ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2443
ตอบกลับ: 5
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร วัดดอนมูล(สันโค้งใหม่) ~

[คัดลอกลิงก์]

ประวัติและปฏิปทา
“คุณาลังกาโรมหาเถระ”
หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร

วัดดอนมูล (สันโค้งใหม่)
ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่


๐ ประวัติ

นามเดิม ของท่าน คือ คำแสน เพ็งทัน
เป็นบุตรของนายเป็งและนางจันทร์ตา เพ็งทัน

เกิด เมื่อวันอังคารที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๖
ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ เหนือ ปีมะเมีย
ที่บ้านสันโค้งใหม่ ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

บรรพชา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ อายุ ๑๗ ปี ที่วัดดอนมูล
มีครูบาโพธิ วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์

อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๘
ณ วัดดอนมูล โดยมีครูบาโพธิ วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์
ครูบาพิมพิสาร วัดแช่ช้าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์

อุปนิสัย หลวงปู่คำแสนมีอุปนิสัยเยือกเย็น อ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใส
ผู้ที่ได้รับฟังธรรมจากท่านแล้วก็หายทุกข์โศก
ท่านได้เสริมสร้างคุณงานความดีทั้งที่เป็นอัตประโยชน์
และปรหิตประโยชน์ไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นอเนกประการ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-2 12:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

วัดดอนมูล (สันโค้งใหม่)

หลวงปู่ครูบาคำแสน เป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต องค์หนึ่ง
เพราะครั้งหนึ่งพระอาจารย์มั่นเคยธุดงค์มาในสมัยที่วัดดอนมูลยังเป็นสำนึกป่าช้า
ครูบาคำแสนได้ปฏิบัติตามปฏิปทาของพระอาจารย์มั่นอย่างดี

๐ ปฏิปทาบางส่วนของครูบาคำแสน

สมัยที่ท่านได้ทราบข่าวจากชาวบ้าน ว่าทางราชการได้จับครูบาศรีวิชัย ยอดนักบุญแห่งลานนาไทย มากักขังไว้ที่วัดศรีดอนไชย เชียงใหม่ หลวงปู่คำแสนมีความเคารพ และเลื่อมใสในครูบาเจ้าฯเป็นอย่างยิ่ง ก็ให้รู้สึกเสียใจ และอยากจะไปกราบนมัสการให้กำลังใจท่าน ได้ชักชวนพระสงฆ์ และชาวบ้านให้พากันไปเยี่ยม แต่คนทั้งหลายกลัวจะถูกตำหนิ หรือถูกกลั่นแกล้งจากทางราชการ ในที่สุดก็เดินทางไปกับเณร และลูกศิษย์เพียง ๒-๓ คนเท่านั้น ได้เดินทางประมาณ ๑๕-๑๖ กิโลเมตรกว่าจะถึงวัดศรีดอนไชย เมื่อเข้าไปภายในพระวิหารนั้น เขาใช้เชือกมนิลาเส้นโต ผูกเสาวิหารไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมเหมือนคอกหมู ภายในคอกสี่เหลี่ยมนั้น มีพระสงฆ์รูปหนึ่งสูงอายุนั่งอยู่ด้วยอาการสงบ ในลักษณะขัดสมาธิ ห่มผ้าสีกลัก มีลูกประคำ เส้นโตๆ คล้องคอ กำลังนับลูกประคำนั้นอยู่ จึงคลานเข้าไปกราบตรงหน้า

ในขณะที่กราบลงไปนั้นก็เกิดอารมณ์อ่อนไหว จิตใจอ่อนแอจนร้องไห้ออกมาโฮใหญ่ ด้วยอารมณ์สงสารในครูบาศรีวิชัย ที่ต้องมาถูกจองจำ และจะถูกจับสึกที่กรุงเทพฯ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของพระคำแสนในขณะนั้น คงจะทำให้ท่านครูบาฯออกจากการปฏิบัติ เพราะได้เอื้อมมือมาตบที่ไหล่ พร้อมกับดุว่า ท่านเป็นพระจะร้องไห้ไม่ได้ พระเป็นผู้ตัดแล้วซึ่งกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องระงับอารมณ์ ไม่ให้มีการร้องไห้เด็ดขาด ขณะเดียวกันก็เริ่มสอนให้นั่งขัดสมาธิ เอามือประสานกันวางไว้บนตัก หลับตาพร้อมกับท่องคำ นโม ในใจ หลายสิบหลายร้อยจบให้ท่องไปเรื่อยๆ พระคำแสนก็ปฏิบัติตามคำสั่ง ท่องไปท่องมาไม่นานอาการ สะอื้น และน้ำตาก็หายไป ครูบาฯจึงสั่งให้ลืมตาขึ้น แล้วก็สอบถามว่าเป็นใครมาจากไหน

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-2 12:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระคำแสนก้มลงกราบแทบเท้า และนมัสการว่า มาจากอำเภอ สันกำแพง ครูบาฯได้เทศน์อบรมเกี่ยวกับขันติให้พระคำแสนฟัง พร้อมกับแนะนำสั่งสอนให้ศึกษาวิปัสสนาธุระ โดยเริ่มต้นปฏิบัติดังที่ได้ทำมาแล้วเมื่อสักครู่ แล้วก็ให้นมัสการลา จึงนับว่าเป็นบทเรียนบทแรกในชีวิต เกี่ยวกับการศึกษาวิปัสสนา และท่านก็ดิ้นรนหาลู่ทางจะศึกษาในเรื่องนี้ จากทุกแห่งที่มีข่าวว่ามีอาจารย์สอน ต่อมาเมื่อท่านได้เรียนกัมมัฏฐานจากท่านครูบาแก้ว ชัยยะเสโน แล้วท่านก็ขอลาพระอาจารย์ ออกเดินธุดงค์จาริกไปในที่ต่างๆ เมื่อถึงคราวเข้าพรรษา ท่านจึงจะกลับมาอยู่ที่วัดดอนมูล


พออายุได้ ๓๔ ปี ๑๓ พรรษา ท่านเจ้าอาวาสก็มรณภาพลง ทางคณะศรัทธาจึงได้นิมนต์หลวงปู่คำแสน เป็นเจ้าอาวาสแทนสืบต่อมา... จนท่านมีอายุได้ ๓๙ ปี ๑๘ พรรษา มีพระธุดงค์ชื่ออาจารย์แหวน สุจิณโณ เดินธุดงค์มาพักอยู่ที่อู่ทรายคำ ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อหลวงปู่ทราบดังนั้น ท่านได้ให้โยมไปนิมนต์ พระอาจารย์แหวน ให้มาเผยแพร่ อบรมศรัทธาที่วัดดอนมูล ต่อมาท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้มาพำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง พระอาจารย์แหวน และหลวงปู่คำแสน ก็ได้ไปนมัสการ และได้ มอบกาย มอบจิตถวาย เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์มั่น แต่บัดนั้นมา

ต่อมาท่านอาจารย์แหวน ท่านได้จาริกไปๆ มาๆ ในเมืองเชียงใหม่ และไปจำพรรษา ที่วัดป่าห้วยน้ำริน อ.แม่แตง ส่วนหลวงปู่คำแสนหลังจากได้เรียนพระกัมมัฏฐาน จากท่านพระอาจารย์มั่นแล้ว ท่านก็ออกเดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี แล้วเดินย้อนกลับ เดินธุดงค์ไปสู่ภาคอีสาน ไปอยู่กับท่านอาจารย์สิงห์ที่โคราช แล้วกลับขึ้นไปทางเหนืออีก ที่ใดเป็นที่วิเวกเป็นป่าเปลี่ยวท่านก็ได้พักภาวนา ตามอัธยาศัยของท่าน ระยะหลังๆ ท่านได้ ไปอยู่ร่วมปฏิบัติธรรมกับท่านอาจารย์แหวน ตามวัดป่าต่างๆ ๑ พรรษาบ้าง ๒ พรรษาบ้าง แม้เมื่อท่านอาจารย์แหวนย้ายไปจำพรรษา อยู่ที่วัดป่าดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ หลวงปู่ฯ ก็ไปมาคารวะท่านอาจารย์อยู่เสมอๆ


และสมัยหนึ่งที่หลวงปู่ฯ ท่านกำลังหนีคนไปสร้างวัดใหม่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากวัดเดิม ซึ่งเริ่มไม่สงบ ท่านเรียกว่า “วัดป่าดอนมูล” ผมเคยท้วงติง โดยถามท่านว่าด้านหลังวัดอยู่ติดลำห้วย มีป่าโปร่งๆ อยู่นิดหน่อยกระหรอมกระแหรม ไหงหลวงปู่ตั้งชื่อเสียน่ากลัวว่าวัดป่า

ท่านว่า ป่าที่เอาเป็นชื่อวัดนั้น ไม่ได้หมายความตามอย่างที่ผมเข้าใจ ท่านหมายถึงป่าช้าต่างหาก เพราะเดิมที่ตรงนั้นเป็นป่าช้า เป็นอันว่าที่ท่านตั้งชื่อว่า “ป่า”ไม่ใช่เพื่อเพิ่มความขลังให้กับสถานที่ แต่เพราะเดิมมันเป็นป่าช้า ได้ตัดคำว่า “ช้า” ออกไปเพราะเกรงว่ามันจะน่ากลัวเกินไปต่างหาก
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-2 12:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มรณภาพ

มรณภาพ วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ เวลา ๑๐.๑๒ น.
สิริรวมอายุได้ ๘๖ ปี พรรษา ๖๔

พระอัฐิธาตุหลวงปู่ครูบาคำแสน





ที่มา
http://www.dharma-gateway.com/monk/monk-main-page.htm
http://www.dharma-gateway.com/mo ... n/lp-mun-pic-02.htm
http://www.santidham.com/tatu1st ... -kamsaen%20noi.html
http://www.dhammajak.net/forums/ ... 62c9f386d648bfede46

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
กราบหลวงปู่ครับ

กราบนมัสการครับ

ขอบพระคุณข้อมูลครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้