หลวงพ่อช้าง วัดศิลามูล

oustayutt

นี้คือรูปถ่ายในตำนานหลวงพ่อช้าง วัดศิลามูล หายากแบบพลิกแผ่นดิน และเป็นรูปถ่ายที่ทันท่าน ปัจจุบันภาพ และประวัติท่านนี้คือตำนานไปแล้ว
หลวงพ่อช้าง วัดศิลามูล ท่านเป็นสหธรรมิกที่สนิทกันมาก กับ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ท่านทั้งสองมีอายุอยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกัน ประวัติของหลวงพ่อช้าง เป็นอะไรที่ดำมืด ไม่มีใครทราบ นอกจากจะได้รับการถ่่ายทอดสู่กันฟัง จากคนรุ่นปู่ย่า ตายาย ที่เล่าต่อกันมาให้ลูกหลานได้ฟังกัน แม้ภาพถ่ายท่านก็จัดได้ว่า หาชมได้ยากมาก หลวงพ่อช้าง ท่านมีรูปร่างสูงใหญ่ สมดังชื่อของท่าน คนรุ่นพ่อรุานปูาแถวบางเลน นครปฐม จะเล่าให้ฟังกันว่า หลวงพ่อช้าง ท่านไม่เคยจำวัดภายในกุฏิของท่าน หลังจากทำกิจวัตรประจำวันเสร็จแล้ว ท่านจะจำวัดอยู่ภายในเรือของท่าน ที่จอดอยู่หน้าวัดศิลามูลนั่นเอง จวบจนบั้นปลายชีวิตของท่านในช่วงที่ หลวงพ่อทา ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเดินทางมาที่่ บางเลน เป็นประจำ และพักอยู่หลายวัน ที่บางเลนซึ่งในช่วงนั้นยังไม่เป็น อำเภอ มีลูกศิษย์ของท่าน หลายองค์ทีเดียว ศิษย์เอกของท่านที่มีชื่อเสียงมาก มีสมณศักดิ์ เป็นถึง พระครูปุริมานุรักษ์ ตำแหน่งผู้พิท้กษ์องค์พระปฐมเจดีย์หนึ่งใน สี่ทิศ เช่นเดียวกับท่าน ก็คือ หลวงพ่อคล้าย วัดศิลามูล ซึ่งหลวงพ่อทา เป็นทั้ง พระอุปัฌชาย์ และอาจารย์ หลวงพ่อคล้ายท่านมีอาวุโส อยู่ในระดับเดียวกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ท่านเป็นหนึ่งที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดราชบพิธ นอกจากจะเป็นศิษย์ ของหลวงพ่อทาแล้ว ท่านยังเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อช้างเช่นกัน คนรุ่นเก่าเล่าว่า หลวงพ่อคล้ายท่านมีวัตรปฏิบัติคล้ายๆ กับหลวงพ่อช้างอย่างนึง ก็คือ ท่านไม่จำวัดที่กุฏิของท่านแต่ท่านจะจำวัดที่ หลุมฝังศพ ภายในป่าช้าหลังวัด เป็นประจำ จวบจนท่านหาชีวิตไม่แล้วหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ในช่วงที่ท่านบวชใหม่ๆ ท่านได้ไปกราบหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ที่วัดหลายครั้ง หลายหน ท่านบอกว่าหลวงพ่อแช่ม ท่านคุยเก่ง ใจดี เวลาท่านไปหา หลวงพ่อแช่ม จะขนตำรามาให้ท่านหลายเล่มทีเดียว และบอกว่า จะเอาเล่มไหนไปศึกษา ก็ตามใจ หลวงพ่อแย้ม เคยเล่าเกี่ยวกับเรื่อง หลวงพ่อช้าง กับ หลวงพ่อทา ซึ่งท่านน่าจะได้รับการถ่ายทอดต่อจากหลวงพ่อแช่มอีกทีนึง ท่านว่า ในช่วงที่หลวงพ่อทา ยังมีชีวิตอยู่ ได้มีคนจากบางเลนมาฟ้องท่าน เกี่ยวกับเรื่องที่ หลวงพ่อช้างฉันเหล้า เมื่อหลวงพ่อทาท่านทราบ ท่านก็ไม่พอใจ ได้รีบเดินทางไปหาหลวงพ่อช้าง ที่วัดศิลามูล เมื่อหลวงพ่อทาไปถึง หลวงพ่อช้างคงจะทราบด้วย ญาณ ของท่าน ว่าหลวงพ่อทารีบร้อนมาด้วยเรื่องอันใด หลวงพ่อช้าง ท่านต้อนรับหลวงพ่อทา ที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าท่าน ด้วยความใจเย็น โดยให้หลวงพ่อทาฉันน้ำชาที่ท่านชอบ จนหลวงพ่อทาหายเหนื่อย และใจเย็นลง ประโยคแรกที่หลวงพ่อทาท่านได้เอ่ยกับหลวงพ่อช้างก็คือ ไอ้ช้าง มีคนไปบอกกูว่ามึงกินเหล้าหรือ แต่ประโยคที่หลวงพ่อช้าง ได้ตอบกลับต่อหลวงพ่อทา ก็คือ เมื่อกี้ มึง ก็กิน หลวงพ่อทา ได้ยินดังนั้น ก็รู้ได้ทันทีว่า ท่านได้หลงกล วิชาอาพัดเหล้า ของหลวงพ่อช้างเข้าให้แล้ว หลังจากนั้นหลวงพ่อทา ท่านก็ไม่สนใจอีกเลย ถ้ามีใครมาบอกกล่าวท่านว่า "หลวงพ่อช้างฉันเหล้า ".!!

ภาพเก่าภาพนี้หาดูชมยากยิ่ง ด้วยมีผู้คนมากมาย อยากเห็น จึงโพสต์เพื่อให้ได้เห็นกันครับ.

Cr : ข้อมูลจาก ดีดี-พระดอทคอม.

Nujeab

วิชาอาพัดเหล้า คือยังไงน่อ เปลี่ยนให้เหล้าเป็นน้ำชาหรือครับ