาค 2 จะเข้าฉายแค่ไม่นาน



ตอนนั้นนักแสดงไม่รู้เลยว่าโครงกระดูกในฉากเป็นโครงกระดูกจริงๆ พี่กวางล่ะเสียวแทน
ภาพจาก ภาพยนตร์ Poltergeist



          ไม่เท่านั้น! เพราะดาราเด็กที่รับบทเด่นในหนังเรื่องนี้ยังต้อง เสียชีวิตด้วยวัยเพียงแค่ 12 ปี ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด เพียงไม่นานก่อนที่หนังภาคสุดท้ายจะออกฉายเท่านั้น

          นอกจากดารานำแล้ว เหล่านักแสดงสมทบก็ยังประสบเหตุร้ายไม่ต่างกัน มีทั้งคนที่ประสบเหตุเครื่องบินตก รวมถึงผู้เขียนบทหนังที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าระหว่างที่เขากำลังเขียนฉากฟ้าผ่านั้น ก็มี ฟ้าผ่าลงบนตึกที่เขาอยู่จริงๆ ทำให้เกมในห้องเขาทั้งหมดเปิดเองด้วย โอ้โฮ...สยองมาก


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-8-2 20:27 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


The Omen



ภาพจาก โปสเตอร์ภาพยนตร์ The Omen

          แม้จะไม่ได้สร้างจากเรื่องจริง แต่การสร้างหนังที่เกี่ยวกับซาตานนั้นก็ทำให้ผู้จัดฮอลลีวูดเข้าใจเลยว่าเป็นอะไรที่สุ่มเสี่ยงจริงๆ ดูได้จากเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับกองถ่าย The Omen

          เริ่มจาก ลูกชายของ เกรกอรี่ เพ็ก นักแสดงนำของเรื่อง ฆ่าตัวตาย เพียงสองเดือนก่อนเปิดกล้อง...เป็นเหมือนกระดิ่งเตือนฝันร้ายในกองถ่าย

          เพราะเมื่อเปิดกล้อง กองถ่ายก็ต้องประสบกับเหตุ ฟ้าผ่าเครื่องบินนักเขียนบท ฟ้าผ่าเครื่องบินที่โปรดิวเซอร์นั่ง และ ฟ้าผ่าเครื่องบินที่เพ็กนั่ง อะไรมันจะซวยกันได้ยกกองขนาดนั้น แต่ยังนับว่าโชคดีมากที่เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงจนมีใครถึงแก่ชีวิตแต่อย่างใด

          ตามมาด้วย เหตุวางระเบิดโรงแรมที่โปรดิวเซอร์พักอยู่ โดยฝีมือผู้ก่อการร้ายไอริช ซึ่งห้องอาหารของโรงแรมนี้เป็นสถานที่นัดหมายระหว่างผู้กำกับ ทีมงาน และนักแสดงด้วย! โชคดีมากเลยค่ะที่ไม่มีใครเป็นอะไร แต่เหตุร้ายก็ยังไม่จบ



The Omen เป็นเรื่องราวของครอบครัวที่รับเลี้ยงเด็กชายเดเมี่ยน โดยไม่รู้เลยว่านี่แหละคือซาตานที่รอคอยวันเติบโตไปทำลายล้างโลก
ภาพจาก ภาพยนตร์ The Omen



          เพราะเครื่องบินที่ทีมงานจองไว้ใช้ในฉากแต่ยกเลิกไป ทำให้กลับไปรับ-ส่งผู้โดยสารตามปกตินั้น เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตยกลำ เกือบไปแล้วไหมล่ะ!

          ดูเหมือนจะมีแต่เหตุเฉียดตายทั้งนั้นใช่มั้ยคะ แต่ต่อมาก็มีการเสียชีวิตจริงๆ เกิดขึ้นจนได้ เมื่อผู้ดูแลสัตว์ที่จะเข้าฉากในหนัง ถูก เสือฆ่าตาย หลังเพิ่งถ่ายทำเสร็จแค่วันเดียว

          ไม่เท่านั้น ทีมงานด้านเทคนิคพิเศษของกองถ่ายยังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งคร่าชีวิตผู้ช่วยของเขาแบบสยดสยองสุดๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาช็อกยิ่งกว่าการตายของผู้ช่วยก็คือเมื่อคลานออกมาจากรถแล้วพบป้ายที่เขียนว่า Ommen 66.6 km และวันที่เกิดเหตุยังเป็น วันศุกร์ที่ 13 ด้วย! (ใครอยากรู้ว่าเลข 666 และวันศุกร์ที่ 13 เกี่ยวข้องอะไรกับซาตาน ลองอ่านบทความนี้)




The Exorcist



ภาพจาก โปสเตอร์ภาพยนตร์ The Exorcist

          ถ้าน้องๆ คิดว่าทีมงาน The Omen ซวยแล้ว พี่กวางบอกเลยว่าทีมงาน The Exorcist นี่ซวยกว่าประมาณ 10 เท่าได้ค่ะ คิดดูว่าเหตุร้ายที่เกิดกับกองนี้มีเยอะมากจนรายการ E! ของอเมริกาเคยทำเทปพิเศษเกี่ยวกับเหตุแปลกๆ ระหว่างถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง มาแล้ว! เนื่องจากมีเหตุแปลกๆ เกิดขึ้น ทุกวัน ตั้งแต่เหตุเล็กๆ อย่าง ข้าวของที่มักร่วงหล่นเอง ในเวลากลางคืน ไปจนถึงเหตุใหญ่ขึ้น เช่น ฉากและอุปกรณ์ในการถ่ายทำมัก ถูกไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ รวมถึง อุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นกับนักแสดงจนบาดเจ็บสาหัส และ การเสียชีวิต ของทีมงานที่มีมากถึง 9 คนอีกด้วย!

          แน่นอนว่าความแปลกประหลาดเหล่านี้ทำให้ผู้กำกับต้องเชิญนักบวชมาเยี่ยมเยียนกองถ่าย แต่ไม่ได้ทำให้พวกเขาอุ่นใจขึ้นเลยเมื่อนักบวชผู้นั้นกล่าวว่า เขารู้สึกได้ถึงพลังด้านมืดในกองถ่ายนี้ และสัมผัสกลิ่นของปีศาจในตัวหนังที่ถ่ายทำอยู่ได้



ในเรื่องมีฉากน่ากลัวๆ เยอะมาก
ภาพจาก ภาพยนตร์ The Exorcist



          ความพีคอยู่ที่วันฉายรอบปฐมฤกษ์นี่แหละค่ะ เพราะฝั่งตรงข้ามโรงหนังที่ฉายมีโบสถ์เก่าแก่ตั้งตระหง่านอยู่ และวันนั้นก็ฝนตกหนักมากๆ กระทั่งได้เวลาเริ่มฉาย ก็มีเสียงฟ้าผ่าดังลั่นจากด้านนอก ก่อนจะออกมาพบว่าไม้กางเขนเก่าแก่ขนาดใหญ่ อายุกว่า 400 ปี ถูกฟ้าผ่าจนล้มลงบนพื้นถนนหน้าโรงหนังที่ฉายเรื่อง The Exorcist รอบปฐมฤกษ์ นี้เอง

          ไม่เท่านั้น ผู้ชมหนังเรื่องนี้หลายคนยังมีอาการอาเจียน หัวใจวาย ไปจนถึงแท้งบุตร หลายคนรู้สึกทนไม่ไหวจนต้องเดินออกจากโรงก่อนหนังจบ และบางโรงหนังประสบปัญหาไฟดับด้วย




Batman (Joker)

          บทบาทของ "โจ๊กเกอร์" ฆาตกรมาดตัวตลกโรคจิตที่คนโรคจิตยังต้องหวาดกลัวจากหนังแบทแมนที่น้องๆ หลายคนชื่นชอบ รู้ไหมว่าเบื้องหลังนั้น เหล่านักแสดงที่เล่นบทนี้ล้วนต้องพบเจออะไรมากมายระหว่างทาง เพื่อให้เข้าถึงความจิตวิปสาศขั้นสุดของตัวละครนี้

          โจ๊กเกอร์ถูกถ่ายทอดขึ้นจอทีวีครั้งแรกในปี 1966 โดย ซีซ่าร์ โรเมโร ไอดอลหนุ่มขวัญใจสาวๆ ยุคนั้น ที่ใครๆ ก็วิจารณ์ว่าไม่ได้เข้ากับบทเล้ย แถมเจ้าตัวก็ยอมรับว่าไม่เคยเข้าใจจิตใจของโจ๊กเกอร์ด้วย ซ้ำยังรู้สึกสับสนมึนงงทุกครั้งหลังผู้กำกับสั่งคัท และมักมีปัญหาปวดหัวบ่อยๆ ระหว่างเล่นบทนี้ ซึ่งว่ากันว่าเป็นอาการของคนที่กำลังต่อสู้กับการถูกโจ๊กเกอร์ยึดครองจิตใจ



โจ๊กเกอร์ แบบฉบับ ซีซ่าร์ โรเมโร สังเกตว่าดูบ้าๆ บอๆ มากกว่าจะโรคจิต
ภาพจาก ภาพยนตร์ Batman (1966)



          ต่อมาในปี 1989 แบทแมนถูกปัดฝุ่นอีกครั้งโดยผู้กำกับอัจฉริยะ ทิม เบอร์ตัน ที่เลือก แจ็ค นิโคลสัน มารับบทโจ๊กเกอร์ ทิมสนับสนุนให้แจ็คพรีเซนต์ความเป็นโจ๊กเกอร์ได้เต็มที่ ทำให้ช่วงแรกๆ แจ็คแฮปปี้มากกับการเล่นบทฆาตกรจิตวิปลาศนี้ แต่แล้วเขาก็พบว่าตัวเองเริ่มผิดปกติ ทั้งนอนไม่หลับ กระส่ายกระสับ รวมถึงความเครียดที่ฝังเข้าไปในจิตใจ จนต้องพึ่งยานอนหลับอันตราย ที่ออกฤทธิ์ร้ายแรงมากขนาดที่ทำให้เขาละเมอขับรถอย่างไม่รู้ตัวจนเกือบตกหน้าผา แต่โชคดีที่มีเสียงโทรศัพท์ดังปลุกเขาก่อน



โจ๊กเกอร์ ฉบับ แจ็ค นิโคลสัน ดูอันตรายขึ้นมาอีกนิด
ภาพจาก ภาพยนตร์ Batman (1989)



3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-8-2 20:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มาร์ค ฮามิล ที่หลายคนรู้จักจากบทบาท ลุค สกายวอล์คเกอร์ ใน Star Wars ภาคดั้งเดิม รู้ไหมว่าเขานี่แหละคือคนพากย์เสียงโจ๊กเกอร์ฉบับอะนิเมชั่นเป็นเวลากว่า 20 ปีเลยทีเดียว ถึงตรงนี้น้องหลายคนอาจคิดว่าแค่พากย์เสียงคงไม่เป็นไรมั้ง แต่ไม่ใช่เลยค่ะ เพราะยิ่งทำงานนี้นานเข้า มาร์คก็เริ่มเปรียบเปรยว่าโจ๊กเกอร์นั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสัตว์ร้าย และเขาก็ต้องประสบกับ อาการจิตตก และนอนไม่หลับ ตลอดเวลาที่รับงานนี้ด้วย



โจ๊กเกอร์ ที่มาร์ค ฮามิลพากย์เสียง
ภาพจาก อะนิเมชั่น Batman : The Killing Joke (2011)



          มาถึงโจ๊กเกอร์ที่ฮือฮาที่สุดในประวัติศาสตร์ คือโจ๊กเกอร์ฉบับ ฮีธ เลดเจอร์ ใน The Dark Knight ที่ใครดูก็ขนลุกขนชันกับการแสดงอันทรงพลังของฮีธ เลดเจอร์ ที่ทุ่มเทขนาดไปเปิดห้องโรงแรมแล้วขังตัวเองเป็นเดือนๆ เพื่อศึกษาการเป็นโจ๊กเกอร์ ฮีธพยายามวิเคราะห์จิตใจโจ๊กเกอร์อย่างจริงจัง นั่นทำให้สภาพจิตใจเขาฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ ต้องพึ่งยาอันตรายตัวเดียวกับที่แจ็ค นิโคลสันเคยใช้ ซึ่งว่ากันว่านี่อาจต้นเหตุที่ทำให้ฮีธ ต้องจากไป ก่อนหนังเข้าฉายเพียง 6 เดือนเท่านั้น



โจ๊กเกอร์ ฉบับ ฮีธ เลดเจอร์ ที่ทำได้ยอดเยี่ยมจนออสการ์ยังต้องให้รางวัล แม้ฮีธจะไม่อยู่รับแล้ว
ภาพจาก ภาพยนตร์ The Dark Knight



          และว่าที่โจ๊กเกอร์คนล่าสุด จาเร็ด เลโต้ นักดนตรีจากวง Thirty Seconds to Mars ที่เจ้าตัวยอมรับว่าเขาพยายามตีความตัวละครขึ้นใหม่ โดยฟังเพลงเกี่ยวกับศาสนา และอ่านวรรณกรรมเกี่ยวกับไสยศาสตร์มนต์ดำ ทำให้มีพฤติกรรมแปลกไป ทั้งส่งซากหนูตายให้เพื่อนร่วมงาน และพ่นพุ่มดอกกุหลาบด้วยสเปรย์สีดำอีก วิล สมิธกล่าวว่าจาเร็ดเป็นโจ๊กเกอร์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะในฉากหรือนอกฉาก ซึ่งจาเร็ดเองก็ยอมรับ ซ้ำยังบอกอีกด้วยว่าเขาคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อลบจิตวิญญาณโจ๊กเกอร์ในตัวเอง



หลายคนคงรอดูโจ๊กเกอร์ ฉบับจาเร็ด เลโต้ ใน Suicide Squad อยู่
ภาพจาก ตัวอย่างภาพยนตร์ Suicide Squad



4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-8-2 20:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Superman

          อย่าว่าแต่บทตัวร้ายเลยค่ะที่ลือกันว่ามีอาถรรพ์ เพราะบทพระเอกซูเปอร์ฮีโร่อย่างซูเปอร์แมนก็เช่นกัน โดยหลายคนเชื่อว่าเกิดจากการที่ ชัสเตอร์ และซีเกล สองผู้สร้างซูเปอร์แมน ขายลิขสิทธิ์ให้ DC ได้จำนวนเงินเพียง 130 ดอลลาร์ หรือเป็นเงินไทยไม่ถึงห้าพันบาท ทั้งที่สามารถสร้างรายได้ให้ DC อย่างมหาศาล จนทั้งคู่ผูกใจเจ็บ ทำการสาปแช่งนับตั้งแต่วันนั้น

          เริ่มจากพี่น้องเฟลชเชอร์ ผู้สร้าง Popeye และ Betty Boob อันโด่งดัง ก็มีอันตกต่ำขั้นสุดหลังจากเข้ามาข้องเกี่ยวกับโปรเจ็คซูเปอร์แมน ตามด้วย เคิร์ก อลิน นักแสดงผู้รับบทซูเปอร์แมนคนแรกที่กลายเป็น ดาราตกอับ หลังจากเล่นบทนี้

          ต่อมา จอร์จ รีฟส์ ผู้รับบทซูเปอร์แมนฉบับซีรีส์ Adventure of Superman (1951) ก็ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิต โดยตำรวจสรุปคดีว่าเป็นการฆ่าตัวตายทั้งที่ไม่มีรอยนิ้วมือเขาบนปืนเลยแม้แต่นิดเดียว ตามมาด้วย คริสโตเฟอร์ รีฟส์ ซูเปอร์แมนผู้โด่งดังสุดๆ ในหนังภาคต่อ Superman : The Movie (1978) ก็ตกม้าจนเป็น อัมพาตช่วงล่าง



(ซ้าย) ซูเปอร์แมน แบบฉบับ จอร์จ รีฟส์
(ขวา) ซูเปอร์แมน แบบฉบับ คริสโตเฟอร์ รีฟส์
ภาพจาก ซีรีส์ Adventure  of Superman (1950) และภาพยนตร์ Superman (1978)



          นอกจากเหตุร้ายจะเกิดขึ้นกับนักแสดงบทซูเปอร์แมนแล้ว เชื่อไหมว่าบทอื่นๆ ก็เจออาถรรพ์ไม่แพ้กันค่ะ ทั้งป่วยทางกาย ป่วยทางจิต ประสบอุบัติเหตุ หรือหมดอนาคตในหน้าที่การงาน เรียกว่าเป็นโปรเจ็คอาถรรพ์จนหลายคนซุบซิบกันว่า สาเหตุที่ซูเปอร์แมนภาคล่าสุดตั้งชื่อว่า Man of Steel ก็เพื่อจะลบล้างอาถรรพ์ชื่อ Superman นี่แหละ




พิษสวาท

          อ๊ะๆ แต่ไม่ใช่แค่หนังฝรั่งนะคะที่เขาลือว่ามีอาถรรพ์กัน เพราะฝั่งไทยเราเองก็มีเรื่องที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับเขาได้ คือเรื่อง พิษสวาท ที่เคยถูกสร้างเป็นทั้งหนังและละครมาแล้วนี่แหละค่ะ น้องๆ หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ แต่ถ้าเอาไปถามคุณพ่อคุณแม่ต้องร้องอ๋อแน่นอน กับเรื่องราวของคุณอุบล นางรำในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ถูกสามีหลอกฆ่าเพื่อให้เป็นผีเฝ้าสมบัติ กลายเป็นความแค้นที่ต้องการเอาคืน

          เรื่องนี้ได้ทำเป็นละครครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2514 แต่ เสาวนีย์ สกุลทอง นางเอกของเรื่องกลับ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทั้งที่ยังถ่ายทำไม่เสร็จ ทำให้ผู้กำกับต้องตัดจบทันที ต่อมาพิษสวาทได้ถูกทำเป็นละครวิทยุ ก็มีเหตุ เพลิงไหม้ในห้องอัดเสียง อีก ตามมาด้วยเหตุร้ายต่างๆ แทบทุกครั้งที่ถูกรีเมค อย่างในเวอร์ชั่นปีพ.ศ. 2534 ก็ปรากฏว่า วรรณิศา ศรีวิเชียร นักแสดงบทเพื่อนของคุณอุบล ประสบอุบัติเหตุจนต้องถอนตัว กลายเป็นส่งไม้ต่อให้ ดี้-ปัทมา ปานทอง เล่นต่อแทน



บทบาทของคุณอุบล แค่เห็นก็รู้สึกขนลุกแล้ว
ภาพจาก IG : @nuneworanuch



          จนล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เอ็กแซ็กท์ก็ประกาศว่าจะสร้างละครเรื่องนี้อีกครั้งท่ามกลางความดีใจและเป็นห่วงของหลายๆ ฝ่าย ซึ่งก็ไม่วายมีปัญหาจนต้องเปลี่ยนตัวนางเอกจากเมนเทอร์ บี น้ำทิพย์ กลายเป็น นุ่น วรนุช จนได้ ซึ่งสาวนุ่นก็ให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่รับเล่นเรื่องนี้เพราะเธอฝันถึงหญิงชุดไทย ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมคะ แต่สาวนุ่นเชื่อว่าเป็นเรื่องดีๆ จนคนดูอย่างเราๆ ต้องลุ้นเลยว่าการถ่ายทำครั้งนี้จะจบลงโดยสวัสดิภาพหรือไม่



ใครรอดูอยู่ยกมือขึ้น!
ภาพจาก IG : @nuneworanuch





          อ่านถึงตรงนี้ใครเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ แล้วบ้าง พี่กวางอยากบอกว่าข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ นำเหตุการณ์บังเอิญต่างๆ มาวิเคราะห์กัน ดังนั้นน้องๆ อย่าลืมใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ส่วนตัวพี่กวางว่าบางอย่างก็ดูน่ากลัวจริงๆ บางอย่างก็ดูเป็นแค่เรื่องบังเอิญมากกว่า น้องๆ ล่ะคิดว่ายังไง กลัวอาถรรพ์ของเรื่องไหน และคิดว่าเรื่องไหนแค่บังเอิญมั้ง? มาคุยกันเลย








ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้