ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 13393
ตอบกลับ: 11
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

โอมเจ้าหอมจันทร์

[คัดลอกลิงก์]
"  โอมเจ้าหอมจันทร์ผู้นี้ ผีป่า ผีป่วง ผีห่า ตึงมวล


จงประธานอำนาจหือกู กูจะอยู่เหนือคนทั้งป่วง



เจ้าหอมจันทร์ผู้นี้ ผีป่า ผีป่วง ผีห่า ตึงมวล



จงประธานอำนาจหือกู กูจะอยู่เหนือคนทั้งป่วง  "



เจ้าหอมจันทร์   คือ  "เจ้ามหาเสน่ห์" เจ้านางที่รูปโฉมงดงาม

ด้วยเหตุนี้จึ้งมีคนอัญเชินทานมาทำเสน่หฺ์ หรือที่ อีแพง

อันเชิญมาเพื่อทำพิธีเพื่อให้คุณหลวงหลงรัก จริง ๆ เป็นเจ้าที่ดี

แต่เพราะถูกอีแพงเรียกมาใช้ในทางที่ชั่วร้ายชั้นต่ำ

เลยทำให้ท้านปรากฎกายออกมาด้วยรูปกายดำ ๆ




อีแพงอัญเชิญเจ้าหอมจันทร์





คนในสมัยโบราณต่างเชื่อในเรื่องการทำไสยศาสตร์
หนึ่งในจำนวนของที่ทำให้เกิดเรื่องมากที่สุดนั้นก็คือ "น้ำมันพราย"


น้ำมันพรายถือเป็นทั้งของสูงและของต่ำ
แล้วแต่เจตนาในการปรุงแต่งไปใช้
อย่างเช่นในพิธีชุบพระแสงดาบของกษัตริย์ เพื่อให้มีเดชาประกาสิต
พวกอาจารย์ใหญ่ๆทางอยุธยาจะเขียนอักขระด้วยผงฝุ่น
ที่ทำพิธีปลุกเสกลงบนพระแสงดาบเผาจนเหล็กแดงแล้วนำไปชุบในน้ำมันผี
ตัวอักขระจะนูนขึ้น แล้วนำไปล้างออกด้วยน้ำที่เกิดขึ้นเองในเศียรพระวัดตูม


...  
ในบรรดาอาถรรพ์
ด้านทำเสน่ห์ด้วยไสยศาสตร์
"น้ำมันพราย"
ถือว่าเป็นสุดยอดของมนต์ดำสายล่าง
ที่เข้มขลังและน่ากลัวที่สุด

น้ำมันพราย คือ น้ำมันที่ได้มาด้วยการใช้เทียนลนจากศพของหญิงตายทั้งกลม
(หญิงตั้งครรภ์แล้วเสียชีวิตขณะลูกยังอยู่ในท้อง)
ผู้ที่สามารถลนน้ำมันพรายมาได้
จะต้องเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมทางไสยศาสตร์แก่กล้า
มีกำลังใจเข้มแข็งสูงมาก
เพราะจะต้องเผชิญกับความน่าเกลียดน่ากลัวและน่าสยดสยองอย่างถึงที่สุด
หรืออาจเผชิญกับอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณผีตายทั้งกลมได้ทุกเมื่อ

หากไม่มีวิชาอาคมเข้มขลังและมีจิตใจที่มั่นคงอย่างแท้จริง
มีสิทธิ์ที่จะเสียสติ เพราะความตื่นตะหนกสุดขีด
กลายเป็นคนวิกลจริตฟั่นเฟือง หรืออาจถึงกับตายได้ง่ายๆ



น้ำมันพรายมีฤทธิ์ในทางชั่วร้าย และมีอาถรรพ์อันเข้มขลังอย่างยิ่ง
หากเอาน้ำมันพรายไปแตะต้องสัมผัสถูกเนื้อของหญิงใด
จะทำให้หญิงนั้นเกิดความปฏิพัทธ์ลุ่มหลงรักใคร่
ในชายผู้เป็นเจ้าของน้ำมันพรายอย่างไร้สติ
มีอาการเพ้อคลั่งประหนึ่งคนบ้า
ต้องซมซานไปหาเจ้าของน้ำมันพรายเพื่อให้เขาเชยชม
ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน

และเป็นที่น่าเศร้าเสียอย่างยิ่งที่หญิงเคราะห์ร้ายคนนั้น
จะกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนป้ำๆเป๋อๆ คุ้มดีคุ้มร้ายไปชั่วชีวิต
และการถอนฤทธิ์น้ำมันพรายให้ออกไปจากตัวนั้น กระทำได้ยากยิ่ง
หรืออาจไม่ได้เลย หากผู้ถอนไม่มีจิตตานุภาพแก่กล้าจริงๆ

จุดประสงค์ในการใช้น้ำมันพรายมักเกิดจากชายที่หมายปองหญิง
ผู้ซึ่งเขาไม่มีน้ำใจไมตรีตอบสนอง
หรือตัวเองเป็นชายต่ำต้อยด้วยคุณสมบัติและทรัพย์สมบัติ
แต่หวังอยากจะร่วมภิรมย์สมสู่กับหญิงสูงศักดิ์
เข้าทำนองดอกฟ้ากับหมาวัด ซึ่งไม่มีทางบรรจบพบกันได้
เพราะชาติตระกูลแตกต่างกันดุจฟ้ากับดิน

ชายผู้มีใจโฉดชั่วจึงได้หาทางใช้น้ำมันพรายกับหญิงนั้นให้สมประสงค์ของตัวเอง
โดยไม่คำนึงว่าจะส่งผลร้ายแก่ผู้หญิงคนนั้นอย่างไรบ้าง

เรื่อง "น้ำมันพราย" เป็นเรื่องที่มีการกล่าวถึงอย่างแพร่หลาย
และมีมานานตั้งแต่ครั้งโบราณ ถือกันว่าน้ำมันพรายเป็นคุณไสยอย่างหนึ่ง
ของวิชาไสยศาสตร์สายล่าง มีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชเข้าขั้นสูงสุด
เนื่องจากผูกพันกับจิตวิญญาณของภูตผีปีศาจ

ผู้ที่จะทำน้ำมันพรายได้ต้องเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมทางไสยศาสตร์ระดับสูงเท่านั้น
จึงจะได้น้ำมันพรายมาครอบครอง
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-2 07:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



ขั้นแรก



จะต้องคอยสดับตรับฟังข่าวคราวว่ามีศพผู้หญิงตายทั้งกลมอยู่ที่ใดก่อน
สำหรับหญิงตายทั้งกลมที่หมอผีผู้เรืองวิชาต้องการลนเอาน้ำมันพราย
หากถึงแก่ความตายด้วยอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ถือว่ายังไม่ขลัง
แต่ถ้าตายด้วยการฆ่าตัวตาย ถูกฆ่าตาย เป็นอุบัติเหตุตาย
คือที่เรียกว่าตายโหง ถือว่าน้ำมันพรายจะเข้มขลังอย่างยิ่ง
เพราะวิญญาณผู้ตายทั้งกลมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงกล้าเปนพิเศษ

แต่ศพที่ตายจากการฆ่าตัวตายนั้นถือว่าฤทธิ์แรงมาก
เป็นที่ต้องการของหมอผีอย่างสูง
เนื่องจากเป็นวิญญาณดุร้ายเต็มเปี่ยมด้วยอำนาจของความคับแค้นและโทสะ
น้ำมันพรายที่ได้จากศพเช่นนี้ จะมีพลังความขลังสูงมากเป็นพิเศษ




ขั้นที่ 2



เมื่อหมอผีรู้รายละอียดดีแล้ว จึงเตรียมสิ่งของเครื่องมือเครื่องใช้
ในการประกอบพิธีไปเอาน้ำมันพรายครบครัน รอจนถึงคืนที่ 3 หลังจากฝังศพ
ก็เดินทางไปยังป่าช้าแห่งนั้นอย่างเงียบๆ ในตอนดึกสงัด






เมื่อเข้าเขตป่าช้า สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ขออนุญาตนายป่าช้าก่อน
นายป่าช้านี้เรียกว่า "ยายกะลาตากะลี"
การขอนุญาตนายป่าช้าจะมีเครื่องเซ่นใส่กระทงสามเหลี่ยมทำด้วยกาบกล้วย
เครื่องเซ่นมี..


ข้าวสวย 3 ปั้น ไข่ต้ม 3 ลูก ปลา 3 หัว
หางปลา 3 หาง บุหรี่ 3 มวน เหล้าขาว 1 ขวด
จากนั้นก็จุดธูป 1 ดอก บริกรรมเรียกวิญญาณนายป่าช้ามารับเครื่องเซ่นสังเวย
แล้วขอนุญาตนายป่าช้าว่าจะมาลนเอาน้ำมันพรายจากศพหญิงตายทั้งกลมชื่อนั้นชื่อนี้
(ระบุให้ชัดเจน) หากนายป่าช้าอนุญาตก็ขอให้ธูปดับทันที
ถ้าไม่อนุญาตก็ขอให้ธูปลามต่อไปจนหมดดอก
หลังจากอธิษฐานบอกกล่าวแล้วหมอผีจะสังเกตดูว่าธูปที่จุดไว้เป็นอย่างไร
หากธูปที่ส่องแสงเรืองๆนั้น ได้ดับสนิทลงในเวลาไม่ถึงอึดใจ
แสดงว่านายป่าช้าไม่ขัดข้อง
เมื่อเป็นเช่นนั้นการลนน้ำมันพรายถือว่าด่านแรกได้ผ่านไปด้วยดี
แต่ถ้านายป่าช้าไม่อนุญาต หมอผีจำเป็นต้องล้มเลิกการลนเอาน้ำมันพรายแต่เพียงเท่านี้

ขืนยังดื้อดึงจะลนเอาน้ำมันพรายให้ได้
นายป่าช้าจะคุมผีทั้งป่าช้ามาทำร้ายจนถึงขั้นตาย
แม้จะมีวิชาอาคมขลังแค่ไหน ก็ยากที่จะต้านทาน
วิญญาณอันแก่กล้าจำนวนมากมายเป็นกองทัพได้
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-2 07:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขั้นที่ 3


เมื่อได้รับสัญญาณการอนุญาตแล้ว
คณะหมอผีจะพากันไปที่หลุมศพหญิงตายทั้งกลมคนนั้น
ซึ่งจะสังเกตได้ง่าย เพราะเหนือมูลดินหลุมศพ
มีหนามพุทราวางเกลี่ยไว้ตลอดหลุม
หนามเหล่านี้มีไว้มิใช่ป้องกันสุนัขหรือสัตว์อื่นมาคุ้ยหลุมศพ
แต่เป็นการกระทำของสัปเหร่อที่มีอาคม
วางหนามพุทราสะกดเพื่อไม่ให้วิญญาณผีตายทั้งกลมออกมาอาละวาด

หมอผีจะสั่งรื้อเอาหนามพุทราออกให้หมด
ระหว่างที่รื้อหนามออก จะต้องบริกรรมคาถาถอน หรือคลายมนต์สะกดไปด้วย

เมื่อหนามพุทราถูกกวาดออกไปหมดเกลี้ยง
หมอผีจะต้องหาหินสะกด 3 ก้อน
ซึ่งวางเรียงไว้ด้านศีรษะผีตายทั้งกลม
ถ้าได้หิน 3 ก้อนแล้ว หมอผีจะต้องใช้อาคมตรวจดูว่า
หินก้อนใดที่สัปเหร่อลงอาคมสะกดไว้ จากนั้นก็ต้องถอนคาถาสะกดออก

การป้องกันไม่ให้วิญญาณผีตายทั้งกลมอาละวาด
เป็นวิชาไสยศาสตร์แขนงหนึ่งที่สัปเหร่อ
จะต้องเรียนรู้คาถาสะกดหรือตรึงวิญญาณให้อยู่แต่ในหลุมศพ
หลังจากถอนมนต์สะกดจากหินออกไปแล้ว
หมอผีจะใช้มีดหมอปักดินแล้วงัดเปิดขึ้นมารอบๆหลุมศพทั้ง 8 ทิศ
เป็นการเบิกธรณีก่อนที่จะให้ผู้ติดตามขุดเอาดินปากหลุมออกจนถึงฝาโลง
เมื่องัดฝาโลงให้ตะปูถอนเขยื้อนขึ้นมาหมดทุกตัว
แต่ยังไม่เปิดฝาโลงออก หมอผีจะให้ผู้ที่ติดตามถอยอยู่ห่างๆ
เพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ

ผู้เปิดฝาโลงก็คือหมอผี
ทันทีที่ฝาโลงถูกเปิดออกกลิ่นเน่าเหม็นของศากอศุภะ ซึ่งกำลังขึ้นอืด
เพราะไม่ได้ฉีดยารักษาศพ จะกระจายตลบไปทั่วอาณาบริเวณ
และในเสี้ยวเวลาที่ฝาโลงถูกพลิกเปิดถือกันว่าเป็นห้วงเวลาอันตรายสำหรับหมอผี

เพราะผีตายทั้งกลมที่วิญญาณ เฮี้ยนจริงๆจะแผลงฤทธิ์ในจังหวะนี้
เนื่องจากมนต์ที่สะกดถูกถอนออกจนหมด

ในรายที่ผีเฮี้ยน จะมีเสียงหวีดร้อง เย็นยะเยือก
แล้วร่างจะทะลึ่งพรวดเหยียดยาวสูงลิบลิ่ว
เป็นการหลอกหลอนซึ่งๆ หน้า
ถ้าหมอผีไม่ได้เคี่ยวกำกับวิญญาณร้ายมาอย่างโชกโชน มีหวังพิธีแตกเอาง่ายๆ
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-2 07:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แต่หมอผีที่สมาธิแก่กล้าก้อจะบริกรรมคาถาไปเรื่อยๆ
จนกำหราบวิญญาณร้ายให้อ่อนกำลังลง
ร่างที่ยืดยาวจะหดตัวต่ำลงมากระทั่ง มานั่งประจัญหน้ากัน

คราวนี้หมอผีจะทำการตัดด้ายตราสังที่มัดข้อมือออก
แล้วบอกกล่าวให้ผีรู้ว่าจะมาขอเอาน้ำมันพราย จะให้หรือไม่?
ถ้าให้จะให้ตรงไหน? ถ้าผียินยอม ผีก้อจะบอกไปว่าบริเวณใดที่จะให้ใช้ไฟลนได้

เทียนที่จะใช้ลนเอาน้ำมันพรายต้องทำจากขี้ผึ้งแท้
ยาวเท่า 1 ศอกของหมอผี ไส้เทียนใช้ด้าย 80 เส้นมาฝั้น
ระหว่างฝั้นก็ต้องบริกรรมคาถาสะกดวิญญาณไปด้วย
และจะต้องบริกรรมไม่ให้ขาดตอน จนกว่าการทำเทียนจะสิ้นสุด

เมื่อใช้เทียนลนจนน้ำเหลืองหรือน้ำมันละลายหยด
ให้ใช้ชามโคม หรือถ้วยกระเบื้องไปรองรับ
ซึ่งจะได้น้ำมันจากศพอย่างมากก็ไม่เกิน 10 หยด

เมื่อได้น้ำมันมาแล้วก็เทรวมกับน้ำมันซึ่งเตรียมใส่ขวดปากกว้าง
น้ำมันที่เตรียมมานี้ไม่ใช่น้ำมันธรรมดา

เป็นน้ำมันที่ได้มาโดยการผสมผสานระหว่างน้ำมันมะพร้าว
ซึ่งเคี่ยวจากมะพร้าวล้างหน้าศพ 7 ศพ และขี้ผึ้งปิดปากผีอีก 7 ศพ

มะพร้าวล้างหน้าศพก็คือมะพร้าวที่สัปเหร่อผ่าเอาน้ำมาล้างหน้าศพก่อนเผา
หลังจากผ่ามะพร้าวแล้วจะต้องไม่ให้มะพร้าวถูกพื้นดิน
ให้เก็บไว้ในที่สูง แล้วขูดเอาเนื้อมะพร้าวทั้ง 7 ลูก
ไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมัน
แล้วเอาขี้ผึ้งที่ใช้ปิดปาก จมูก ตา หู ศพ 7 ศพ
นำไปเคี่ยวรวมกับน้ำมันมะพร้าวจนเข้ากันดี แล้วจึงเทใส่ขวดรวมไว้

หลังจากลนเอาน้ำมันพรายเสร็จแล้ว ก็ให้มัดด้ายตราสังที่ข้อมือของศพไว้ดังเดิม

การได้น้ำมันพรายจากผีตายทั้งกลมขั้นแรกมาแล้ว ยังใช่ไม่ได้ทันที
จะต้องนำมาทำพิธีหุงต่อไปอีกจึงจะใช้ได้
การหุงหรือเคี่ยวน้ำมันพรายในขั้นตอนต่อไป
ให้เอาถ่านเผาผีที่หัวกองฟอนมา 7 แห่ง
เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเคี่ยวน้ำมันพราย

สถานที่เคี่ยวน้ำมันพรายให้ผสมผสานกลมกลืนกับน้ำมันมะพร้าวและขี้ผึ้งปิดปากผี
คือทางสามแพร่ง ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว
ส่วนไม้พายที่ใช้คนต้องใช้กิ่งพุทราตายพรายชี้ไปทางทิศตะวันออก
มาเหลาทำเป็นไม้พายเท่านั้น ระหว่างที่เคี่ยวหมอผีต้องบริกรรมคาถากำกับตลอดเวลา

เมื่อหุงหรือเคี่ยวน้ำมันพรายได้ดีแล้วต้องเอาไปเสกต่อในโบสถ์อีก
ตำแหน่งที่วางขวดใส่น้ำมันพรายบนโบสถ์
จะต้องดูว่าสายตาของพระประธานซึ่งทอดพระเนตรลงมาตกกระทบพื้น ณ ที่ใด
ให้เอาขวดน้ำมันพรายวางตรงตำแหน่งนั้น แล้วบริกรรมเสกคาถาลงไป
โดยเริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงเวลาที่แสงพระอาทิตย์
สาดเข้ามาในโบสถ์ได้ระดับกับพระเนตรของพระประธาน

แล้วจึงหยุดบริกรรมคาถา ให้กระทำแบบนี้ในโบสถ์ทั้งหมด 7 โบสถ์
จึงถือว่าสิ้นสุดพิธีกรรม น้ำพรายที่ได้ถือว่านำไปใช้งานได้แล้ว

การมีน้ำมันพรายไว้ครอบครองจะวางทิ้งไว้เฉยๆ ก็ไม่ได้
ทุกๆวันจะต้องนำอาหารคาวหวานมาเซ่นเป็นประจำ
เพราะของสิ่งนี้มีวิญญาณของผีตายทั้งกลมสิงอยู่ด้วย
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-2 07:14 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มีคำบอกเล่าถึงน้ำมันพรายนี้ว่า ..

คนธรรมดาหากคุมไม่เป็น ไม่มีคาถากำกับ ใช้แล้วอันตราย

ทั้งคนใช้ทั้งคนโดนของ

ผู้ที่โดน จะกลายเป็นคนสติจะวิปลาส รักษาไม่หาย

ว่ากันว่าหากนำมาหุงใหม่กับสีผึ้งผสมว่านอาถรรพ์

เพื่อทำเชื้อให้อ่อนลงโดยเกจิผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า

จะคุมวิญญานพรายได้ถาวร

และส่งผลดีช่วยเหลือเราได้  หากใช้ในทางที่ถูกต้อง.


"ไม่ผิดศีล ไม่ผิดเมียใคร"



เมื่อได้ผลแล้ว ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้เป็นเจ้าของน้ำมัน

จะส่งผลบุญให้เขาได้บุญพ้นจากวิบากกรรมนี้ได้เร็วขึ้น

หากใช้ทางที่ผิดอาจเกิดผลเสียหายภายหลัง

ของแบบนี้ครูบาอาจารย์ท่านสาปแช่งไว้..

ว่ากันว่า คนที่ใช้น้ำมันพราย เพื่อให้คนหลงรัก นั้น บาปมาก

เพราะคนที่ถูกดีดใส่ จะเป็นบ้าในเวลาต่อมา  

คนที่ใช้ ก็จะมีชะตากรรมไม่ต่างกัน...

ถึง น้ำมันพราย อยู่ในมือคุณ ก็อย่าได้ลอง

เพราะถ้าคนๆนั้นไม่รักคุณ ไปฝืนใจก็ไม่มีประโยชน์
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-2 07:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตัวละคร "เจ้าหอมจันทร์"

ได้แรงบันดาลจากเจ้านางองค์หนึ่ง (มิได้ใช้ชื่อจริงท่าน)

ตามตำนานเป็นผู้ติดตามเจ้าแม่จามเทวี

แผ่นดินยุคสมัยนั้นนิยมทำคุณไสยกันอย่างมาก

มีความเชื่อว่า ท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นหญิงกล้าแกร่งมีวิชา

และใช้ความรู้เหล่านั้น รักษาบ้านเมือง ปราบคนพาล

ผู้กำกับ ใหม่(ภวัต) ที่บวชเรียนมีครูทางเหนือ

ไปถามครูบาอาจารย์มาได้ความว่า หากเป็นเมียน้อยต้องบูชา

เจ้านางท่านนี้ แต่ในกรณีเป็นเมียหลวงต้องบูชาอีกท่านหนึ่ง

คือคนจะเล่นของ ต้องบูชาให้ถูกข้าง
แล้วอย่างอ้ายเมธกำลังต้องการหาเมียนี่ล่ะครับ ต้องบูชาองค์ไหนครับพี่รามฯ
TATIE ตอบกลับเมื่อ 2013-8-2 10:57
แล้วอย่างอ้ายเมธกำลังต้องการหาเมียนี่ล่ะครับ ต้องบ ...

บูชาองค์ไหนพี่เมธก็ไม่ขึ้น
เพราะใจไม่ถึง
ยังงี้ต้องส่งไปฝึกวิชากับพี่หมอต้อย
TATIE ตอบกลับเมื่อ 2013-8-2 16:43
ยังงี้ต้องส่งไปฝึกวิชากับพี่หมอต้อย ...

วิชาอะไรหนอ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้