ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
พระหลอกผี(วินัยพระภิกษุที่คนควรรู้)
1
2
3
/ 3 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 6551
ตอบกลับ: 21
พระหลอกผี(วินัยพระภิกษุที่คนควรรู้)
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36194
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2013-9-14 08:29
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์เก่าขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2015-3-10 08:45
พระหลอกผี
ส่วนมากหลวงปู่ชอบแนะนำส่งเสริมพระเณรให้ใส่ใจเรื่องธุดงคกัมมัฏฐานเป็นพิเศษมีอยู่ครั้งหนึ่ง พระสานุศิษย์มา
ชุมนุมกันจำนวนมาก ทั้งแก่พรรรษาและอ่อนพรรษาหลวงปู่ชี้แนวทางว่าให้พากันไปอยู่ป่าหาทางวิเวก หรืออยู่ตามเขา
ตามถ้ำเพื่อเร่งความเพียร จะได้พ้นจากภาวะตกต่ำทางจิตบ้าง ก็มีพระรูปหนึ่งพูดออกมาพล่อยๆ ว่า ผมไม่กล้าไปครับเพราะ
ผมกลัวผีหลอกฯ
"ผีที่ไหนเคยหลอกพระ มีแต่พระนั่นแหละหลอกผีและตั้งขบวนการหลอกผีเป็นการใหญ่เสียด้วย คิดดูให้ดีนะวัตถุสิ่ง
ของที่ชาวบ้านเขาเอามาบริจาคทำบุญนั้นแทบทั้งหมดล้วนทำเพื่ออุทิศส่งไปให้ผีทั้งนั้น ผีพ่อแม่ปู่ย่าตายายญาติพี่น้องเขา
แล้วพระเราเล่าประพฤติตนเหมาะสมแล้วหรือมีคุณธรรมอะไรบ้าง ที่จะส่งผลให้ถึงผีได้ ระวังอย่ามาเป็นพระหลอกผี
"
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36194
23
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-11-15 06:53
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36194
22
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-10-31 07:06
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระหลอกผี
ส่วนมากหลวงปู่ชอบแนะนำส่งเสริมพระเณรให้ใส่ใจเรื่องธุดงคกัมมัฏฐานเป็นพิเศษมีอยู่ครั้งหนึ่ง พระสานุศิษย์มา
ชุมนุมกันจำนวนมาก ทั้งแก่พรรรษาและอ่อนพรรษาหลวงปู่ชี้แนวทางว่าให้พากันไปอยู่ป่าหาทางวิเวก หรืออยู่ตามเขา
ตามถ้ำเพื่อเร่งความเพียร จะได้พ้นจากภาวะตกต่ำทางจิตบ้าง ก็มีพระรูปหนึ่งพูดออกมาพล่อยๆ ว่า ผมไม่กล้าไปครับเพราะ
ผมกลัวผีหลอกฯ
"ผีที่ไหนเคยหลอกพระ มีแต่พระนั่นแหละหลอกผีและตั้งขบวนการหลอกผีเป็นการใหญ่เสียด้วย คิดดูให้ดีนะวัตถุสิ่ง
ของที่ชาวบ้านเขาเอามาบริจาคทำบุญนั้นแทบทั้งหมดล้วนทำเพื่ออุทิศส่งไปให้ผีทั้งนั้น ผีพ่อแม่ปู่ย่าตายายญาติพี่น้องเขา
แล้วพระเราเล่าประพฤติตนเหมาะสมแล้วหรือมีคุณธรรมอะไรบ้าง ที่จะส่งผลให้ถึงผีได้ ระวังอย่ามาเป็นพระหลอกผี
"
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36194
21
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-10-30 05:15
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36194
20
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-10-21 06:08
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คำถามคือ..
ในเมื่อประเทศไทยประกาศตนว่าเป็น “เมืองพุทธ” แล้วที่ผ่านมา
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำอะไร เพื่อปกป้องสิ่งที่ได้ชื่อว่า
เป็น 1 ใน 3 สถาบันหลักของประเทศบ้างหรือไม่?
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
ธี
ธี
ออฟไลน์
เครดิต
2786
19
#
โพสต์ 2016-1-20 09:30
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36194
18
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-1-19 18:15
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
53965
17
#
โพสต์ 2013-12-14 07:20
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณครับ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Metha
Metha
ออฟไลน์
เครดิต
53965
16
#
โพสต์ 2013-11-27 20:09
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36194
15
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2013-11-27 07:55
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ภิกษุอภิมหาโจร
ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาอยู่ ณ ป่ามหาวันใกล้เมืองเวสาลี ขณะนั้นฝนฟ้าเกิดอาเพศไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทำนาทำไร่ไม่ได้ผล บังเกิดทุพภิกขภัยไปทั่ว ชาวบ้านอดอยากยากจนไม่มีข้าวปลาอาหารกิน ไม่มีใส่บาตรถวายพระ
ขณะนั้นมีภิกษุกลุ่มหนึ่งจำพรรษาอยู่ที่ชายป่าริมฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา เมื่อเห็นว่าชาวบ้านไม่ใส่บาตรเกิดความอดอยากหนักเข้า ก็คิดหาอุบายหลอกลวงชาวบ้านเพื่อจะได้ข้าวปลาอาหารมาฉันกันเหมือนเดิม จึงได้ประชุมปรึกษาหารือ ในที่สุดตกลงกันว่าจะต้องใช้อุบายอวดอ้างคุณวิเศษว่าเป็นผู้สำเร็จวิชชา ๓ ประการ อภิญญา ๖ สามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์อภินิหารให้รู้ว่า เป็นผู้วิเศษ ทำทีพูดจายกย่องกันเองให้ชาวบ้านฟังว่า..
พระรูปนี้ได้ฌานที่ ๑ พระรูปนั้นได้ฌานที่ ๒ พระรูปโน้นบรรลุโสดาบัน พระอาจารย์องค์นั้นเป็นพระอนาคามี พระอาจารย์องค์นี้เป็นพระอรหันต์ จนชาวบ้านพากันหลงเชื่อว่าเป็นผู้วิเศษจริง เกรงว่าภิกษุผู้วิเศษจะอดอยากปากแห้ง จึงดิ้นรนหาข้าวปลาอาหารมาใส่บาตรเลี้ยงดูภิกษุเหล่านั้นทุกวัน จนอิ่มหนำสำราญอ้วนท้วนผ่องใส
ครั้นเมื่อออกพรรษา...
ภิกษุเหล่านั้นต่างเก็บข้าวของเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ กูฏาคารศาลา ในป่ามหาวัน ใกล้เมืองเวสาลี ปรากฏว่า บรรดาภิกษุอื่นที่เดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ล้วนแต่มีรูปกายผ่ายผอมซูบซีดอิดโรย เพราะอดอยากกันมาตลอดพรรษา คงมีแต่ภิกษุกลุ่มเดียวเท่านั้นที่มีผิวพรรณผ่องใสอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี พระพุทธเจ้าทรงมีความสงสัย ตรัสซักไซ้ไล่เลียงจึงรู้ว่า ภิกษุเหล่านั้นได้ใช้อุบายอวดวิเศษหลอกลวงชาวบ้าน
พระองค์จึงทรงตรัสเรียกประชุมสงฆ์ เทศนาธรรมแล้ว ทรงมีพุทธบรรหาร
บัญญัติเรื่อง “ภิกษุมหาโจร ๕ ประเภท” คือ..
โจรที่รวมพวกกันได้นับร้อยนับพัน ยกพลบุกเข้าปล้นบ้านเผาเมืองฆ่าฟันผู้คน แย่งชิงปล้นเอาทรัพย์สินของเขามาเป็นของตนเอง เทียบได้กับภิกษุลามกรวบรวมบริวารแวดล้อมได้เป็นร้อยเป็นพัน ทำทีจาริกเข้าไปในหมู่บ้าน นิคม เมืองใหญ่ ใช้กลอุบายหลอกลวงให้ชาวบ้านหลงเชื่อเคารพบูชา เพื่อให้ตนได้มาซึ่งลาภสักการ จนร่ำรวยด้วยปัจจัย ๔ ภิกษุลามกอย่างนี้จัดเป็น “มหาโจรประเภทที่ ๑”
ภิกษุลามกบางรูปที่ได้เล่าเรียนพระธรรมวินัยอันล้ำลึก ซึ่งพระตถาคตผู้ทรงตรัสรู้อริยสัจได้ประกาศแล้ว กลับฉ้อฉลอ้างว่ารู้มาด้วยตนเอง คิดขึ้นมาได้เอง ไม่ได้เล่าเรียนมาจากใคร ภิกษุลามกอย่างนี้จัดเป็น “มหาโจรประเภทที่ ๒”
ภิกษุลามกบางรูปที่ปั้นเรื่องเท็จใส่ความเพื่อนพรหมจรรย์ผู้บริสุทธิ์ให้ได้รับความเสียหาย กล่าวหาโดยปราศจากมูลความจริง ก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ ภิกษุลามกอย่างนี้จัดเป็น “มหาโจรประเภทที่ ๓”
ภิกษุลามกบางรูปอยากได้ลาภยศสักการจากคฤหัสถ์
เบียดบังเอาครุภัณฑ์ ครุบริขาร เครื่องใช้ไม้สอยของวัด ที่ดินพัสดุของสงฆ์ นำไปยกให้แก่คฤหัสถ์ ประจบประแจงเอาใจ
ภิกษุเหล่านี้ถือว่าเป็น “มหาโจรประเภทที่ ๔”
ภิกษุลามกพวกสุดท้ายที่จัดเป็น
“มหาโจรชั้นเลิศ”
ทั้งในโลกมนุษย์ มารโลก และพรหมโลก คือ ภิกษุที่อวดตนว่ามีวิชาความรู้วิเศษ ทั้งๆ ที่ตนเองรู้อยู่แล้วว่าไม่เป็นความจริง ไม่สามารถทำให้วิเศษขึ้นได้จริงตามที่อวดอ้าง แต่เมื่อให้ได้มาซึ่งความเคารพนับถือกราบไหว้บูชา ได้มาซึ่งลาภสักการ อันเป็นการกระทำด้วยอุบายหลอกลวงเหมือนดังนายพรานผู้วางเหยื่อดัก* เพื่อจับกินเป็นอาหาร แม้ผู้นั้นห่อหุ้มคลุมกายด้วยผ้ากาสาวพัสตร์ ก็ได้ชื่อว่าบริโภคก้อนข้าวของชาวบ้านในแบบลักขโมยด้วยการเนรคุณ ภิกษุลามกทุศีล
“อวดอุตริมนุสสธรรม”
เช่นนี้ถือว่าเป็น
“ภิกษุอภิมหาโจรชั้นเลิศ”
ประเภทที่ ๕
ครั้นแล้วพระพุทธเจ้าทรงตรัสตำหนิติเตียนเหล่าภิกษุที่จำพรรษาอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา ด้วยประการต่างๆพร้อมทั้งทรงบัญญัติสิกขาบท “อจินไตย ๔ ประการ” เพิ่มเติม ทรงมีพุทธฎีกาห้ามไม่ให้ภิกษุทั้งหลาย อวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีในตน แต่ได้อวดวิเศษไปหลอกลวงคนอื่นไปแล้ว แม้ว่าจะมาสารภาพผิดในภายหลัง ก็ถือว่าเป็นอาบัติปราชิก
“จตุตถปราชิก”
อันเป็นกรรมหนัก
ดังนั้นภิกษุรูปใดที่
“อวดอุตริมนุสธรรม”
มีความผิดอาบัติปราชิกข้อที่ ๔ จึงเป็นครุกรรม ขาดจากความเป็นภิกษุไปในทันที แม้จะไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครกล่าวโทษฟ้องร้องก็ตาม เมื่อถูกสึกจากภิกษุไปแล้ว จะกลับมาบวชใหม่อีกไม่ได้
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
หน้าถัดไป »
1
2
3
/ 3 หน้า
ถัดไป
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...