ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4804
ตอบกลับ: 17
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

อานุภาพบารมีแห่งพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร: ปราสาทบันทายฉมาร์

[คัดลอกลิงก์]
อานุภาพบารมีแห่งพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร: ปราสาทบันทายฉมาร์

รูปสลักนูนต่ำสำคัญบริเวณผนังระเบียงคดชั้นนอกทิศตะวันตกเฉียงของปราสาทบันทายฉมาร์ แสดงให้เห็นคติ “วัชรยาน” หรือผู้บูชาพระโลเกศวร ผู้ทรงอานุภาพเหนือโลกและจักรวาล ที่มีเหล่า“ยิดัม” คติแห่ง “ตันตระยาน” เหล่าผู้ปกป้องพระศาสนาผู้เหี้ยมหาญชาญชัยเหนืออวิชชาและเทพเจ้าฮินดู

            พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร  มีความหมายว่า “พระโพธิสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ ผู้เพ่งมองโลก” เป็นกายที่แบ่งภาคออกมาจากพระธยานิพุทธเจ้าอมิตาภะ อันเป็นพระพุทธเจ้าในโลกปัจจับันตามความเชื่อแบบมหายาน

            พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระมหาธยานิโพธิสัตว์แห่งความเมตตากรุณา ในวัฒนธรรมพุทธศาสนาแบบเนวาร์ของเนปาล เรียกพระนามพระองค์ว่า “พระโลเกศวร” - พระผู้เป็นใหญ่แห่งโลก หรือ “มหากรุณิกา” (พระผู้ทรงพระมหากรุณา) ทรงปรากฏพระองค์ได้ถึง 108 ปาง

            ตามตำนานที่เล่าขานกันสืบมา ครั้งหนึ่ง พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ทรงตั้งพระมหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะนำสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากสังสารวัฏทุกข์ก่อนที่พระองค์เองจะบรรลุความตรัสรู้ แต่เมื่อทรงแลเห็นว่าสรรพสัตว์ที่พระองค์ทรงช่วยไว้ได้นั้น ช่างน้อยแสนน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับสรรพสัตว์ที่ยังคงหลงเวียนว่ายในความทุกข์ ความโทมนัสนั้นทำให้พระเศียรและพระวรกายของพระองค์แตกทำลายเป็นเสี่ยงๆ พระอมิตาภะพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้น จึงได้เสด็จมาสู่พระผู้ช่วยของพระองค์ ทรงเนรมิตพระวรกายที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ นั้นกลับขึ้นใหม่ ให้เป็นพระวรกายอันทรงพละกำลังมากยิ่งกว่าเดิม มีสิบเอ็ดพระเศียรและหนึ่งพันพระกร เพื่อจะได้ทอดพระเนตรอันเปี่ยมด้วยกรุณาแลดูสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ทั่วทุกทิศ และสามารถช่วยเหลือสรรพสัตว์เหล่านั้นได้ทันท่วงทีด้วยพระกรทั้งพันนั้น

            ตำนานหนึ่งเล่าว่า น้ำพระเนตรแห่งความโทมนัสของพระโลเกศวรจะไหลรวมเป็นทะเลสาบสองแห่ง แล้วพระโพธิสัตว์ตาราเขียวและพระโพธิสัตว์ตาราขาวก็ทรงถือกำเนิดจากดอกบัวอันผุดขึ้นจากทะเลสาบทั้งสองนั้น





ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 20:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ผนังกำแพงของอาคารระเบียงคดที่มีหลังคาหินพังที่ถล่มลงมาทั้งหมด เป็นภาพปกรณัมของ “พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งอานุภาพ” ในปางมหาอานุภาพบารมีต่าง ๆ จากทั้งหมด 8 รูป ปัจจุบันเหลือเพียง 2 รูป หายไป 4 รูป (สองรูปจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พนมเปญ) อีก 2 รูปด้านทิศใต้สุดอาจฝังจมอยู่ใต้กองกำแพงที่พังถล่มทับถมอยู่ (?) ซึ่งในปัจจุบันยังไม่เคยมีการพบรูปสลักพระโลกเกศวรผู้ทรงอานุภาพในคติวัชรยานตันตระที่มีเด่นชัดเช่นนี้ในปราสาทหลังอื่น ๆ  นอกจากที่ปราสาทบันทายฉมาร์แห่งนี้เท่านั้นครับ

            รูปแสดง “อานุภาพ” ของพระโลเกศวร ทั้ง 8 ภาพ เป็นการแสดง “อานุภาพบารมี” ออกมาในลักษณะที่แตกต่างกันไปตามการจัดวางองค์ประกอบของภาพ ที่สอดรับกับรายละเอียดทางความเชื่อจากคัมภีร์ปุราณะต่าง ๆ ของฝ่ายวัชรยานตันตระ

            รูปสลักด้านขวาของประตูเล็ก ฝั่งเดียวกับโคปุระ เป็นภาพของ "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 22 กร"  ในความหมายของผู้เป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลสากลหรือผู้ให้กำเนิดแก่เหล่าเทพเจ้าและดวงดาว “คัมภีร์การันฑวยูหสูตร” กล่าวว่ามีเทพเจ้า 12 องค์ออกมาจากพระองค์ ทั้งพระพรหม (พระพาหา) พระนารายณ์ พระมหาเทพ พระอินทร์ (รากพระเกศา) พระวรุณ (พระอุทร) พระพาย (โอษฐ์) พระยม พระอาทิตย์ พระจันทร์(พระเนตร) พระปฤถิวี (พระบาท) พระสุรัสวดี (พระทนต์) พระลักษมี (พระชานุทั้งสอง) รูปสลักแทนด้วยวงกลม 11 วง รายล้อมรอบพระองค์


ภาพสลักที่หนึ่ง อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร ผู้ให้กำเนิดเทพเจ้าและดวงดาว


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
       “คัมภีร์อมิตายุสพุทธานุสัมฤติสูตร” ของฝ่ายมหายานกล่าวว่า พระองค์ประทับอยู่เบื้องขวาของพระพุทธเจ้าอมิตาภะพุทธะ โดยมีพระโพธิสัตว์มหาสถามปราปตะอยู่เบื้องซ้าย คัมภีร์นี้ยังกล่าวถึงพระนามพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรว่าหมายถึง “แสงสว่างอันไม่มีที่สิ้นสุด” เปรียบเสมือนปัญญาส่องทางแก่สรรพสัตว์ให้รอดพ้นจากนรกภูมิทั้งหลาย




ปัจจุบันรูปสลักรูปแรก ยังคงอยู่ที่ปราสาท ไม่ถูกขโมย ไม่พังทลาย

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
      “...พระองค์มีลักษณะเป็นเจ้าแห่งจักรวาล พระเกศาของพระองค์เป็นที่สถิตของพระพุทธเจ้าซึ่งมีขนาดสูงถึง 25 โยชน์ ทุกส่วนของพระองค์คือจักรวาล 1จักรวาล พระนลาฏเป็นที่บังเกิดของพระมเหศวร พระเนตรคือพระอาทิตย์และพระจันทร์ พระอังสาเป็นที่กำเนิดพระพรหม พระหทัยเป็นที่กำเนิดพระวิษณุ พระอุทรเป็นที่กำเนิดพระวรุณ พระโอษฐ์เป็นที่กำเนิดพระพาย พระทนต์เป็นที่กำเนิดพระสรัสวดี และแผ่นดินคือพระบาท...”



ภาพสลักที่สอง อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร ผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:10 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รูปสลักนูนต่ำลำดับที่สองเรียงไปทางใต้ เป็นภาพของ "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 32 กร" ในความหมายของผู้เป็นใหญ่หรือราชาของเหล่าพระโพธิสัตว์ ในพระหัตถ์ขวาด้านหน้าสุดมีพระโพธิสัตว์ประทับ พระหัตถ์ซ้ายด้านหน้าถือหม้อน้ำอมฤต แสดงมุทราแห่งอำนาจ  โดยมีเหล่าพระโพธิสัตว์ประทับอยู่ในแต่ละชั้นพุทธเกษตร ที่กำลังถวายนมัสการ




รูปสลักที่สอง ยังคงเหลือรอดอยู่ที่ตัวปราสาทในปัจจุบัน

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ถัดไปรูปที่สามเป็นภาพแสดงอานุภาพบารมี ในฐานะแห่งโพธิสัตว์ผู้ปกป้องและเป็นที่พึ่งแห่งมวลมนุษย์ ปรากฏเป็นรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 10 กร  ทั้งสามโลกต่างกำลังถวายการเคารพบูชา “คัมภีร์สัทธรรมปุณฑริก” กล่าวสรรเสริญพระองค์ในฐานะผู้พิทักษ์ภัยอันตรายให้สรรพสัตว์ โดยมีภาวะอยู่ทุกหนแห่ง มีอานุภาพบันดาลให้ประสบผลสำเร็จในกิจกรรมต่าง ๆ เชื่อกันว่าเพียงแค่เอ่ยพระนามของพระองค์ “โอม มณีปัทเม หูม” ก็จะได้บุญกุศลเท่ากับการถวายความเคารพบรรดาพระพุทธเจ้าซึ่งมีจำนวนหกสิบสองเท่าของเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา พระองค์ยังสามารถเนรมิตให้มีพระเศียรและพระกรจำนวนมากเพื่อให้ช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้มากขึ้น  “....พระองค์เป็นประหนึ่งวิญญาณของจักรวาลที่ได้เปล่งประกายสารัตถะแห่งการช่วยเหลือสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากภาวะทั้งปวง   และความรอบรู้ชั้นสูงสุดยอดที่จะเผยแผ่ให้คงอยู่ได้ยาวนานตลอดไปด้วยจำนวนมากมายที่มีอยู่ของบรรดาพระพุทธองค์ทั้งหลายอันอยู่รอบพระวรกาย...”



ภาพสลักที่สาม อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร ผู้ทรงโปรดเมตตาทั้งสามโลก"จงเอ่ยพระนามเรา"ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงพนมเปญ

.


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ภาพที่สี่ เป็นภาพการแสดงอานุภาพบารมีของการให้กำเนิดขององค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 6 กร หรือมุทรา“เปล่งรัศมี” แสดงความยิ่งใหญ่ ใน “คัมภีร์การันฑวยูหสูตร” กล่าวไว้ว่า “....ด้วยเพียงพระโลมา 1 เส้นของพระองค์ก็มีอานุภาพมากกว่าพระพุทธเจ้า 62 เท่าของจำนวนเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา นอกจากนั้นในขุมพระโลมาแต่ละขุมของพระองค์ ยังมีคนธรรพ์อยู่เป็นจำนวนพัน อีกขุมหนึ่งมีฤๅษีอยู่เป็นจำนวนล้าน ผู้ที่ออกมาจากพระโพธิสัตว์เปล่งรัศมีจึงมีทั้งเทวดา คนธรรพ์ ฤๅษี และพระพุทธเจ้าอีกมากมาย...” ทางด้านซ้ายเป็นภาพพระวัชริน (เหวัชระ) ทางขวาเป็นภาพ เทวีปรัชญาปารมิตา ศักติของพระอวโลกิเตศวร และไตรโลกยวิชัย ยิดัมหรือเทพผู้พิทักษ์พุทธศาสนาวัชรยานตันตระ มีหน้าที่ในการปราบภูตผีปิศาจสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ไม่ให้ทำอันตรายมนุษย์ รูปอัปสราและเหล่านางฟ้าบนสรวงสวรรค์กำลังถวายความเคารพ



ภาพสลักที่สี่ อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร ผู้ให้กำเนิดเหล่าพระโพธิสัตว์ ฤๅษีและมานุษิพุทธเจ้า
ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงพนมเปญ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ภาพสลักที่ห้า เป็นภาพสลักพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 8 กร แห่ง “เมตตาบารมีอันยิ่งใหญ่” “คัมภีร์อมิตายูรธยานสูตร” กล่าวว่า ประภามณฑลที่ล้อมรอบพระเศียรพระโพธิสัตว์โลเกศวรประกอบด้วย พระพุทธเจ้า 500 พระองค์ แต่ละองค์แวล้อมด้วยพระโพธิสัตว์ 500 พระองค์ และพระโพธิสัตว์แต่ละองค์ก็ยังแวดล้อมด้วยเหล่าเทวดาอีกเป็นจำนวนมาก


ภาพสลักที่ห้า อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร ผู้ทรงโปรดเมตตามวลมนุษย์


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ภาพสลักที่หก เป็นภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 8 กร ถือ วัชระ อังกุศ หนังสือ สังข์ จักร ลูกประคำ หม้อน้ำอมฤต และดาบ ในฐานะที่ทรงมีอานุภาพเหนือพระมหาเทพศิวะและพระนางปารวตี รวมทั้งเทพเจ้าทั้งหลายของลัทธิฮินดูในสรวงสวรรค์




ภาพสลักที่หก อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร เหนือเทพเจ้าและจักรวาลแห่งฮินดู

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-4 21:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

  ภาพสลักที่เจ็ดและแปดที่ปลายของผนัง อยู่ในสภาพพังทลาย ถล่มลงเป็นกองหินจากสงคราม หรืออาจถูกลักลอบขนเอาออกไปหมดแล้ว (ภาพถ่ายเก่าของสำนักฝรั่งเศสปลายบุรพทิศ (EFEO)) ภาพที่เจ็ดเป็นการแสดงอานุภาพบารมีแห่งการ“บริบาล” ความทุกข์และโรคร้าย ทั้งทางกายและจิตใจให้แก่โลกและมวลมนุษย์ เป็นภาพของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 4 กร พระหัตถ์ถือ ดอกบัวปัทมะ (Padma)  คัมภีร์ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร ลูกปะคำของนักบวช (Rudraksha Mala) และอมฤตกุมภ์ (กมัลฑลุ) (Amritakumbha) มีภาพของนางโยคินี (Yogini) ธิดาแห่งเหวัชระ กำลังร่ายรำในท่า “อรรถปรยังกะ” (ความยินดีในชัยชนะเหนืออวิชชาและความชั่วร้าย) และการเฉลิมฉลองของผู้คนด้วยความสุขและยินดี


ภาพสลักที่เจ็ด อานุภาพบารมีแห่งพระมหาโพธิสัตว์อวโลิเตศวร ผู้เพ่งมองมวลมนุษย์และบริบาลช่วยเหลือ


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้