“คืนวันพระเริ่ม”
เมื่อ พ.ศ. 2530 หนูได้ไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการเป็นงานเย็บผ้า และช่วงกลางคืนจะมีโอทีให้ทำและเป็นธรรมดาที่หนูชอบให้คนเล่าเรื่องผีให้ฟัง ซึ่งหนูก็ถามพี่เอกว่า เคยเห็นผีไหมถ้าเคยเห็นก็ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมพี่เอก ก็เล่าให้ฟังแต่พวกเราไม่ค่อยเชื่อว่าผีมีจริงหรือไม่ พี่เอกก็แนะนำว่าถ้าอยากเจอ เปรตให้ไปที่วัดชมนิมิตในคืนวันพระเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงตี 3 ซึ่งคนที่ฟังพี่เอก เล่ามี 3 คน มี จันทร์ ต้อย และหนู พี่เอกบอกว่าถ้าไปถึงวัดแล้วให้ก้มลงมองลอด ใต้ขาตัวเองแล้วจะเห็นเปรต “นอนแน่นิ่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์”
พอถึงวันพระหนูกับเพื่อนก็ได้ไปที่วัดชมนิมิต พอไปถึงรู้สึกว่ามันเงียบ อากาศเย็น ลืมบอกไปว่า ต้องอยู่คนเดียว หนูก็พูดกับจันทร์และต้อยว่าเรามาด้วย กัน 3 คน แต่จันทร์ เป็นผู้ชายให้จันทร์เป็นคนลงมือดีกว่านะ เรามารอจันทร์อยู่ข้าง วินมอเตอร์ไซค์ประมาณสัก10 นาทีได้ ก็ได้ยินเสียงคนร้องขึ้นมา ซึ่งเราก็จำได้ว่า เป็นเสียงของจันทร์นั่นเองจันทร์คงจะเจอดีเข้าแล้วจะเข้าไปหาก็ไม่กล้าเลยตัดสินใจบอก วินมอเตอร์ไซค์ช่วยไปเป็นเพื่อน เมื่อช่วยกันหาก็เห็นจันทร์นอนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ เรา ช่วยกันพยุงออกมาแล้วช่วยเรียกแท็กซี่กลับบ้านเราช่วยปฐมพยาบาลจันทร์จนฟื้น “ปากแหลม ตาสีแดง ยื่นมือ”
พอฟื้นแล้วอาการของจันทร์ก็ยังสั่นอยู่ พูดจาไม่รู้เรื่อง หนูกับเพื่อนก็ได้พักที่บ้าน ของจันทร์ เพราะว่ากลัวจนไม่กล้ากลับห้องพักตอนเช้าแม่ของจันทร์ก็พาเขาไป อาบน้ำมนตร์ที่วัดเดิม และก็ได้เล่าให้พระท่านฟังพระท่านก็พูดว่าทีหลังอย่าทำอีก ดีนะที่ไม่เป็นบ้า กว่าอาการของจันทร์จะหายได้ก็ประมาณ 2 สองอาทิตย์ เขาเล่า ให้ฟังว่าพอก้มลงมองลอดใต้ขาตัวเองเขาก็เห็นเปรต ตัวมันสูงมาก ปากแหลม มือยาว ตาสีแดง พอเตรียมตัวจะวิ่งหนีก็วิ่งไม่ออก เพราะเปรตยื่นมือมาจับขาเอา ไว้เขาร้องออกมาเพราะความกลัว จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
|